เมื่อได้ยินฉินเทียนพูดถึงหลิวหรูยู่ ซูซูก็อดหัวเราะไม่ได้แล้วพูดว่า : "นั่นคือเทพธิดาของฉัน จะสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับมู่เฟยเฟยได้อย่างไร"
"ถ้าหากพูดว่ามู่เฟยเฟยเป็นชั้นแนวหน้า อย่างนั้นหลิวหรูยู่ ก็คงจะระดับเป็นราชินีแห่งสวรรค์แล้วล่ะ"
"มู่เฟยเฟยยังห่างไกลจากเธอมากนัก"
ฉินเทียนกล่าว : "อย่างนั้นทำไม่เชิญหลิวหรูยู่ละ?"
หลิวชิงยิ้มแล้วกล่าวว่า : "สามารถพูดคุยกับมู่เฟยเฟยได้ ก็ถือว่าขอบคุณพระเจ้าแล้ว หลิวหรูยู่ พวกเราไม่กล้าแม้แต่จะคิดจริงๆ "
"อีกด้านหนึ่ง ระดับสถานะของเธอยังสูงเกินไปอีกด้วย นอกจากนี้ หลิวหรูยู่ยังเป็นพวกทุ่มเทพัฒนางานศิลปะ เลยไม่ยอมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับกลุ่มธุรกิจอีกด้วย"
"ตั้งแต่เปิดตัว ก็ไม่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ไหนเลย แบรนด์ที่มีเชื่อเสียงระดับนานาชาติมากมาย ที่คิดอยากจะตีตลาดภายในประเทศของพวกเรา ต่างก็แสวงหาเธอกันทั้งนั้น แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไปทั้งหมด"
ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง
เดิมทีฉินเทียนคิดอยากจะช่วยติดต่อกับหลิวหรูยู่ให้สักหน่อย แต่ทว่าแต่ละคนต่างก็มีความมุ่งมั่น ในเมื่อทุกคนบอกว่าไม่เคยรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ทางธุรกิจ อย่างนั้นเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องไปรบกวน
ซูซูกล่าวอย่างเสียใจ : "ยังจะพูดอีก ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงที่หลานซี่อครั้งนี้ ตอนแรกฉันได้ยินมาว่า หลิวหรูยู่ก็จะไปเข้าร่วมด้วย ทำให้ฉันตื่นเต้นไปตั้งครึ่งค่อนวัน"
"ใครจะไปรู้ ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่เห็นแม้แต่เงาคน"
ฉินเทียนยิ้มและไม่ได้พูดอะไรออกมา
เธอจะไปรู้ได้อย่างไร หลิวหรูยู่เพื่อที่จะหลบหนีงานเลี้ยง ก็วิ่งออกไปตั้งแต่ครึ่งทางแล้ว
แล้วไปเล่นสกีที่เทือกเขาแอลป์กับตัวเอง หลังจากนั้นก็มาพัวพันกับตัวเอง และถูกเหยี่ยวล่านกลักพาตัวไปจนถึงภูเขาลึก
ภายใต้ปากกระบอกปืนที่โหดเหี้ยมของคนร้าย เขาและหลิวหรูยู่ ก็ถือได้ว่าร่วมเป็นร่วมตายกัน และตกทุกข์ได้ยากไปด้วยกันแล้วละ
จากเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ หลังจากที่กลับไปแล้ว หลิวหรูยู่ก็น่าจะกลับประเทศไปอย่างรีบร้อน ตามธรรมชาติแล้วคงไม่มีอารมณ์ไปปรากฏตัวในงานนิทรรศการอีกแล้ว
หลังจากที่ได้พูดคุยเรื่องบางอย่างแล้ว หลิวชิงก็เร่งให้ซูซูและฉินเทียนรีบกลับไปที่บ้าน ในระหว่างเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อย ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
กลับมาถึงบ้าน หยางยู่หลันเข้าครัวด้วยตัวเอง เตรียมอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ และยังเปิดไวน์แดงที่สะสมไว้เพื่อมาเฉลิมฉลอง
ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
ในขณะเดียวกัน เมืองหลวง ตระกูลพาน
“ไอ้สารเลว!”
"เจ้าฉินเทียนคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะสามารถเอาชีวิตรอดจากมือของเหยี่ยวล่านกไปได้ ดูถูกมันมากเกินไปจริงๆ!"
"หลิวหรูยู่นังตัวแสบคนนี้ จะว่างจนไปเล่นสกีอะไรก็ไม่รู้!"
"ไม่ใช่เพราะมัน ฉินเทียนจะต้องตายอย่างแน่นอน!"
เธอแจ้งผ่านช่องสัญญาณบางอย่าง ตอนนี้เข้าใจเรื่องที่ผ่านมาบางส่วนแล้ว จนถึงตอนนี้เธอก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ที่ฉินเทียนยังมีชีวิตอยู่ได้นั้น ก็เป็นเพราะหลิวหรูยู่
ถึงอย่างไรก็ตามหลิวหรูยู่ก็เป็นดาราดังที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก เธอถูกลักพาตัว ดังนั้นคนที่มีความเกี่ยวข้องจึงถูกส่งตัวผู้ที่มีความสามารถออกไปเพื่อช่วยชีวิตให้เร็วที่สุด
เป็นจังหวะที่ฉินเทียนได้รับการช่วยเหลือพอดี
"เรื่องในครั้งนี้ พี่รองก็เสียงใจมากเช่นกัน"
"แต่เขาบอกว่า บางทีคนแซ่ฉินอาจจะยังไม่ถึงที่ตาย เขาให้พวกเราอดทนไปก่อน"
"รออีกไม่กี่วัน ก็จะเป็นงานวันเกิดของนายท่านอานแล้ว"
"นายท่านอานป่วยระยะสุดท้าย คราวนี้ไม่รอดแน่นอน ตอนที่เขาอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิด ก็ควรจะทำการแบ่งเขตอิทธิพลใหม่ พวกเราตระกูลพาน จะต้องได้เติบใหญ่เข้มแข็งยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน"
"จะได้รับตำแหน่งในเมืองหลวง ก็อาจจะไม่แน่"
"เมื่อถึงตอนนั้น ฉินเทียนก็เป็นเพียงแค่คนคนหนึ่ง ยังคิดอยากที่จะจัดการอย่างไร ก็สะบัดสะบิ้งอย่างนั้นได้"
พานหู่ที่นั่งอยู่ในรถเข็น ปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไม่ได้!”
"ฉันปล่อยมันไปไม่ได้!"
"มันยิ่งทำให้ฉันโกรธมากขึ้นไปอีก ซูซูนังผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น พึ่งจะทำครีมยาอะไรสักอย่าง ไม่คิดว่าจะคว้าเหรียญทองในงานมหกรรมความงามนานาชาติได้"
"เห็นได้ชัดว่าเป็นศัตรูกับฉัน"
"ฉันจะต้องสั่งสอนให้เป็นบทเรียนแก่พวกมันอย่างแน่นอน!"
พานหู่กล่าวอย่างเป็นกังวลว่า : "พี่ พี่เตรียมตัวว่าจะทำอย่างไร?"
พานเหม่ยเออร์ขบฟันแล้วพูดว่า : "องค์กรแมงป่องไท่ตายไปแล้ว เหยี่ยวล่านกก็จบไปแล้ว อย่างนั้นเราก็หานักฆ่าที่เก่งยื่งกว่านี้อีกสิ!"
"ทั่วทั้งโลกใบนี้มีนักฆ่าอีกมากมาย ขอเพียงยินดีที่จะจ่าย ไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถหาคนที่ฆ่าฉินเทียนได้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...