ทันใดนั้นบรรยากาศทั้งที่นั้นพลันเปลี่ยนไป
อสูรเฒ่าแรดดำเป็นถึงราชันผู้หนึ่ง กลับถูกคนรุ่นเยาว์คนหนึ่งฆ่างั้นหรือ
ข่าวนี้น่าตะลึงเกินไปแล้ว!
“ว่ากันว่าเขาใช้กระบวนผนึกมรรคราชันที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่แรกทำร้ายอสูรเฒ่าแรดดำ ความจริงศักยภาพไม่ได้แข็งแกร่งเพียงนั้น” สาวงามอธิบาย
บรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนแรกผ่อนคลายลงไม่น้อย ผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์เหล่านี้แอบโล่งอกไม่มากก็น้อย
สีหน้าของฉู่เป่ยไห่แฝงความเย็นเยียบ เดิมทีเขาเพียงแค่สนใจเจ้าคนที่ปลอมตัวเป็นผู้สืบทอดอารามกษิติครรภ์เท่านั้น
ใครจะคิดว่า กลับเป็นการเปิดโปงเด็กหนุ่มนามว่าหลินสวินโดยไม่ได้ตั้งใจ!
เขาเคยขัดแย้งกับพวกหนานกงหั่วตั้งแต่อยู่ในโลกชั้นล่างแล้ว
จากนั้นก็แย่งหินผนึกมรรคที่เดิมทีควรเป็นของแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ไป
แม้แต่การพนันเมื่อครู่นี้ ยังทำให้พวกหนานกงสุ่ยเสียแกนวิญญาณไปมหาศาล
นี่ยังไม่เท่าไหร่ แต่พอรู้ว่าอสูรเฒ่าแรดดำเองก็ถูกหลินสวินฆ่า และเจ้าหมอนี่ได้ถูกสำนักของพวกเขาประกาศจับแล้ว นี่ทำให้ฉู่เป่ยไห่ทนไม่ได้จริงๆ
“ศิษย์พี่ฉู่อย่าเสียเวลาอีกเลย ต้องรีบเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้!” หนานกงหั่วโวย
“หินผนึกมรรคยังอยู่ในมือเขา ต้องชิงกลับมา หินนั่นมีเลือดอริยะหลงเหลืออยู่ ที่มาไม่ธรรมดา มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะซ่อนมรดกรอยสลักวิญญาณเอาไว้!” ชายชราชุดคลุมดำนั่งไม่ติดแล้ว
เขานามว่าเซวียจิ้ง เป็นปฐมาจารย์สลักวิญญาณผู้หนึ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมรู้มูลค่าของหินผนึกมรรคชิ้นนั้นดี
พูดไปแล้วในใจเขาเองก็เสียใจอย่างมาก ครั้งแรกที่เห็นหินนั่น เขายังมองผิดคิดว่าเป็นเพียงของธรรมดา หลังจากออกมาแล้วจึงนึกขึ้นได้ว่า หินธรรมดาก้อนนี้มีที่มาที่ไม่ธรรมดาอย่างมาก
แต่ตอนที่เขาให้ชายหนุ่มชุดคลุมม่วงไปซื้อ กลับช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว
“การตายของอสูรเฒ่าแรดดำต้องมีคำอธิบาย นี่เป็นการตัดสินใจของสำนัก พวกเราจะเพิกเฉยไม่ได้” สาวงามเองก็ส่งเสียง
“ก็ดี เขาคงยังไม่รู้ตัวว่าฐานะรั่วไหลแล้ว คงยังหนีไปได้ไม่ไกล ศิษย์น้องกู้อวิ๋นถิง การเคลื่อนไหวครั้งนี้ให้เจ้าเป็นคนจัดการ”
ฉู่เป่ยไห่ใคร่ครวญคร่าวๆ แล้วตัดสินใจ
“ข้าหรือ” กู้อวิ๋นถิงอึ้ง
“เจ้ากับเขามาจากที่เดียวกัน รู้จักนิสัยของเขาที่สุด มีเจ้าออกเคลื่อนไหวข้าเองก็วางใจ” ฉู่เป่ยไห่พูด
“แต่…”
กู้อวิ๋นถิงลังเลเล็กน้อย
พูดตามตรงก็เพราะเขากับหลินสวินมาจากที่เดียวกัน ตอนที่รู้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือการไปสังหารหลินสวิน เขาจึงตัดสินใจไม่ได้ไปชั่วขณะ
ก่อนหน้านี้เขาเคยเกิดความขัดแย้งกับหลินสวินจริงๆ แต่นั่นมันเรื่องในอดีต ผ่านไปหลายปีแล้ว เขามองข้ามไปตั้งนานแล้ว
ให้เขาจัดกำลังคนไปเล่นงานหลินสวินตอนนี้ ก็ทำไม่ลงจริงๆ
ถึงอย่างไรอย่างน้อยพวกเขาล้วนมาจากโลกชั้นล่าง นี่เป็นความรู้สึกของการเป็น ‘คนบ้านเดียวกัน’ อย่างหนึ่ง
“ทำไม เจ้ามีคำถามหรือ” สายตาของฉู่เป่ยไห่มองกู้อวิ๋นถิงอย่างนิ่งสงบ สีหน้าที่ดูเหมือนเรียบเฉย กลับนำพาความกดดันให้กู้อวิ๋นถิงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ได้!” กู้อวิ๋นถิงฝืนใจตอบรับไว้
“ศิษย์น้องหนานกงหั่ว การเคลื่อนไหวครั้งนี้ให้เจ้าเสริมทัพช่วยศิษย์น้องกู้อวิ๋นถิง จำไว้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา ศักยภาพไม่สามารถดูแคลนได้ ห้ามประมาทเด็ดขาด หากจำเป็นก็สามารถเชิญให้ผู้อาวุโสระดับกึ่งราชันในสำนักลงมือได้เลย” ฉู่เป่ยไห่กำชับ
เขาดูคนแม่นมาโดยตลอด จากคำอธิบายเมื่อครู่นี้ทำให้เขาตระหนักได้ว่า หลินสวินคนนี้จะต้องเป็นคนที่จัดการยากอย่างแน่นอน
หากเป็นผู้ฝึกปราณทั่วไป ไม่ถึงขั้นที่เขาจะกำชับอย่างจริงจังขนาดนี้
“ได้!” หนานกงหั่วตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เขาอยากแก้แค้นเพื่อล้างความอับอายจนรอไม่ไหวแล้ว การถูกหลินสวินเตะจนก้นลายในตอนนั้น ทำให้หลังจากกลับสำนักเขาสู้หน้าใครไม่ได้เป็นเวลานาน
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้เวลาแก้แค้นแล้ว!
แต่พอได้รู้การจัดการนี้ กู้อวิ๋นถิงพลันลอบถอนหายใจอีกครั้ง รู้ว่าที่ฉู่เป่ยไห่ทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามิได้เชื่อใจตนอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะให้หนานกงหั่วมาเสริมทัพตนเพื่ออะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์