Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 974

สรุปบท ตอนที่ 974 อานุภาพแห่งแก่นมรรค: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 974 อานุภาพแห่งแก่นมรรค – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 974 อานุภาพแห่งแก่นมรรค จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 974 อานุภาพแห่งแก่นมรรค
หลินสวินกล่าวอย่างง่ายๆ “เขารนหาที่ตาย จากนั้นเขาก็ตายจริงๆ ทางที่ดีเจ้าอย่าเลียนแบบเขาจะดีกว่า”

สิงอี่เทียนยิ้ม รอยยิ้มของเขาเย็นชาและชวนสยอง กล่าวว่า “รนหาที่ตายหรือ ข้าว่าเจ้าคร้านจะมีชีวิตแล้วจริงๆ ฆ่าคนของข้า ยังกล้าพูดลอยหน้าลอยตา เจ้าเสียสติไปแล้วจริงๆ!”

น้ำเสียงของเขาไม่สูงนัก แต่มีไอสังหารท่วมท้นทะลักขึ้น ปีกวายุอสนีไหลเวียนด้วยรวงสายฟ้าสีน้ำเงิน อานุภาพน่ากลัว

ในเวลานี้มีเงาร่างมากมายปรากฏตัวขึ้นที่บริเวณก้นทะเลสาบ เมื่อพวกเขาเห็นภาพเหตุการณ์นี้ต่างก็ตกใจ ไม่ได้เข้าใกล้ เลือกที่จะมองอยู่ห่างๆ

ขณะเดียวกันพวกเขายังสังเกตเห็นโป่งรากสนสีทองที่เพิ่งถูกขุดขึ้นมาจากพื้นดิน แววตาล้วนแปลกไป

มีวาสนาซุกซ่อนในศิลาอุกกาบาตขนาดใหญ่นี้จริงๆ ด้วย!

“นายน้อยรีบฆ่าเขาเถอะ หาไม่หากมีคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเริ่มลำบากเอา” กลุ่มเด็กหนุ่มเด็กสาวส่วนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ แต่ละคนล้วนมีกลิ่นอายกร้าวแกร่งทรงพลัง สายตาชวนสยอง

ดูจากท่าทางของพวกเขา ทั้งหมดล้วนเป็นข้ารับใช้ของสิงอี่เทียน!

“ก็ดี พวกเจ้าจับตาดูคนอื่นๆ ข้าจะไปฆ่าเจ้าบ้านี่” สิงอี่เทียนเอ่ยปากราวกับพูดเรื่องไม่สลักสำคัญ

วู้ม!

เขายกธนูกระดูกขาวขนาดใหญ่ขึ้นมา ขึ้นลูกศรอสนีสีน้ำเงินเข้มบนสายธนู ง้างมันเบาๆ น้ำทะเลสาบหอบม้วนพลิกตลบโดยพลัน

จากนั้นระลอกคลื่นน่าสยองก็ปรากฏขึ้น วิวัฒน์กลายเป็นเงามายาวิญญาณอสนีตนหนึ่ง!

“เฮือก!” ทุกคนสูดหายใจเย็นเยียบ ล้วนจ้องไปที่คันธนูใหญ่ สายธนูสีน้ำเงินเข้มนั่นเป็นดั่งแสงไหลเคลื่อน ปรากฏลายมรรคหนาแน่น แปลกพิศวงหาใดเปรียบ

เงามายาวิญญาณอสนีตนนั้นถูกวิวัฒน์มาจากลายมรรคเหล่านี้ หยัดตระหง่านภาคภูมิในห้วงอากาศ น้ำทะเลสาบล้วนถอยหลีก เงามายาสูงมากกว่าสิบจั้ง เต็มไปด้วยกระแสอสนีคอยปกป้องสิงอี่เทียน

ภาพนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

ทุกคนตระหนักดีว่าธนูใหญ่คันนี้มีที่มาไม่ธรรมดา ส่วนใหญ่มีแต่สมบัติโบราณลึกลับเท่านั้นที่จะแสดงพลังปานนี้ออกมาได้!

หลินสวินเลิกคิ้ว ทั่วร่างทอประกายใส แต่เขาไม่กล้าชะล่าใจ

กลิ่นอายที่สิงอี่เทียนปลดปล่อยออกมานั้น เทียบกับพวกอวี่หลิงคงและซุ่นไป๋เสวียนแล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไร เป็นอย่างที่แม่นางเยวี่ยว่า คนๆ นี้ไม่ธรรมดายิ่งนัก

วู้ม!

พูดเหมือนช้าแต่กลับรวดเร็วยิ่ง สิงอี่เทียนง้างสายธนูจนเหมือนพระจันทร์เต็มดวง พาให้กลิ่นอายทั่วตัวเขาแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ปลดปล่อยพายุอสนีเดือดพล่าน วิญญาณอสนีตนนั้นพลันเงยหน้าขึ้นมองเหยียดหยันหลินสวิน

ตู้ม!

ลูกศรสีน้ำเงินเข้มพุ่งออกมา ทำลายขีดจำกัด อานุภาพคับฟ้า!

ดวงตาสีดำของหลินสวินหดรัดลงกะทันหัน ร่างพริบไหวเบี่ยงหลบไปด้านข้าง ลูกศรของคู่ต่อสู้เป็นอาวุธสังหารชิ้นโต แม้ว่าไม่ใช่สมบัติอริยะ แต่พลังของมันกลับเรียกได้ว่าน่าสะพรึง

ในขณะที่เบี่ยงหลบ เขาก็เก็บโป่งรากสนสีทองจากพื้นไปตั้งแต่ต้นแล้ว หาไม่คงถูกศรนี้ทำลายอย่างแน่นอน!

ตู้ม!

ยามเสียงระเบิดน่ากลัวดังขึ้น ลูกศรน้ำเงินเข้มได้พุ่งเข้ามาพาให้ห้วงอากาศระเบิดกระจุย เสียงดังครืนครัน พลิกคลื่นพุ่งโหมสู่ท้องฟ้า

ฉัวะ!

ศิลาอุกกาบาตขนาดใหญ่ระเบิดกระจุยกระจาย นี่เป็นเพียงแค่โดนอานุภาพที่กระจายอออกมาของศรนี้กวาดผ่านเท่านั้น

ส่วนลูกศรสีน้ำเงินเข้มนั้นพุ่งเข้าหาหลินสวินตั้งแต่ต้น ที่แปลกคือมันเหมือนกับมีวิญญาณ ไม่ว่าหลินสวินหลบไปทางใดมันล้วนตามกัดไม่ปล่อย!

หลินสวินเห็นดังนี้แววตาก็ทอประกาย บริเวณกระดูกสันหลังราวกับบิดตัวราวกับมังกรใหญ่ ง้างมือปลดปล่อยหมัดอานุภาพแพรวพราวออกมา ซัดสะเทือนศรดอกนี้

ตู้ม!

เมื่อสองฝ่ายปะทะกัน แสงเรืองรองเดือดพล่านซ่านเซ็น พาให้ที่แห่งนี้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ พายุอสนีดั่งกระแสน้ำ สุดท้ายพลังหมัดแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกลายเป็นละอองแสง

ส่วนลูกศรก็ถูกซัดสะเทือน ส่งเสียงร้องโหยหวน พุ่งกลับไปที่มือของสิงอี่เทียนทันที

ในระยะไกล ในใจทุกคนตกตะลึง ลูกศรนี้ชวนทึ่งและน่ากลัวปานใด หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงถูกต้านทานไม่ไหวอย่างแน่นอน แต่ยามนี้เด็กหนุ่มนั่นกลับใช้หมัดเปล่าสลายการโจมตีครั้งนี้!

“น่าสนใจ” นิ้วมือขวาทั้งห้าของหลินสวินชาหนึบ เอ็นกระดูกเริ่มปวดรางๆ จุดนี้พาให้เขาประหลาดใจยิ่งนัก

เขายิ่งตระหนักมากขึ้นว่าที่มาของคันธนูและลูกศรในมือสิงอี่เทียนนั้นยิ่งใหญ่นัก ในใจก็ไม่ได้ดูเบา

“เฮอะ! สกัดลูกศรมือเปล่าหรือ น่าเสียดาย ลูกศรของข้าใช้พลังเพียงสามส่วนเท่านั้น ข้าล่ะอยากดูนักว่าต่อไปเจ้ายังจะสกัดมันได้หรือไม่!”

สิงอี่เทียนหัวเราะเยาะ เจือความหยิ่งผยองและดูแคลน

ผู้คนที่อยู่ห่างออกไปต่างหวาดผวา สิงอี่เทียนเอาแต่ใจและหยิ่งผยองสมคำเล่าลือจริงเสียด้วย หากเมื่อครู่ลูกธนูมีพลังเพียงสามส่วนจริงๆ เช่นนั้นถ้าเขาแสดงพลังทั้งหมดออกมามันจะน่ากลัวปานใด

ตู้ม!

ลมฟ้าโหมกระหน่ำ ลูกศรสีน้ำเงินเข้มก็โฉบออกมาอีกครั้ง พัดโหมพายุคะนองอันน่ากลัว ประกายสายฟ้าสว่างเจิดจ้า ท่วมกลบพื้นที่แห่งนี้ไว้มิด

ลูกศรนี้ถูกเพิ่มพลังมหามรรคลงไป แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่อักโข!

มองจากไกลๆ มันเกือบจะเหมือนกับอสนีเคราะห์ที่เคลื่อนแหวกห้วงอากาศออกไป หากเปลี่ยนเป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติทั่วไปจะต้องถูกบดขยี้ในศรเดียวอย่างแน่นอน!

นี่ยังจะต้านทานได้อย่างไร

“หลีก!”

หลินสวินร้องเสียงขรึม พลังหมัดเรียบง่ายเวิ้งว้างสั่นสะเทือนฟ้าดิน สำแดงความเร้นลับดั้งเดิมของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์

ห้วงอากาศพังทลายลงกะทันหัน พลังหมัดนั้นแทบจะเหมือนกับสัญลักษณ์มหามรรค เผยกลิ่นอายหวนกลับสู่ธรรมชาติดั้งเดิม ขวางสกัดศรนี้เอาไว้

ตู้ม!

บริเวณนั้นหวีดคำราม ก้นทะเลสาบปั่นป่วน เหมือนน้ำในหม้อที่เดือดปุดๆ

ในที่สุดศรนี้ก็ถูกสกัดกั้น พลังถูกสลาย เพียงแต่ตอนที่หลินสวินจะกักขังศรนี้ไว้ ลูกศรนั้นก็พริบไหวแปลกประหลาด และย้อนกลับไปที่มือของสิงอี่เทียนอีกครั้ง

ศรดี!

หลินสวินยืนอยู่ที่นั่น แต่ในใจตัดสินได้คร่าวๆ ว่าพลังของลูกศรนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าศรนภาครามของตนเลย!

ในเวลาเดียวกันสีหน้าสิงอี่เทียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ครั้งแรกที่ถูกหยุดไว้ได้อาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ครั้งที่สองก็ยังถูกสลายพลังอีก นี่ไม่ใช่ธรรมดาแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาเคยใช้คันธนูและศรคู่นี้ยิงสังหารราชันกึ่งระดับที่แท้จริงมาแล้ว!

จุดนี้คือสิ่งที่ทำให้เขากล้าเสี่ยงมายังก้นทะเลสาบสีเงินนี้ ต่อให้จะมีคู่ต่อสู้เป็นพวกราชันกึ่งระดับทั้งกลุ่ม เขาก็ไม่เคยหวั่นกลัว

แต่ยามนี้เขากลับมองหลินสวินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ออก

“เจ้าเหยียบย่างบนมกุฎมรรคาแล้ว?” สิงอี่เทียนขมวดคิ้ว

นี่เป็นหมัดแบบนไหนกัน

ราวกับมหาสมุทร สามารถบรรจุหมื่นสรรพสิ่ง! ทั้งยังมีอานุภาพประดุจทำลายได้ทุกสิ่ง ทันทีที่ซัดออกไป คล้ายสามารถทะลวงผ่านกาลเวลาและความว่างเปล่า แข็งแกร่งและอมตะ!

นี่ก็คือพลังแห่งแก่นมรรค!

หมัดเดียว เผยให้เห็นถึงแก่นแท้ที่แฝงอยู่ในมหามรรคธาตุน้ำ สำแดงอานุภาพสูงสุดของมรรคนี้ออกมา!

นี่เป็นอานุภาพที่หลินสวินตั้งใจทดลองใช้พลังแก่นมรรค เพราะไม่เคยสำแดงมันมาก่อนเลยสักครั้ง

ตูม!

ทั่วทั้งทะเลสาบสีเงินดูคล้ายไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้ แตกระเบิดโดยพลัน น้ำในทะเลสาบที่ไหลเชี่ยวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบ พังครืนจมดิ่งลงเช่นกัน

พวกแม่นางเยวี่ยที่ซ่อนตัวอยู่ในกระบวนผนึกต่างตกใจ ราวกับว่าได้เห็นหายนะที่อุบัติขึ้นต่อหน้าต่อตา

ในเวลาเดียวกันด้านล่างของทะเลสาบ วิญญาณอสนีตนนั้นยังไม่ทันสำแดงเดชก็ถูกพลังหมัดซัดระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนสลายกลายเป็นละอองแสง

ส่วนลูกศรสีน้ำเงินเข้มนั้นถูกซัดกระจุยจนส่งเสียงโหยหวน!

ฟุ่บ!

สิงอี่เทียนโดนพลังสะท้อนกลับเจ็บแปลบที่หัวใจ กระอักเลือดออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

พลังแห่งแก่นมรรค!

เป็นไปได้อย่างไร

นี่ไม่ใช่พลังมหามรรคที่มีเพียงระดับราชันเท่านั้นจึงจะสามารถหยั่งถึงและควบคุมได้หรือ

หัวใจของเขาสั่นสะท้าน สายตาที่จับจ้องหลินสวินเหมือนมองเห็นสัตว์ประหลาดที่ไม่อาจใช้ความเข้าใจทั่วไปไปคาดคะเนได้!

“เจ้าก็รับกระบวนท่านี้ของข้าด้วย!”

หลินสวินโถมเข้ามา กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไป แหลมคมเด็ดขาดราวกับกระบี่เซียนไร้เทียมทาน มีไอสังหารครอบจักรวาล กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกทำลาย

นี่คือการสะท้อนให้เห็นแก่นมรรค

ใต้หล้าไม่มีสิ่งใดอ่อนโยนไปกว่าน้ำ แต่ความแข็งแกร่งใดๆ กลับเอาชนะมันไม่ได้!

ครึ่งประโยคแรก มีนัยถึงแก่นอัศจรรย์แห่งความไพศาลที่สามารถบรรจุรับได้ทุกอย่าง ครึ่งประโยคหลังกลับหมายถึงวิถีสังหารอันแข็งกร้าว สามารถทำลายภูผาธาราอย่างไม่มีใครเทียบได้

ในสมัยโบราณมีอริยะกล่าวว่า ความดีก็เหมือนสายน้ำ!

สิงอี่เทียนแข็งแกร่งมาก เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกัน มีชื่อเสียงในแดนชัยบูรพา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวินที่พุ่งเข้ามา เขากลับรู้สึกกดดันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แทบหายใจไม่ออก

หัวใจของเขาสั่นสะท้าน รีบเบี่ยงหลบโดยเร็ว แต่ก็ยังถูกหมัดของหลินสวินซัดเข้าให้อยู่ดี

ตึง!

ร่างของเขาราวกับถูกภูเขาชนกระแทก ลอยคว้างออกไปอย่างแรง ในระหว่างนี้เอ็นและกระดูกของเขาส่งเสียงเสียดสีดังกรอบแกรบราวกับทนรับไม่ไหว

ทวารทั้งเจ็ดของเขาหลั่งโลหิต แม้แต่จิตวิญญาณยังส่งสัญญาณแห่งการล่มสลาย

ทันใดนั้นเขาก็ร้องออกมาอย่างกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเก เลือดสดๆ ไหลเอ่อ น่าสยดสยองเป็นที่สุด!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์