ผู้คนแห่งเหิงหลิ่งที่กำลังเฝ้าชมต่างก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากอีกครั้งหนึ่ง
พวกเขาเกรงกลัวอำนาจของตระกูลฉี ไม่กล้าเข้าใกล้ป่าไผ่
แต่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการซุบซิบนินทา ทำให้พวกเขาต่างรอคอยอยู่บริเวณชายขอบป่าไผ่ เพื่อรอดูผลลัพธ์สุดท้าย
เดิมทีพวกเขาคิดว่าฉินเทียนและทั้งสามจะต้องตายเพราะยอดฝีมือเหล่านั้นแห่งตระกูลฉีอย่างแน่นอน
แต่หลังจากรอคอยมาเนิ่นนาน ผู้คนทั้งสามคนที่เดินเข้าไปภายในป่าไผ่ก่อนหน้านี้ไม่เพียงแต่จะไม่บาดเจ็บ แต่ยังมีผู้คนอีกหลายคนเดินออกมาด้วย
คนเหล่านั้นโผล่มาจากไหน ในฐานะที่มีคุณสมบัตินักเมาท์มอยมืออาชีพ พวกเขาต่างก็คิดไม่ออก
ฉินเทียนและทุกคนต่างก็เป็นยอดฝีมือ ทุกคนหูไวตาไว
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นของผู้คนแห่งเหิงหลิ่ง พวกเขาต่างก็ได้ยิน
อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีใครออกมาอธิบายเพียง แต่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
เรื่องบางอย่าง รับรู้เพียงแค่พวกเขาก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้
ในฐานะมังกรซ่อนรูป หน้าที่ของพวกเขาคือรักษาความปลอดภัยของทุกคนอย่างเงียบๆ
สำหรับหม่าหงเทาและชุยหมิง การที่พวกเขาติดตามฉินเทียนมานั้นเป็นเพราะความกล้าได้กล้าเสียในการทำความดีโดยไม่ประสงค์ออกนาม
รวมถึงขจัดความอยุติธรรม องอาจกล้าหาญกว่าใคร!
เถิงจู้เกียจคร้านเกินกว่าจะอธิบาย ภายในหัวใจนั้นรู้สึกมีความสุขที่ยังมีคนจำปู่ของตนเองได้
มีเพียงชะนีขาวเท่านั้นที่เงยหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับว่ามีความสุขที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกู่เซียน
พวกเขาเดินออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนอยู่รายรอบเหิงหลิ่งต่างก็เดินตามหลังไปอย่างระมัดระวัง ราวกับว่ายังคงอยู่ภายในห้วงภวังค์แห่งความสงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
กระทั่งทุกคนจากไปแล้ว ฉีเฟยแขนขาดข้างหนึ่ง เขาประคับประคองฉีเวยที่ร่างกายโชกไปด้วยเลือดเดินโซเซออกไปจากป่าไผ่
ใบหน้าของฉีเวยดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก “ไอ้พวกนั้นเป็นแค่เศษสวะ กล้าดีอย่างไรมาหัวเราะเยาะตระกูลฉีของฉัน!”
“รอให้ฉันกลับไปแจ้งข่าวกับพ่อของฉันก่อนเถอะ จะนำตัวพวกมันทั้งหมดไปเปลี่ยนสภาพเป็นกู่!”
ฉีเฟยชำเลืองมองฉีเวย ฉับพลันขาข้างหนึ่งนั้นก้าวอย่างไม่มั่นคง จากนั้นเขาล้มลง
ฉีเวยถูกเขาประคับประคอง เนื่องจากฉีเฟยล้มลง เขาเองก็ล้มลงกับพื้นเช่นกัน
บาดแผลที่เดิมทีเลือดไหลอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งรุนแรงมากขึ้น
“ฉีเฟย!ไอ้สารเลว นายอยากตายหรือไง?!”
“ประคองฉันแค่นี้ก็ทำไม่ได้ กลับไปก่อนเถอะ คอยดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง!”
ฉีเวยพยายามลุกขึ้นนั่ง อยากจะใช้มือกดทับบาดแผล จากนั้นตระหนักได้ว่าแขนของตนเองนั้นถูกฉินเทียนตัดไปแล้ว ทำได้เพียงแค่ตะคอกใส่ฉีเฟยด้วยความโกรธเคือง
“ขอโทษด้วยคุณชาย เป็นผมที่ไม่ทันระวัง คุณชายอย่าโกรธเคืองเลย”
ขณะที่ฉีเฟย เขาก้มลงหยิบมีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมของฉีเวยที่ตกอยู่บนพื้น เอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “มีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมของคุณชายนั้นช่างงดงาม”
ในฐานะปรมาจารย์กู่ เพื่อให้ศัตรูนั้นถูกกู่ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น อาวุธมีคมส่วนใหญ่ที่พวกเขาใช้เพื่อป้องกันตัวจึงมีรูปทรงสามเหลี่ยม
เพียงแต่ว่าอาวุธมีคมของปรมาจารย์กู่ทุกคนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในด้านของความยาว ความกว้าง และแม้กระทั่งขอบหรือมุมองศา
ฉีเฟยมั่นใจมาก บาดแผลฉกรรจ์ที่ทำให้ฉีอวี่เสียชีวิตในอ้อมแขนของเขานั้นมาจากมีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมเล่มนี้!
เมื่อเห็นว่าฉีเฟยค้นพบ ฉีเวยก็ไม่ปฏิเสธ เอ่ยอย่างจองหอง “ทำไมถึงได้แสดงท่าทางแปลกออกไปล่ะ ไม่ใช่ว่านายต้องการพูดว่าฉีอวี่ถูกมีดเล่มนี้แทงตายหรอกหรือ?”
“ถูกต้อง เขาตายภายใต้มีดปลายปืนเหล็กสามเหลี่ยมเล่มนี้ของฉัน”
“เขาดวงซวยเอง ค้นพบความลับของฉันในการปรับแต่งมนุษย์กู่ของฉัน? เช่นนั้นก็ต้องตาย”
“ทำไมล่ะ ฉีเฟย นายอารมณ์เสียงั้นหรือ? แล้วจะทำไมล่ะ? ฉันคือคุณชายแห่งตระกูลฉี! ไม่ต้องเอ่ยว่าสังหารฉีอวี่หรอก ต่อให้ฆ่านายด้วย พ่อของฉันก็จะไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว”
“หรือจนกระทั่งตอนนี้ นายก็ยังคงไม่เข้าใจงั้นเหรอ ชีวิตของพวกนายก็เป็นเพียงมดแมลงชั้นต่ำ เป็นเพียงสุนัขรับใช้ของตระกูลฉีของฉัน!”
พี่น้องสองคนฉีเฟยและฉีอวี่ พ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก พวกเขาถูกฉีเซิ่งรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
พ่อและแม่ของพวกเขานั้นเสียชีวิตเมื่อยี่สิบปีก่อน ในตอนที่ตระกูลฉีถูกกวาดล้าง
พูดอย่างมีเหตุผล ฉีเฟยนั้นก็มีความสำคัญกับตระกูลฉี มีความเกี่ยวข้องกับฉีเวยอยู่ไม่น้อย
แต่ทว่าฉีเวยนั้นคุ้นเคยกับการใช้อำนาจภายในตระกูลฉี แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเห็นฉีเฟยและพวกเขาอยู่ในสายตา
กล่าวพูดอย่างตรงไปตรงมา พูดความคิดเห็นที่เขามีต่อพวกเขามาโดยตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...