แววตาของซูเหวินเฉิงดูเลื่อนลอย ราวกับร่างอันไร้ซึ่งวิญญาณ
เขาหยิบไม้เท้าจันทน์ที่หักเป็นท่อนเล็กท่อนน้อยเหล่านั้นอย่างซึมกะทือ และจู่โจมเข้าหาฉินเทียนอีกครั้ง
เสียงเหวี่ยงจากไม้เท้าดังขึ้น ฉินเทียนเอี้ยวตัวหลบไปทางขวา
“ก๊อก!”
ไม้เท้าร่วงลงอย่างตรงเผงบนหัวของอาหนู
การจู่โจมครั้งนี้ ทำให้อาหนูหัวแตกจนเลือดไหล!
“ไอ้สารเลว ไม่ใช่ให้จัดการฉัน ให้ไปฆ่าฉินเทียน ไปฆ่าฉินเทียนซะ!”
อาหนูไม่ได้สนใจใบหน้าอันเขียวช้ำ เขายื่นมือไปกุมศีรษะที่มีเลือดไหลไม่หยุดเอาไว้
จากนั้นแรงลมต่างพัดไล่ฝูงตะขาบเหล่านั้นไป “ไอ้พวกขยะที่ไร้ค่า ไปสิ! ไปเลย! ไปกัดเขาให้ไส้ขาด ให้มันตายทั้งเป็นไปเลย!”
ฝูงตะขาบกรูกันไปข้างหน้า ชั่วพริบตาเดียวก็ล้อมฉินเทียนเอาไว้ได้
แต่อย่างไรซะ พวกมันเข้าใกล้ฉินเทียนได้เพียงครึ่งก้าวเท่านั้น มันไม่สามารถเข้าใกล้ไปได้มากกว่านี้แล้ว
รอบตัวของฉินเทียน ราวกับมีกำแพงอากาศที่มองไม่เห็น ทำให้ฝูงตะขาบไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไปได้
บรรดาตะขาบยั้วเยี้ยพวกนั้นยังคงพยายามปีนขึ้นไปอย่างไม่คิดชีวิต ซ้อนขึ้นไปทีละตัวทีละตัว สูงขึ้นเรื่อยๆ จนราวกับภูเขาอันพะเนินเทินทึก
เมื่อเห็นแมลงพิษพวกนี้แล้วฉินเทียนหัวเราะเย้ยหยัน และเดินลมปราณด้วยมือขวา จากนั้นปล่อยพลังไปทางอาหนูทันที
ฝูงตะขาบยั้วเยี้ยที่กรูเข้ามาเมื่อครู่นี้ บ้างก็หลุดลอยละลิ่วไปตามแรงของฉินเทียน และพุ่งเข้าหาอาหนู!
ฝูงตะขาบส่งเสียงดังแกร๊กๆ ชั่วพริบตาเดียวพวกมันก็กระเด็นกระดอนไปอยู่บนหัวของอาหนูกระจายติดเต็มทั่วตัวไปหมด
ตะขาบส่วนใหญ่เมื่อได้สัมผัสกับผิวหนังของอาหนูยมทูตพวกมันกลับได้รับพิษจากตัวเขา จนหงายท้องตายกันไปเสียด้วยซ้ำ
บางตัวที่หล่นอยู่บนบาดแผลบนหัวของอาหนูพอดี พวกมันราวกับผีหิวโซตะกละตะกลาม เจาะทะลวงบริเวณบาดแผลนั้นกันอย่างไม่คิดชีวิต
“ฟ่อ——”
อาหนูสูบเอาไอเย็นเข้าไปหนึ่งเฮือก และยื่นมือไปจับตะขาบเหล่านั้น และฉีกมันออกดอย่างโหดเหี้ยม!
ตะขาบที่ถูกทำให้โมโหพวกนั้นต่างแยกเขี้ยวยิงฟัน ส่งเสียงขู่ดังฟืดฟืด
มีอยู่สองตัวที่ไม่ทันได้ระวังจนถูกจับได้ มันกัดลงที่มือของอาหนูด้วยความดุร้าย!
อาหนูถูกยั่วโมโหจนโกรธจัด เขาอ้าปากกว้างและจับตะขาบพวกนั้นยัดเข้าปากไปทันที
เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดดังอยู่สักพัก พวกมันถูกเคี้ยวกลืนลงท้องไปอย่างโหดเหี้ยม
ฉินเทียนดูด้วยความรู้สึกสยดสยอง
เมื่อก่อนตอนปฏิบัติภารกิจ เขาเคยถูกขังอยู่ในภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เพื่อความอยู่รอด เขาจำเป็นที่จะต้องจับพวกงูแมลงหนูมดมากินเป็นอาหารประทังชีวิต
ตอนนั้นเพื่อให้มีชีวิตรอด มันบีบบังคับให้เป็นเช่นนั้น
ส่วนอาหนูชัดเจนว่ามันคือความโหดร้ายทารุณที่กลายเป็นนิสัย!
เมื่อรวมกับพิษทั่วร่างของอาหนูแล้วฉินเทียนมีท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมา จนเกิดความคิดสังหารไปชั่วขณะ
คนพันธุ์นี้ ยังไงก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้!
หลังจากตัดสินใจแล้วฉินเทียนมองไปทางหม่าหงเทาที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
เห็นหม่าหงเทากำลังกวัดแกว่งมีดม้งจนเกิดเสียงวี๊ดวี๊ด ฟาดฟันจนฉีเฟยล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
“จัดการพวกมันให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
ฉินเทียนสั่งการด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา ส่วนเขาพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศแล้ว ราวกับพญาวิหคที่กำลังสยายปีก!
ซูเหวินเฉิงผู้เสียสติยังคงตามไล่ฆ่าฉินเทียนอย่างไม่หยุด เมื่อเห็นเขาทะยานตัวขึ้นไปแล้ว เขาก็คิดที่จะตามขึ้นไปด้วย
แต่ด้วยกำลังขาที่ไม่แข็งแรง ทำให้เขาร่วงตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
ไม้เท้าครึ่งท่อนในมือของเขาที่มีหนามไม้อยู่ แทงเข้าบริเวณสะบ้าเข่าของเขา จนมีเลือดไหลซึมออกมา
ถึงกระนั้น ซูเหวินเฉิงก็ยังคงไม่ได้สติอยู่ดี
เขาลุกขึ้นจากพื้นด้วยสายตาอันเลื่อนลอย คิดที่จะลากฉินเทียนลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ส่วนฉินเทียนฉวยโอกาสนี้เหยียบบนไหล่ของเขา และใช้ขาเตะเพียงนิดเดียว ก็ทำเอาซูเหวินเฉิงล้มลงไปกองกับพื้นได้แล้ว
จากนั้นตัวของเขาเปรียบเสมือนนกกระเรียนขาว พุ่งตรงเข้าหาอาหนูทันที!
อาหนูกำลังกลืนกินตะขาบที่อยู่ในปากอยู่ บาดแผลบนหัวที่มีเลือดไหลลงมานั้น เปื้อนไปทั่วครึ่งใบหน้าของเขาหมดแล้ว
มองผ่านๆ เหมือนกับปีศาจแวมไพร์ที่หลุดออกมาจากขุมนรกอย่างไรอย่างนั้นเลย!
ส่วนฉินเทียน ลอยขึ้นไปกลางอากาศแล้ว เขาใช้ขาขวาเตะไปที่บริเวณลูกกระเดือกของอาหนูอย่างแรง!
ลูกเตะนี้รุนแรงและรวดเร็ว จนไม่สามารถกันเอาไว้ได้!
“แคร๊ก!”
หลังจากเกิดเสียงชัดเจนนั้นแล้ว ลูกกระเดือกของอาหนูถูกเตะจนแตกเป็นจุณ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...