Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 979

ตอนที่ 979 ช่องโหว่
แดนชัยบูรพา แคว้นกู่ชาง

บนฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำพรมแดนเป็นเมืองใหญ่ชายแดนของแคว้นกู่ชาง… เมืองเพลิงมรกต

หลายชั่วยามให้หลังพวกหลินสวินก็มาถึงที่นี่

นักผจญภัยอย่างโค่วซิง หน้าเขียว และจงอางแดงจะลาจากกันที่นี่ ก่อนจาก หลินสวินได้มอบโอสถวิญญาณและสมบัติที่จำเป็นสำหรับการฝึกปราณให้พวกเขา

มันไม่ถือว่าล้ำค่ามากมาย แต่พวกโค่วซิงต่างรู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง

เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่พวกเขาเคยพานพบในแม่น้ำพรมแดน เกรงว่าพวกเขาจะไม่มีวันลืมเทพมารหลินจากแดนฐิติประจิมคนนี้ไปชั่วชีวิต

จากนั้นหลินสวินก็เข้าสู่เมืองเพลิงมรกตพร้อมกับแม่นางเยวี่ยและเสี่ยวเหอ

เมืองเพลิงมรกตล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ ติดกับแม่น้ำพรมแดน มีความเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตชีวา ครึกครื้นหาใดเปรียบ

ในช่วงที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงน่าตกใจเกิดขึ้นในแม่น้ำพรมแดน ปรากฏความลับและวาสนามากมายที่ถูกฝังไว้นานหลายปี

สิ่งนี้ก็พาให้เมืองเพลิงมรกตกลายเป็นเมืองครึกครื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกๆ วันมีผู้ฝึกปราณจำนวนไม่น้อยถูกดึงดูดเพื่อมาสำรวจความเร้นลับและขุดหาสมบัติของแม่น้ำพรมแดน

ทันทีที่เดินเข้าประตูเมือง คลื่นเสียงวุ่นวายก็พุ่งปะทะเข้ามา

“ขายกระดูกอริยะ สมบัติศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ที่เพิ่งถูกขุดพบจาก ‘หุบเหวมารร่วง’ ของแม่น้ำพรมแดน ใช้เพียงแกนวิญญาณขั้นสูงหนึ่งพันก้อนเท่านั้น!” ไม่ไกลออกไปมีคนตั้งแผงขายของ ตะเบ็งคอร้องตะโกน

สิ่งนี้พาให้หลินสวินสูดหายใจเฮือก เร่ขายกระดูกอริยะข้างถนนเนี่ยนะ ผู้ฝึกปราณแดนชัยบูรพาเหล่านี้กร้าวแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ

“เจ้าหนุ่ม มาแม่น้ำพรมแดนเพื่อเลือกสมบัติใช่ไหม ข้าแนะนำให้ว่าควรสังเกตให้ดี ต้องแยกแยะให้ได้จึงจะดี” ชายชราวางมาดคนหนึ่งเดินเข้ามาเอ่ยเตือน

หลินสวินถึงได้รู้ว่า แม้จะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพรมแดนก็มีการนำของเก๊คุณภาพดีออกมาวางขาย อยู่ที่ว่าคนดวงซวยคนไหนจะติดกับ

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” หลินสวินกล่าว

ชายชรากล่าวยิ้มๆ “สหายน้อย ดูเจ้าท่าทางผึ่งผาย บุคลิกเหนือธรรมดา คิดว่าคงเป็นผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่บางแห่งกระมัง ข้ามีสมบัติมากมายและต้องพยายามแทบตายกว่าได้มาจากแม่น้ำพรมแดน เจ้าลองดูสิ่งนี้สิว่าเป็นอย่างไร”

ขณะพูดเขาแบฝ่ามือออก หยกโบราณสีเทาที่ไม่สมบูรณ์และมีรอยด่างชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น พร้อมกับกลิ่นอายของกาลเวลาที่ประทับอยู่ เก่าแก่อย่างยิ่ง

“หยกนี้มีอายุยาวนานจริงๆ เป็นสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง” หลินสวินพยักหน้า

“ฮ่าๆ สหายน้อยตาแหลมนัก วันนี้เจ้าและข้ามีวาสนาต่อกัน ข้าจะให้หยกชิ้นนี้แก่เจ้า” ชายชรากล่าวพลางยื่นหยกให้หลินสวิน

เมื่อเห็นเช่นนี้แม่นางเยวี่ยก็ยิ้มบางๆ จับแขนเสื้อหลินสวินเดินไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ พลางกล่าวว่า “นี่เป็นเฒ่าจอมลวง อย่าหลงกลเขาเชียว”

หลินสวินประหลาดใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร”

“ดูสิ” แม่นางเยวี่ยพยักเพยิดไป ทำสัญญาณให้ให้หลินสวินมองข้ามไป

ก็เห็นชายชราคนนั้นยิ้มและไปขวางหน้าชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหราพลางพูดว่า “สหายน้อย ดูเจ้าท่าทางผึ่งผาย บุคลิกเหนือธรรมดา คิดว่าคงเป็น… “

เยี่ยม ขนาดคำพูดก็ยังเหมือนกัน เห็นได้ชัดเป็นลูกไม้ที่ใช้เป็นประจำ

จากนั้นชายชราก็ถือโอกาสหยิบหยกโบราณที่แตกหักออกมา บอกว่าต้องการมอบให้ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มทั้งดีใจและตกใจ รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่อาจสู้ความตื๊อของชายชราได้ สุดท้ายจึงทำได้เพียงรับไว้

จากนั้นภาพที่น่าสนใจก็เกิดขึ้น ชายหนุ่มดูเหมือนจะรู้สึกเกรงอกเกรงใจ อยากจ่ายแกนวิญญาณเป็นการตอบแทนน้ำใจ

ชายชราดูลำบากใจ แต่เขาเสนอราคาที่หน้าไม่อายถึงห้าหมื่นแกนวิญญาณขั้นกลาง!

หน้าผากของหลินสวินปรากฏเส้นสีดำ ชายชราคนนี้เหี้ยมจริงๆ หยกหักชิ้นนั้นแค่เก่าแก่เท่านั้นแต่ไม่มีค่าใดๆ ถึงกับกล้าเรียกราคาเป็นแกนวิญญาณขั้นกลางห้าหมื่นก้อน!

แน่นอนว่าชายหนุ่มก็ตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นเขาก็โกรธและตั้งท่าจะโต้เถียง ก็เห็นกลุ่มผู้ฝึกปราณดุร้ายอยู่ใกล้ๆ ยิ้มเย็นตีวงล้อมเข้ามา จ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เต็มไปด้วยอาการคุกคาม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของชายชรา

ส่วนชายชราก็ถอนหายใจ “สหายน้อย เมื่อครู่ข้าเตือนเจ้าแล้วว่าต้องสังเกตให้ดี…”

ท้ายที่สุดชายหนุ่มก็มอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกไปอย่างอัดอั้นเพื่อซื้อหยกที่แตกหักชิ้นหนึ่ง และจากไปอย่างทั้งอายและโกรธ

จากนั้นภาพประหลาดก็ปรากฏขึ้น ชายชราหยิบหยกแตกหักอีกชิ้นหนึ่งออกมา และเริ่มทำการต้มตุ๋นหลอกลวงต่อ…

“เจ้าเฒ่าคนนี้!” หลินสวินเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็อดร้องอุทานไม่ได้ “เขาไม่กลัวว่าจะไปหลอกคนที่ไม่อาจล่วงเกินได้หรือ”

แม่นางเยวี่ยยิ้ม “นักต้มตุ๋นพรรค์นี้ช่ำชองมานานแล้ว เชี่ยวชาญการหลอกลวงคนนอกเช่นเจ้าโดยเฉพาะ เขาได้แยกแยะไว้อย่างละเอียดก่อนลงมือแล้ว หากพบเจอคนที่ไม่อาจล่วงเกินได้ เขาก็จะไม่ลงมือ”

“พูดอย่างนี้ แสดงว่าเมื่อกี้ข้าถูกมองว่าเป็นแกะอ้วนพีหรือ” หลินสวินเลิกคิ้ว

“วางใจ ถ้าสัมผัสได้ว่าเจ้าไม่ใช่คนที่หาเรื่องได้ง่ายๆ ตาเฒ่าจอมหลอกลวงนั่นจะต้องขอโทษจากใจจริงแน่นอน” แม่นางเยวี่ยยิ้มกล่าว

“ลูกไม้นี้ลุ่มลึกมากทีเดียว” หลินสวินถอนหายใจ

“หนอนแม่ลูกหยินหยาง ดุร้ายติดสิบอันดับแรกในยุคบรรพกาล เพียงคู่เดียวเท่านั้น หากเดินผ่านมาแล้วห้ามพลาดเป็นอันขาด!” ไม่นานก็มีชายชราอีกคนแหกปากตะโกน กอดไหกระเบื้องเคลือบสีเข้มผุพังใบหนึ่ง

หลินสวินก้าวไปข้างหน้า เห็นว่าหม้อนั้นก็น่าทึ่งเช่นกัน ล้วนเต็มไปด้วยระลอกคลื่นคลุมเครือ อายุก็ยาวนานและไม่ธรรมดายิ่ง

เพียงแต่ในไหกระเบื้องเคลือบนั้นมีหนอนไหมสองตัวที่ไม่เตะตานอนอยู่บริเวณก้นไห

‘เฒ่าต้มตุ๋นอีกคนแล้ว’ หลินสวินพึมพำกับตัวเอง

ชายชรายิ้มและพูดว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้ามีความคิดอย่างไรข้ามองออกทั้งนั้น ว่าแต่เจ้าเคยได้ยินเรื่องผีเสื้อแหวกรังไหมหรือไม่ ยามเมื่อหนอนแม่ลูกหยินหยางยังเด็กพวกมันจะมีลักษณะเช่นนี้ รอตอนที่พวกมันโผล่ออกมาจากรังไหม ต้องทำให้เจ้าประหลาดใจมากอย่างแน่นอน “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์