บทที่ 1069 ช่วยเหวินเฉิงด้วย – ตอนที่ต้องอ่านของ บัญชามังกรเดือด
ตอนนี้ของ บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1069 ช่วยเหวินเฉิงด้วย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฉินเทียนและพวกของเขาเดินออกจากป่าไผ่อย่างปลอดภัย เดินไปตามท้องถนนดึงดูดความสนใจจากผู้คน
ข่าวนี้เหมือนกับแผ่นดินไหว แพร่กระจายภายในเหิงหลิ่งอย่างรวดเร็ว
ผู้คนที่ไม่อยากจะเชื่อต่างก็รีบกรูเข้ามาดู มองสำรวจฉินเทียนและพวกเขา
อย่างไรก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลย พวกเขาสามารถรอดชีวิตจากเงื้อมมือของตระกูลฉี
ท่ามกลางพวกเขานั้นมีสมาชิกของสมาคมเหิงหลิ่ง
นักธุรกิจเหล่านี้ ภายในดวงตาของพวกเขานั้นปรากฏความสนใจ
หลายปีที่ผ่านมานี้ถูกครอบงำโดยตระกูลฉี ทุกคนกล้ำกลืนความโกรธเคือง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเห็นคนกล้าต่อต้านตระกูลฉี อีกทั้งยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยด้วย ทำให้มุมมองทั้งสามของพวกเขาแตกสลาย!
แต่ทุกคนเพียงแค่ติดตามฉินเทียนและคนอื่นจากระยะไกล ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าพูดอะไร เกรงว่าจะยั่วโทสะของตระกูลฉี
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเห็นว่าท้ายที่สุดแล้วตระกูลฉีนั้นพ่ายแพ้หรือไม่
และวิชากู่ของตระกูลฉีนั้นร้ายกาจมาก ยากที่จะปล่อยให้ฉินเทียนและคนเหล่านี้กลับไป ตกดึกจะต้องตายด้วยพิษกู่
ท่ามกลางสายตาของทุกคน ฉินเทียนและคนอื่นต่างก็เข้าไปภายในบ้านตระกูลซูด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
เมื่อประตูใหญ่ปิดลง พลันตัดขาดจากสายตาของผู้ที่สัญจรไปมาลงทันใด
ฉินเทียนพาพวกเขาไปยังสวนด้านหลังที่พวกเขาอาศัยอยู่
ทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้สวนหลังบ้าน พวกเขาได้ยินเสียงไก่บินสุนัขกระโดด[1]
“เหวินเฉิง หยุดทุบตีได้แล้ว ฉันเป็นพ่อแกนะ!”
“ใช่แล้วเหวินเฉิง แกเป็นอะไรไปเนี่ย? ทำไมถึงทุบตีฉันด้วย? อยากจะตีแม่ของแกให้ตายเลยใช่ไหม!”
เสียงร้องไห้ของซูยู่คุนและหวางเหมยดังสนั่น
ฉินเทียนเข้าใจเหตุการณ์ทันใด ดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขาจากไป ซูยู่คุนและหวางเหมยนั้นจะปล่อยซูเหวินเฉิง
จากนั้นซูเหวินเฉิงถูกหนอนกู่ควบคุม คาดว่าได้โจมตีพวกเขาอย่างไม่เลือกหน้า
เขาหัวเราะอย่างอดไม่ได้ ก้าวเท้าเดินเข้าไปภายในสวน
แน่นอนว่าด้านในนั้นของเกะกะระเนระนาด
เศษกระเบื้องแตกกระจายอยู่ทั่วพื้น ส่วนใหญ่เป็นของที่เคลื่อนย้ายง่าย เช่น กระถางดอกไม้และชุดน้ำชา
คาดว่าสองสามีภรรยาคู่นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงและความบ้าคลั่งของซูเหวินเฉิง สิ่งของใดที่อยู่ข้างมือและสามารถโยนได้ พวกเขาก็โยนออกมา
ฉินเทียนกลั้นยิ้มและจ้องมองโดยรอบ เห็นเพียงหวางเหมยและซูยู่คุนนั้นอยู่ในสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ไม่เพียงแต่ใบหน้าฟกช้ำและบวมเท่านั้น แถมยังเดินกะโผลกกะเผลกอีกด้วย
และซูเหวินเฉิงถือม้านั่งไม้มะฮอกกานีไว้ในมือของเขา ราวกับนายพลใหญ่ผู้น่าเกรงขามไล่ตามทุบตีพวกเขา
สายตาของหวางเหมยนั้นเฉียบคม เมื่อเห็นฉินเทียน ขณะนั้นราวกับว่าเห็นผู้ช่วยชีวิต
เธอวิ่งไปหาฉินเทียนทันที “ฉินเทียน นายกลับมาแล้ว! เหวินเฉิงของพวกเรานั้นคลุ้มคลั่งแล้ว เขาจะทุบตีพวกเราให้ตาย!”
“ใช่แล้วฉินเทียน รีบช่วยพวกเราด้วย! ถ้านายไม่จัดการ พวกเราจะต้องถูกทุบตีจนตาย!” ซูยู่คุนโอดครวญ
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสกว่าหวางเหมย เห็นได้ชัดว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานแทนเธอไม่น้อย
หม่าหงเทาและชุยหมิงอยู่ด้านหลังของฉินเทียน เมื่อเห็นท่าทางลำบากของหวางเหมยและซูยู่คุน พวกเขาหัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่าๆ มหันตภัยมาเยือนคนอยู่บ้านเดียวกัน คนภายในครอบครัวไม่รู้จักกันแล้วหรือ?”
“ใช่แล้ว ทำไมครอบครัวเดียวกันถึงได้ทุบตีกัน? จุ๊จุ๊จุ๊ อันตรายมากเลย พี่เทียน เหล่าหม่า พวกเราอย่าได้เข้าไปวุ่นวายเรื่องของครอบครัวพวกเขาเลย รีบไปกันเถอะ”
ชุยหมิงจงใจแสดงท่าทางฉุดดึงฉินเทียนออกไป หวางเหมยและซูยู่คุนตื่นตระหนกและรีบวิ่งเข้ามาคว้าแขนของฉินเทียนไว้ “ฉินเทียน นายไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
“เหวินเฉิงของพวกเราคลั่งแล้ว เขาอยู่เคียงข้างนายตลอดเวลา นายจะต้องรับผิดชอบ ดูแลเขาให้ดี!”
“ใช่ ไม่ใช่ว่านายนั้นโอ้อวดทักษะการแพทย์ชั้นสูงอยู่ตลอดหรอกหรือ? รีบดูแลรักษาเหวินเฉิงของพวกเรา พวกเราเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว ไม่สามารถให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาได้”
สองสามีภรรยาฉุดรั้งฉินเทียนและไม่ยอมปล่อย ซูเหวินเฉิงถือม้านั่งยาวและพุ่งเข้ามา
เขาเอ่ยอย่างเยือกเย็น “พวกคุณพูดถูก ถ้าหากไม่มีซูซูก็คงไม่มีฉินเทียนอย่างผมในวันนี้”
“เป็นเพราะเธอเช่นกันที่ทำให้ตระกูลซูของพวกคุณนั้นลืมตาอ้าปากได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องเหล่านั้นที่พวกคุณทำไว้กับเธอ คิดว่าพวกคุณจะลอยนวลได้จริงๆงั้นเหรอ?”
“พวกคุณข่มเหงสองแม่ลูกซูซู หากทำการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะติดคุก!”
คำพูดของฉินเทียนนั้นทำให้หวางเหมยและซูยู่คุนถึงกับเถียงไม่ออก
อันที่จริง ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ยื่นมือช่วยเหลือฉินเทียน กลับคิดว่าฉินเทียนถูกซ้อมจนตาย เพียงต้องการยักยอกทรัพย์สินของสองแม่ลูกซูซู
วันนี้ตระกูลซูที่ยิ่งใหญ่จำต้องตกอับ ทำได้เพียงย้ายกลับมายังคฤหาสน์เก่าของตระกูล ไม่น่าแปลกใจที่ใครต่อใครก็กล่าวว่าเป็นการหาเรื่องใส่ตัว
หวางเหมยและซูยู่คุนต่างก็ก้มศีรษะด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เพื่อซูเหวินเฉิง จำเป็นต้องก้มหน้ายอมแพ้และเอ่ยขอโทษ “ฉินเทียน เรื่องในปีนั้นมันก็ผ่านไปแล้ว อย่างไรพวกเราก็คือครอบครัวเดียวกัน อย่าได้ถือสากันเลย”
“ใช่แล้ว ใครไม่เคยทำผิดพลาดบ้าง? พวกเราสำนึกผิดอย่างจริงใจ และด้วยความจริงใจก็ขอให้นายและซูซูครองรักกันไปจนแก่เฒ่า”
“ขอให้นายเห็นว่าอย่างไรพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกับซูซู ได้โปรดช่วยเหลือเหวินเฉิงของพวกเราด้วยเถอะ!”
“พวกเราเหลือเพียงแค่เหวินเฉิงคนเดียวแล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ชีวิตสามีภรรยาของพวกเราก็จะไร้ซึ่งความหมาย”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนสำนึกผิดอย่างจริงใจ ฉินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “ช่วยเขานั้นไม่ใช่เรื่องยาก ผมมาเหิงหลิ่งในครั้งนี้ก็เพื่อกำจัดพวกคนที่ทำกู่ใส่ตระกูลซูให้หมดสิ้น”
“ตระกูลฉีจะต้องวอดวาย พิษกู่บนร่างกายของซูเป่ยซานและซูเหวินเฉิงนั้นจะต้องได้รับการแก้ไขเช่นกัน!”
หวางเหมยและซูยู่คุนได้ยินเช่นนั้นพลันจ้องมองด้วยสายตาโง่เขลา
พวกเขาขอร้องให้ฉินเทียนช่วยเหลือซูเหวินเฉิงและซูเป่ยซานนั้นไม่ผิด
แต่ทว่าไม่เคยกล้าขอร้องให้เขาทำลายตระกูลฉี!
ไม่ต้องพูดถึงเหิงหลิ่ง เพียงแค่กล่าวถึงหลิ่งหนาน ก็ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาต่อหน้าตระกูลฉี!
ฉินเทียนผู้น่าชิงชัง บ้าระห่ำ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำร้ายตระกูลซูได้!
ไก่บินสุนัขกระโดด[1] หมายถึง เสียงเอะโหวกเหวก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...