เมื่อได้ยินชื่อของกวนซานเย๋ คนกลุ่มนี้ของเมืองเจิ้ง ต่างก็สะดุ้งขึ้นมา
เมื่อเทียบกันแล้ว ชื่อนี้ ก็คือพระเจ้า
เพียงแค่กวนซานเย๋ลงมือ ก็หมายถึงตัวแทนพระเจ้า เพื่อมาลงโทษตัดสินฉินเทียน
นั่นก็คือราชาใต้ดินของเมืองเจิ้งอย่างแท้จริง!
“พ่อ มัวแต่ลังเลอะไรอยู่?รีบโทรศัพท์เร็วเข้า!”
“ถึงแม้ว่าเรากับกวนซานเย๋จะมีเรื่องบาดหมางกันอยู่บ้าง แต่ว่าตอนนี้มีคนนอกมาบุกรุกเมืองเจิ้งของเรา เขาจะไม่สนไม่ได้!”
“ถึงตอนนี้ พวกเราจะต้องละทิ้งความบาดหมางในอดีตก่อน!”
“อย่างมาก หลังจากเรื่องนี้เสร็จ พวกเราก็ค่อยให้ผลประโยชน์เขาเล็กน้อย!”เมื่อเห็นฉีเหรินกัดฟันไม่พูดอะไร ฉีชุนก็อดที่จะเร่งไม่ได้
ทีแรกฉีเหรินยังลังเล
เพราะว่าตระกูลฉีของเขากับกวนซานเย๋ มีการขัดกันด้านผลประโยชน์จริงๆ
พูดให้ชัดเจนก็คือ ตระกูลฉีแสร้งทำเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเจิ้ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ก็แค่โลกภายนอกเท่านั้น
แต่กวนซานเย๋ นอกจากโลกภายนอกแล้ว ยังมีพลังใต้ดินอีกด้วย
เพียงแค่ว่า เวลาที่พวกเขาอยู่ต่อหน้ากวนซานเย๋ ไม่กล้าที่จะชน อย่างมากสุดภายในนอกดูเหมือนจะขัดแย้งแต่ภายในแล้วเคารพอย่างลับๆ หากำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ เมื่อกวนซานเย๋เห็นที่ดินหนึ่ง ทีแรกอยากจะได้
แต่ว่า กวนซานเย๋มีธุระมากมาย จึงต้องออกจากเมืองเจิ้งไปหลายวัน จึงไม่มีเวลายุ่งมาจัดการ
ฉีเหรินก็อาศัยจังหวะนี้ ทำการเชื่อมความสัมพันธ์กับคนพวกนั้น จากนั้นก็งุบเอาที่ดินผืนนั้นอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้ ฉีเหรินกังวลมาตลอด ว่าหลังจากที่กวนซานเย๋กลับมา จะมาหาเรื่องเขาแน่
ตอนนี้ ให้เขาไปอ้อนวอนให้กวนซานเย๋มาช่วยเหลือ มันน่าขายหน้ายิ่งนัก
แต่พอได้ฟังคำพูดของลูกชาย เขาก็เข้าใจขึ้น!
จริงสิ ผลประโยชน์ของเขากับกวนซานเย๋ มันก็แค่เกมในเมืองเจิ้งเท่านั้น
เมื่อมีศัตรูเข้ามาคุกคาม พวกเขาควรที่จะสามัคคีต่อกัน
อย่างอื่นไม่ต้องพูด กวนซานเย๋มีอย่างหนี่งที่ทำให้ฉีเหรินวางใจได้ นั่นก็คือ ไม่มีทางให้คนนอกหนีออกไปจากที่นี่ได้
นั่นก็คือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของเขา
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็มองฉินเทียน กัดฟันแล้วพูดว่า:“นายกล้าให้ฉันโทรศัพท์จริงน่ะเหรอ?”
“กวนซานเย๋มาแล้ว นายจะต้องตายอยู่ที่นี่!”
“คุณ อย่านะ!”ครั้งนี้ หม่าหงเทาให้ข้อเสนอแนะ มีความกังวลในแววตา
ฉินเทียนมองเวลา แล้วพูดอย่างรำคาญว่า:“รีบโทรรีบโทร!”
“แม่งเอ๊ย มันแต่ชักช้า มันผ่านไปกี่นาทีแล้วเนี่ย”
“ไม่รู้หรือไงว่าฉันจะต้องไปกินข้าวเป็นเพื่อนภรรยาอีก?”
“ได้!”ฉีเหรินโกรธจนมึน เขาตาแดงก่ำ จากนั้นก็กดโทรศัพท์
เมื่อโทรติด เสียงของเขาก็อ่อนลงทันที:“ซานเย๋ ได้ยินมาว่าคุณกลับมาแล้ว เรื่องในเมืองทั้งนั้น จัดการเสร็จแล้วหรือยัง?”
มีเสียงเย็นชาผ่านลอดออกมาจากในสาย:“นาย อาศัยจังหวะที่ฉันไม่อยู่ ใช้วิธีร้ายกาจ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ!”
“ฉันยังไม่ได้มาเอาเรื่องกับนาย แต่นายเป็นฝ่ายมาหาฉันเอง”
“ว่ามา จะจัดการอย่างไร?”
ฉีเหรินรีบพูด:“ซานเย๋เข้าใจผิดแล้ว!”
“คุณหมายถึงที่ดินตรงอ่าวมังกรทองใช่ไหม?อันที่จริงแล้ว ที่ดินตรงนั้นผมเก็บไว้ให้คุณเอง!”
“นายหมายความว่าไง?”
“ตาแก่ นายจิตใจดีขนาดนั้น?งั้นไหนนายลองพูดให้ฟังหน่อย ว่าใช้วิธีไหน?”
ฉีเหรินถอนหายใจ แล้วพูดว่า:“หลายวันก่อน ในเมืองปั่นป่วน ซานเย๋นำทัพไปก็ภัยด้วยตนเอง”
“ฉันรู้ว่า ที่ดินตรงนั้นคุณต้องได้อยู่แล้ว หลังจากที่คุณไป ก็มีนายทุนจากคนเมืองอื่นเข้ามา”
“พวกเขาอาศัยจังหวะที่คุณไม่อยู่ จะมาเอาที่ดินตรงนั้น”
“ซานเย๋คุณก็รู้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน แต่ว่า พวกเราก็เป็นคนเมืองเจิ้งเหมือนกัน”
“ถึงแม้ว่าซานเย๋จะไม่อยู่ แต่ว่าฉันอดทนที่จะรับแรงจากคนนอกเมืองที่จะวิ่งเข้ามาขี้บนหัวของพวกเราได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...