ตอน บทที่ 1020 คนที่ต้องตบก็คือเธอ จาก บัญชามังกรเดือด – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1020 คนที่ต้องตบก็คือเธอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี บัญชามังกรเดือด ที่เขียนโดย สวรรค์ไร้เทียมทาน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ปรมาจารย์……คุณ ทำไมคุณต้องตบฉันด้วย ?”
หวางเหมยกุมใบหน้าแถบขวาที่ถูกตบอย่างจนตรอก ตกใจสุด ๆ
เธอทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ ?
ต้องถูกอาจารย์หลิวตบต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ ?
และเป็นการถูกตบหน้าอีกด้วย !
“เผี๊ยะ ๆ”
หลิวเต๋อตบด้วยหลังมืออีกฉาดหนึ่ง !
ในใจของเขากลัวฉินเทียน กลับไม่เคยมืออ่อนกับพวกคนที่เคารพยำเกรงเขานี้เลย
“คนที่ต้องตบก็คือเธอ !”
“ผู้หญิงโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เห็นว่าฉันกำลังคุยอยู่กับคุณฉินหรือไง ? เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดสอด !”
“ขืนยังกล้าไม่เคารพคุณฉินอีก ผมจะไม่ยกโทษให้คุณ !”
หลังจากหลิวเต๋อตะคอกใส่หวางเหมยแล้ว ชั่วพริบตาก็เปลี่ยนเป็นหน้าตาเยินยอ มองฉินเทียนอย่างเอาใจ “คุณฉินครับ เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้พูดวิพากษ์วิจารณ์คุณอย่างเต็มที่ ไม่รู้จักชั่วดีเลยจริง ๆ ”
“ผมตบเธอเพื่อระบายอารมณ์ให้คุณแล้ว คุณพอใจไหมครับ ?”
ฉินเทียนจ้องมองหลิวเต๋ออย่างเย็นชา ใบหน้าไม่มีความปีติยินดีใด ๆ เลย
พูดตามตรง นักต้มตุ๋นที่เที่ยวหลอกลวงไปทั่วพวกนี้ เขาขี้เกียจที่จะพูดกับเขาสักคำเลยด้วยซ้ำ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลงมือกับหลิวเต๋อเลย
ทั้งนี้จะได้ไม่ต้องเปื้อนมือตัวเอง !
ฉินเทียนมองซูเหวินเฉิงที่อยู่ข้างขวา “เหวินเฉิง แม่นายถูกคนตบหน้าต่อหน้านาย ทนความโกรธนี้เอาไว้ได้เหรอ ?”
“ทนไม่ได้ !” ซูเหวินเฉิงถกแขนเสื้อขึ้นแล้ว สาวเท้ามาข้างหน้าหลิวเต๋อ “ไอ้หนู เมื่อกี้ฉันขัดตานายแล้ว !”
“วิชาต้มตุ๋นที่หลอกลวงนั่นของนาย หลอกคนอื่นก็ช่างเถอะ ถึงกับมาหลอกตระกูลซูฉันถึงที่ !”
“หลอกคนอื่นก็ช่างเถอะ ถึงกับกล้าตบหน้าแม่ฉัน ? ใครแม่งเป็นคนให้ความกล้ากับแก !”
ว่าแล้ว ซูเหวินเฉิงก็จับปกเสื้อของหลิวเต๋อขึ้นมา “วันนี้ฉันไม่คืนฉาดนี้ให้แก ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่แล้ว !”
หลิวเต๋อถูกซูเหวินเฉิงที่มีรูปร่างสูงใหญ่หิ้วขึ้นมา ชั่วพริบตาก็ไร้ความมั่นใจ
ต่อหน้าผู้เลื่อมใสที่โง่เขลานั้น เขาเป็นปรมาจารย์อภิปรัชญาที่ยืนอยู่เหนือมวลชน
แต่ในสายตาของคนพวกนี้ที่ไม่เชื่อเขา เขาไม่นับว่าเป็นแม้กระทั่งตดด้วยซ้ำ !
หลิวเต๋อรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของตัวเองเป็นอย่างดี คำนับขอร้องให้ยกโทษด้วยเสียงเบา “คุณครับ เมื่อกี้ผมมีตาหามีแววไม่ คุณอย่าได้โกรธเลยนะครับ”
“โกรธ ?” ซูเหวินเฉิงแสยะยิ้มเย็นชา “กูบ้าไปแล้วถึงได้โกรธกับสวะพวกนี้อย่างแกไง !”
“ทำไมเมื่อกี้นายตบแม่ฉัน กูจะเอาคืนกลับมาเท่าตัว !”
ว่าแล้ว ซูเหวินเฉิงแกว่งมือขวาเป็นวงกลม แล้วตบไปที่หน้าของหลิวเต๋อ !
หงส์แดงตกใจจนใบหน้าขาวซีด รีบไปดึงซูเหวินเฉิง “ไม่อนุญาตให้นายทำร้ายอาจารย์ของฉัน ไม่อย่างนั้นละก็ ฉัน……”
“แม่งเอ๊ย !”
ซูเหวินเฉิงด่ากราด ถีบหงส์แดงจนกระเด็นออกไป
ลูกศิษย์ทั้งสามคนที่เหลือสบตากันแวบหนึ่ง นึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของฉินเทียน พากันก้มหน้าลง ใครก็ไม่กล้าเดินไป
คราวนี้ ใครกล้าออกหน้า จะถูกโดนดึงออกมาแล้วกระหน่ำตีอย่างแน่นอน !
การเคารพอาจารย์และเคารพวิชาเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริง แต่ชีวิตน้อย ๆ ของพวกเขา สำคัญยิ่งกว่า !
หลังจากถีบหงส์แดงกระเด็นไป มือขวาของซูเหวินเฉิง ตบหลิวเต๋อครั้งแล้วครั้งเล่า
“เผี๊ยะ !”
“เผี๊ยะ เผี๊ยะ !”
“เผี๊ยะ เผี๊ยะ เผี๊ยะ !”
ซูเหวินเฉิงที่อยู่ภายใต้ความโกรธ ตบหลิวเต๋อไปหกฉาดในอึดใจเดียว
ตบใบหน้าสองข้างของหลิวเต๋อจนช้ำมาก ๆ ในทันที เหมือนหมูหลังจากถูกกระหน่ำตบ !
หลิวเต๋อเจ็บจนหวาดกลัวสุดขีด เลือดไหลที่มุมปาก แม้กระทั่งฟันในปากก็ถูกตบกระเด็นไปหลายซี่
ในมุมมองของหลิวเต๋อ คำว่าไสหัวจากปากของหม่าหงเทา เท่ากับการปล่อยเขาไป
ขอเพียงเขาสามารถมีชีวิตต่อได้ ขายหน้าก็ช่างปะไร !
รอให้ออกจากตระกูลซู เปลี่ยนไปสถานที่อื่น เขายังคงเป็นปรมาจารย์อภิปรัชญาที่อยู่เหนือมวลชนอยู่ดี !
จินถังเองก็รังเกียจคนต่ำต้อยที่ประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพลพวกนี้เหมือนกัน เลยถอยหลังไปสองก้าวอย่างอารมณ์เสีย “ไสหัวไป !”
“ได้ครับ ๆ ผมจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้ !” หลิวเต๋อเหมือนยกภูเขาออกจากอก แล้วรีบมาที่ข้างหน้าไป๋หลิง “พระโพธิสัตว์หญิงที่งดงามท่านนี้ ขอร้องให้คุณเมตตา ปล่อยผมไปเถอะนะครับ !”
ไป๋หลิงไม่ได้รีบไล่ให้หลิวเต๋อไป เหมือนอย่างหม่าหงเทากับจินถังแบบนั้น แต่ก้มตัวลงเล็กน้อย พูดแสยะยิ้มด้วยเสียงเบา ๆ “เมื่อกี้นายว่า ฉันเป็นใคร ?”
“คุณเป็นพระโพธิสัตว์หญิงครับ พระโพธิสัตว์หญิงที่งดงาม !” หลิวเต๋อรีบประจบประแจง “คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเจอมาเลย สวยกว่าพระโพธิสัตว์หลายร้อยหลายพันเท่าในหัวใจของผมเลยครับ !”
“อ้อ——”ไป๋หลิงโดนเอาใจจนดีใจ จับเส้นผมของตัวเองแล้วมองไปยังลิงขนทองที่อยู่ข้าง ๆ กะทันหัน “นายบอกฉันมาก่อนว่า เจ้าลิงตัวนั้น เป็นชีเทียนไต้เสี่ยจริงหรือเปล่า ?”
“เอ่อ……”
หลิวเต๋อลังเลอยู่สักพัก ตบหน้าตัวเอง จะยังไงก็ไม่ยอมพูดออกมา
“ไม่อยากพูด ?” ไป๋หลิงหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วหันหน้าไปมองฉินเทียน “พี่เทียน เขาไม่ซื่อสัตย์ ฉันว่าจะไม่ปล่อยเขาไป !”
ฉินเทียนหัวเราะเบา ๆ “แล้วแต่เธอแล้ว จะจัดการยังไงก็ได้ทั้งนั้น”
“ไม่ ๆ ๆ พระโพธิสัตว์หญิงไว้ชีวิตด้วย พระโพธิสัตว์หญิงไว้ชีวิตด้วยครับ !” หลิวเต๋อร้องทุกข์ไม่หยุด โขกหัวขอร้องให้ยกโทษให้กับไป๋หลิง “มัน……มันไม่ได้เป็นชีเทียนไต้เสี่ยหรอกครับ”
“ไม่ได้เป็นชีเทียนไต้เสี่ย ? งั้นนายบอกฉันมา ทำให้มันเก่งขนาดนั้นได้ยังไง ?”
ไป๋หลิงยิ้มถามต่อ “ฉันยังไม่เคยเห็นลิงที่เป็นกังฟูมาก่อนเลย”
“จริงสิ ยังมีที่เมื่อกี้ที่อยู่ ๆ ก็จับได้นั่น ในฝ่ามือของมันทำไมถึงได้มีก้อนหินสีดำก้อนหนึ่งเพิ่มขึ้นมากะทันหันล่ะ ?”
“เอ่อ……” หลิวเต๋อเริ่มลังเลอีกครั้ง
ไป๋หลิงเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว “รีบพูดมา ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้นายตายโดยไร้ที่กลบฝังเลย !”
“ครับ ๆ ๆ ผมพูด ผมพูด” หลิวเต๋อรีบขอร้องให้ยกโทษให้ ชี้ไปที่ลิงขนทองตัวนั้นอย่างสั่นเทา “สาเหตุที่มันฟังคำพูดของผม เป็นเพราะมีความลับอันลี้ลับ”
ว่าแล้ว หลิวเต๋อหยิบบาตรทองขนาดเล็กสองชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ออกมา แล้วเคาะเบา ๆ “มานี่”
บาตรทองส่งเสียงไพเราะน่าฟัง และเจ้าทองที่สีหน้าไร้ความรู้สึก ก็เดินมาหาเขาอย่างว่านอนสอนง่ายอย่างที่คาดไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...