หลิวชิงตกตะลึง
เธอไม่เข้าใจว่า ฉินเทียนจะแก้ปัญหาตัวแทนที่ฉีกสัญญาช่องทางการค้าได้อย่างไร
การแสดงออกของฉินเทียนเมื่อครู่ ทำให้เธอมีภาพหลอนหนึ่ง นั่นก็คือ ชายคนนี้ ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้……
มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ?
หลิวชิงไม่เข้าใจ
“ประธานหลิว ผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกับคุณเหรอ ? ”ซูซูรีบเข้ามา
เมื่อคิดถึงคำพูดของฉินเทียน หลิวชิงรีบพูดว่า “ไม่มีอะไร ก็แค่บอกว่า ให้ฉันช่วยคุณอย่างดี ”
ซูซูขมวดคิ้วและพูดอย่างกังวล : “ตัวแทนช่องทางจำหน่ายที่ปฏิเสธการร่วมมือ เมื่อครู่คุณบอกว่า มีทางแก้ไขอยู่แล้ว รีบบอกฉันที ว่าวิธีแก้ปัญหาคืออะไร ? “
“ต้องการให้ฉันทำอะไร ? ”
หลิวชิงยิ้มอย่างขมขื่น “แผนของฉันคือ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ”
“ไม่ทำอะไรเลย ? ” ซูซูไม่เข้าใจ
หลิวชิงอธิบายว่า “เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเรายังไม่ออกมา และยังไม่ได้รับความนิยม ที่ลงนามในสัญญากับช่องทางก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงแค่กรอบสัญญาเท่านั้น ”
“ฉันคิดว่า ตราบใดที่เราตีเข้างานนิทรรศการระดับนานาชาติ ก็จะหาแบรนด์แอมบาสเตอร์ที่เป็นซุปสตาร์มา ถึงตอนนั้นมันจะโด่งดังไปทั่วประเทศ และยังต้องกังวลว่าจะไม่มีช่องทางการตลาดมาหาเราอีกเหรอ ?”
“แม้ว่าตระกูลพานจะมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ก็จำกัดอยู่ที่เมืองหลวงของจังหวัด และเมืองโดยรอบอีกสองสามแห่งก็เท่านั้น ”
“เราตรงไปยังทั่วประเทศเลย ฉันเชื่อว่า พวกเขาอยากจะก่อปัญหา ก็ไม่สามารถทำได้ ”
“ดังนั้น ทางออกปัจจุบันคือ ทำตามขั้นตอน รองานมหกรรมนานาชาติเปิด ”
ซูซูคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ก็คงจะต้องเป็นแบบนี้แล้ว”
“อุปกรณ์ถูกส่งไปที่อาคารโรงงานแล้ว พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ ”
ที่ประตูอาคารซูยู่ ซูซูและหลิวชิงที่กำลังเตรียมจะขับรถออกไปก็ถูกฉินเทียนขวางไว้
“คุณภรรยา เพื่อความปลอดภัยของคุณ ผมได้จ้างคนขับรถมาให้คุณแล้ว”
“รอเดี๋ยวนะ เธอใกล้จะถึงแล้ว”
ซูซูคิดว่ามันไม่จำเป็น แต่เมื่อเธอเห็นคนขับรถที่ฉินเทียนคัดเลือกมาแล้ว เธอก็รีบเห็นด้วยทันที
สาวร่างใหญ่ที่ดูเหมือนจะเงียบขรึม แต่สะอาดและเรียบร้อยมาก
มองดูแล้ว ก็อายุราวยี่สิบต้น ๆ
คนประเภทนี้ เห็นแวบแรกก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า ทำงานกับเธอจะต้องสบายใจอย่างแน่นอน
ฉินเทียนแนะนำว่า ผู้หญิงคนนั้นชื่อหลินเซวี่ย และเธอเป็นนักแข่งรถที่เกษียณแล้ว ซูซูก็ยิ่งพอใจมากขึ้นไปอีก
อันที่จริง ตัวตนที่แท้จริงของหลินเซวี่ย ก็คือเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งเขี้ยวมังกรในหลงเจียง
สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้ ฉินเทียนไม่กล้าที่จะประมาท และเขาเองก็ไม่สะดวกที่จะติดตามอยู่ข้างกายซูซูตลอดเวลา
ดังนั้นฉินเทียนจึงขอให้เหลยเป้าจัดการเรื่องผู้หญิงคนนี้เป็นพิเศษ
ฉินเทียนแค่มองก็รู้แล้วว่า หลินเซวี่ยมีความน่าเชื่อถือมาก เมื่อเธอติดตามซูซู และปกป้องอยู่ข้างกาย เขาก็สามารถสบายใจได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นหลินเซวี่ยขับรถออกไปพร้อมกับซูซูและหลิวชิงแล้ว ดวงตาของฉินเทียนก็เย็นชาลง
พานหลง !
เมืองหลวงตระกูลพาน พานหลง !
ฉินเทียนไม่รู้ว่าทำไม ซูซูถึงไม่มีปฏิกิริยากับชื่อนี้ บางทีเธออาจจะลืมเรื่องอะไรบางอย่าง หลังจากที่สูญเสียความทรงจำ
อย่างไรก็ตาม ฉินเทียนจะไม่มีวันลืม !
สองคำนี้ เป็นเหมือนหนามพิษสองหนาม ที่ติดอยู่ในใจเขาเสมอมา
เมื่อห้าปีที่แล้ว ในอาคารสถานพยาบาล คนที่พยายามจะบังคับซูซู ต้องกระโดดลงจากตึก และเป็นอัมพาตมาห้าปี !
ก็คือพานหลง !
ซูซูมีความเกี่ยวข้องกับเซวเหริน เซวเหรินแต่งงานกับพานเหม่ยเออร์ และพานหลงเป็นพี่ชายคนรองขอพานเหม่ยเออร์
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พานหลงก็เป็นพี่เขยของเซวเหรินด้วย
ดังนั้นฉินเทียนจึงคิดไม่ออกว่า พานหลงมาปะปนรู้จักกับซูซูได้อย่างไร
หรือว่า ตอนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซูซูได้พบกับพานหลง มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ?
เป็นเพราะซูเป่ยซานรู้จักตัวตนของพานหลง และต้องการส่งหลานสาวที่สวยที่สุดไปให้ถึงหน้าประตู ?
ไม่ว่าจะยังไง เรื่องบางเรื่อง ก็ถึงเวลาที่ควรจะเคลียร์แล้วว
ข้อมูลที่ทั้งหมดที่หลิวชิงพูดเกี่ยวกับตระกูลพานนั้น มันจำกัดมากเลย และก็เป็นทางการเกินไป
ฉินเทียนโทรศัพท์หาเหลยเป้าอีกครั้ง “มีใครในแก๊งเขี้ยวมังกรอยู่ในเมืองหลวงไหม ? คุณสามารถติดต่อได้หรือไม่ ”
คำตอบของเหลยเป้าสั้นและชัดเจน “มี ได้”
“ เชิญคุณรับสั่ง ”
ตอนนี้เหลยเป้าเลือกปฎิบัติตามคำสั่งของฉินเทียนทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...