‘เป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าปีกอสนี ในแดนชัยบูรพาถือเป็นเผ่าใหญ่เผ่าหนึ่ง’ แม่นางเยวี่ยวินิจฉัยที่มาอีกฝ่ายออกเพียงปราดเดียว สื่อจิตอธิบายแก่หลินสวิน
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มนั่นเหลือบมองศพอสูรตัวนิ่มบนยานสำเภาวูบหนึ่ง ค่อยหันสายตามองพวกหลินสวินแล้วกล่าว “สหายยุทธ์ทุกท่านมีมารยาทแล้ว สัตว์ปีศาจตัวนี้คือเหยื่อที่ข้าเล็งไว้ก่อน ไม่ทราบว่าทุกท่านส่งมอบมันมาได้หรือไม่”
ขณะกล่าวปีกเขาเอ่อท้นรวงอสนี แม้ค่อนข้างเยาว์วัยแต่มีความน่าเกรงขามชวนประหวั่น สง่างามโดดเด่นพอควร
“เจ้าบอกเป็นของเจ้าก็คือของเจ้า ข้อเรียกร้องนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ” หลินสวินเลิกคิ้วกล่าว
“เกินไป? ไม่ ข้าแค่กำลังโน้มน้าวโดยละม่อม” เด็กหนุ่มยิ้ม ท่าทางไม่ตระหนกตกใจ
“เช่นนั้นข้าบอกเจ้าเลยว่าอย่าได้คิด อย่าว่าแต่เจ้า ต่อให้คนใหญ่คนโตเผ่าเจ้ามาก็กล่อมข้าไม่ได้” หลินสวินกล่าว
“เจ้าหมายความว่าอะไร” เด็กหนุ่มมุ่นคิ้ว สีหน้าไม่สบอารมณ์ วายุอสนีทั่วร่างโหมกระหน่ำทำห้วงอากาศม้วนซัดรุนแรง
“ดูไม่ออกรึ พวกเราไม่ต้อนรับเจ้า รีบไปซะ!” โค่วซิงตวาดลั่น
“เหอะๆ ดูท่าข้าคงใจดีเกินไป คิดว่าพูดโน้มน้าวดีๆ ก็พอจัดการเรื่องนี้ได้ ใครเล่าจะคาดคิด ข้ากลับมาเจอคนเถื่อนกลุ่มหนึ่ง” เด็กหนุ่มยิ้มเยาะอวดดียิ่ง วาจาเจือความเยียบเย็นไม่ปกปิดแม้แต่น้อย
“คนเถื่อนหรือ”
หลินสวินยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวดุจหิมะ
เด็กหนุ่มชะงัก ปรามาสกล่าว “ทำไม เจ้าไม่พอใจรึ”
หลินสวินก้าวย่างกลางอากาศ มุ่งไปเบื้องหน้าพลางกล่าว “ข้าสงสัยนักว่าใครให้ความกล้ากับเจ้า ถึงกับกล้าไม่เห็นใครในสายตาเช่นนี้!”
ตูม!
ทั่วร่างเขาส่องประกายกำราบไปเบื้องหน้า
“รนหาที่ตาย!” เด็กหนุ่มยิ้มเยาะ ไม่เห็นเขาเคลื่อนไหว แต่ในมือปรากฏธนูยักษ์อสนีสีเงินคันหนึ่ง
ซูม!
ศรอสนีปานฟ้าคำรามสายหนึ่งโฉบพุ่งออกมา เจือไอชั่วร้ายทั่วฟ้า ฉีกกระชากห้วงอากาศ
หลินสวินไม่แม้แต่หลบหลีก ยื่นแขนคว้าจับแผ่วเบาก็ยึดศรไว้มั่น พลังชวนประหวั่นทั่วลูกธนูถูกกลืนกินมลายสิ้นชั่วพริบตา
“เจ้า…” เด็กหนุ่มนัยน์ตาหดรัด รู้ว่าไม่เข้าที
นี่เป็นถึงศรฟ้าคำรามอสนีเงิน สามารถสังหารมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติได้ แต่ตอนนี้กลับถูกอีกฝ่ายคว้าจับตามสะดวก!
วู้ม…
ทันใดนั้นหลินสวินเงื้อมือสะบัด ศรที่ถูกยึดบินกลับไปไวกว่าความเร็วก่อนหน้าหลายเท่าตัว ส่งเสียงกัมปนาทเสียดหู ประหนึ่งมหาสุริยันเงินยวง อานุภาพน่าสะพรึงกว่าเมื่อครู่หลายเท่านัก
แย่แน่!
เด็กหนุ่มตระหนกจนขนลุก ใช้โล่ฟ้ากำบังโดยไม่ลังเล
ก็ยินเสียงดังสนั่น โล่สีฟ้านั่นพลันแตกละเอียดเป็นละอองแสงลอยล่อง ส่วนเด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บหนัก ปากกระอักโลหิตเกือบดิ่งลงแม่น้ำพรมแดน
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร!?” เด็กหนุ่มโกรธจัด สีหน้าคล้ำเขียว
หลินสวินยิ้มเยาะ สิ่งที่เขาไม่หวาดกลัวที่สุดคือการข่มขู่เช่นนี้ กำหมัดพุ่งเข้ากำราบอีกครา
ที่ทำหลินสวินแปลกใจอยู่บ้างคือ เด็กหนุ่มจากเผ่าปีกอสนีนี่เก่งกาจยิ่ง หาใช่ผู้ที่มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติทั่วไปสามารถเทียบเทียม ปีกอสนีคู่นั้นส่องแสงระยับ ความเร็วน่าตื่นตะลึงหาใดเปรียบเกือบจะเป็นการเคลื่อนที่ในพริบตา
น่าเสียดาย เจ้าหมอนี่มาเจอหลินสวินซึ่งก่อคลื่นลมในแดนฐิติประจิม บุคคลดั่งเทพมารที่เคยสังหารราชันกึ่งระดับด้วยมือเปล่ามาแล้ว สุดท้ายจึงสู้ไม่ไหว ยืดหยัดได้ไม่กี่อึดใจก็ถูกหลินสวินกำราบด้วยฝ่ามือเดียว เหวี่ยงเขาลงบนดาดฟ้ายานสำเภา
เด็กหนุ่มจมูกปากกบโลหิต เกรี้ยวกราดแทบคลั่ง ส่งเสียงข่มขู่ต่อเนื่อง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลิ้มรสความระทม ถูกหลินสวินสั่งสอนหนักหน่วง ทรมานจนเกือบดับชีวา
“พูดมา เหตุใดต้องชิงซากสัตว์ปีศาจตัวนี้ และเจ้ามาอยู่แถวนี้คิดจะทำอะไร” หลินสวินเอ่ยถาม
เด็กหนุ่มหายใจรวยริน แววตาผูกพยาบาท กัดฟันแน่นไม่เอ่ยวาจา
หลินสวินก็ไม่เกรงใจ สำแดงทัณฑ์ทรมาน ในที่สุดก็บีบจนเด็กหนุ่มพูดความจริง
ที่แท้ส่วนลึกของบริเวณที่เต็มไปด้วยแสงดาวแถบนี้ มีสถานที่คล้ายทะเลสาบแห่งหนึ่ง ภายในไหลหลั่งด้วยกระแสวารีเงินอร่าม วิเศษอัศจรรย์หาใดเปรียบ
ทะเลสาบนั่นเพิ่งปรากฏไม่นานมานี้ เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเร้นลับบ่อยครั้ง ดึงดูดความสนใจผู้แข็งแกร่งไม่น้อย
หลังผ่านการสำรวจ ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นจึงได้ข้อสรุปในท้ายที่สุด ว่าก้นทะเลสาบนั่นซ่อนศิลาอุกกาบาตที่เรียกได้ว่าชิ้นเอก ขนาดประมาณเนินเขาลูกเล็กๆ ส่องประกายเงินยวงถ้วนทั่ว
และปรากฏการณ์ประหลาดลึกลับที่อุบัติกลางอากาศนั่นก็มาจากศิลาอุกกาบาตนี่!
ทว่าข้างๆ ศิลาอุกกาบาตมีสัตว์ใหญ่มหึมาคล้ายตะพาบมังกรตัวหนึ่งเฝ้าดูแล เมื่อใดที่มีคนเข้าใกล้ก็จะถูกสังหารทันที
ด้วยประการฉะนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งเท่าไหร่กลืนความคั่งแค้น ตายในมือสัตว์ประหลาดตะพาบมังกรนั่น
“พวกเราล่าสัตว์ประหลาดฟ้าดารามาเป็นเหยื่อล่อ ดึงดูดสัตว์ประหลาดตะพาบมังกรนั่นออกไป ค่อยฉวยโอกาสชิงศิลาอุกกาบาตนั่น” เด็กหนุ่มถูกทรมานอนาถ เจ็บปวดจนไม่อยากอยู่ต่อ บอกกล่าวทุกอย่างตามความจริง
“เหยื่อล่อ?” หลินสวินเลิกคิ้ว
“ถูกต้อง พวกเราพบว่าสัตว์ประหลาดตะพาบมังกรนั่นไม่สนใจอะไรเลย ชื่นชอบเพียงกลืนกินสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่ผิดแปลกเช่นนี้”
พูดถึงตรงนี้ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างลำบากพลางกล่าว “ที่ข้ารู้ล้วนบอกหมดแล้ว ตอนนี้เจ้าควรปล่อยข้าแล้วกระมัง”
หลินสวินกล่าว “เจ้าคิดว่ายังมีโอกาสรอดหรือ”
เด็กหนุ่มอึ้งงัน ไม่ช้าก็บันดาลโทสะ คำรามอาฆาต “ต่ำช้า หากนายน้อยเผ่าข้ารู้ต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่!”
ฟุ่บ!
หลินสวินออกแรงที่นิ้วมือปลิดชีพฝ่ายตรงข้าม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์