บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 1074

“ฮ่าๆ นายคิดว่าฉันอยากจะเอ่ยปากเรียกรึไง? เป็นแค่ชะนีขาวตัวหนึ่ง ยังจะมีชื่อ สมองนายต้องมีปัญหาแน่ๆ ”

ฉีเซิ่งยิ้มร้ายพลางชายตามองเถิงหมิง“ตาแก่ ฉันไม่อยากจเสียเวลามาพูดกับนายหรอกนะ หากยังไม่ส่งตำรากู่ออกมาอีกล่ะก็ ฉันจะตัดมือข้างหนึ่งของหลานสาวแกซะ”

“หรือไม่ก็ ตัดแขนข้างหนึ่งของชะนีขาวนี่ แล้วแต่แกจะเลือก”

“เถิงหมิงใจกระตุกฉีเซิ่งกล้าพูดแบบนี้ แสดงว่ามีไม้ต่อที่จะชนะอยู่ในมือแน่นอน”

หรือว่าจู้เอ๋อร์ของเขาและพี่เหยาถูกฉีเซิ่งจับตัวได้แล้ว?

ความกังวลใจที่มากขึ้นอย่างไร้ขอบเขต ทำให้สีหน้าของเถิงหมิงขาวซีด

เถิงจู้และชะนีขาวเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา!

เขาไม่กล้าพนัน และไม่สามารถเอามาพนันได้!

แม้จะถูกผู้คนยกย่องว่าเป็นกู่เซียน แต่เขาไม่ได้เป็นคนใจบุญมีเมตตา สิ่งที่เขาต้องการ คือขอเพียงคนในครอบครัวปลอดภัย

เถิงหมิงคิดอยู่ชั่วครู่ “ฉีเซิ่งความแค้นระหว่างฉันกับนาย นายไม่จำเป็นต้องดึงเอาเถิงจู้และพี่เหยามาเกี่ยวข้องด้วย”

“นายอยากได้ตำรากู่ไม่ใช่เหรอ? ไม่ยาก ขอแค่นายปล่อยพวกเขาแล้วฉันจะมอบตำรากู่ให้นาย”

“แต่ขอเตือนนายไว้สักคำหนึ่ง หากกระทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมไว้มากเกินไปจะต้องตายไม่ดี หวังว่านายจะดูแลตัวเองได้ดีนะ”

“หนุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!”ฉีเซิ่งขัดขึ้นมาก่อนที่เถิงหมิงจะพูดจบ “ตำรากู่นั่น ฉันรอมาตั้งยี่สิบปี! นายเอามันมาให้ฉันก่อน ฉันรับรองได้เลยว่าจะปล่อยพวกนั้นทันที”

“คนไม่รักษาคำพูดอย่างนาย พูดอย่างเดียวมันไม่มีความหมายเลยสักนิด”เถิงหมิงส่ายหัวอย่างไม่ไยดี “ฉันถึงขั้นแอบบสงสัยว่านายยังไม่เคยเจอเถิงจู้และชะนีขาวด้วยซ้ำ”

“นอกเสียจากว่า นายจะเอาหลักฐานที่น่าเชื่อถือออกมาได้ เช่น ของบางอย่างที่สามารถยืนยันตัวตนของพวกเขาได้”

แม้ว่าเถิงหมิงจะอายุมากแล้ว แต่สมองไม่ได้ถดถอยลงเลยแม้แต่น้อย

ลึกๆแล้วเขามองออกถึงกลอุบายของฉีเซิ่งสำหรับคำพูดที่ออกจากปากฉีเซิ่งแล้ว เขาไม่ได้เชื่อทั้งหมด

ในขณะเดียวกันก็หวังว่าคำพูดทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำเท็จที่ฉีเซิ่งนำมาพูดเพื่อหลอกเอาตำรากู่ ถ้าเป็นเช่นนี้จู้เอ๋อร์ของเขาก็จะปลอดภัยดี

ฉีเซิ่งลำบากใจไปชั่วครู่ เขาไม่เพียงแต่จับตัวเถิงจู้และชะนีขาวไม่ได้ แม้แต่หน้ายังไม่เคยเจอ จะไปเอาของยืนยันตัวตนจากไหนได้!

แต่เพียงไม่นาน เขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้

ปิ่นปักผมนั่นไง!

เมื่อกี้ฉีเฟยบอกว่า ปิ่นปักผมนั่นคือปิ่นที่ชะนีขาวตัวนั้นแย่งไปจากฉีเวยไง!

แม้จะไม่รู้ว่าฉีเวยไปได้มาจากไหน แต่ในเมื่อเถิงจู้บอกว่าเป็นของของกู่เซียน ถ้างั้นไม่มีผิดแน่!

หากต้องการลงมือกับกู่เซียน ต้องทำให้เขาเชื่ออย่างปักใจก่อนว่าตนได้จับตัวเถิงจู้ไว้แล้ว!

เพียงไม่นานฉีเซิ่งก็มีความคิดใหม่ขึ้นมา ยิ้มร้ายแล้วสบตากู่เซียน “อยากได้ของยืนยันตัวตนงั้นหรือ? ตาแก่ นายยังคิดว่าตัวเองสามารถต่อรองกับฉันได้หรือไง?”

“จะบอกให้นะ! ฉันจับตัวพวกมันไว้หมดแล้ว ขังอยู่ห้องข้างๆนายนี่เอง! นายอยากเห็นสภาพที่เถิงจู้ถูกทุบตีอย่างทรมาน หรือมองดูชะนีขาวถูกหักแขนขาทั้งสี่กันล่ะ?”

เถิงหมิงได้ยินที่กล่าวมาแล้วปวดใจ เขารู้ว่า เรื่องสารเลวแบบนี้ เจ้าฉีเซิ่งมันทำออกมาได้แน่ๆ

“ปวดใจล่ะสิ? ถ้างั้นก็มอบตำรากู่ออกมาซะ”

ฉีเซิ่งเอ่ยอย่างไม่สนใจไยดี “อ้อ จริงด้วย รู้สึกว่าเถิงจู้จะมีปิ่นปักผมอยู่อันหนึ่ง หากนายอยากดูล่ะก็ ฉันจะไปเอามาให้เดี๋ยวนี้เลย”

สายตาของเถิงหมิงแข็งทื่อ ปิ่นปักผม...ฉีเซิ่งรู้กระทั่งการมีอยู่ของปิ่นปักผม?

เขาได้วานขอให้น้องผู้ชายที่คอยส่งข้าวให้ทุกวันช่วยนำปิ่นนั่นออกไปแล้วนี่?

หรือว่า มิตรภาพหลายปีที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้กัน ที่ผ่านมานี้เป็นของปลอมทั้งหมด?

ถึงว่าหลังจากที่รับปิ่นปักผม คนคนนั้นไปก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย…

พอคิดถึงตรงนี้ คำพูดที่เถิงหมิงพูดกับฉีเซิ่งไม่สามารถเชื่อได้เลยแม้แต่ครึ่งคำ!

ถ้าฉีเซิ่งวางแผนให้ได้ปิ่นปักผมมา คงไม่มีทางมอบถึงมือเถิงจู้แน่!

แล้วปิ่นนั่น ตอนนี้ตกไปอยู่ในมือใครกัน?!

เถิงหมิงใจร้อนขึ้นมา แต่ไม่สามารถให้ฉีเซิ่งมองออกถึงความกังวลใจที่มีอยู่ตอนนี้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด