ได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งหยุน หม่าหงเทาลังเลแล้ว
ตอนนี้ไม่มีใครยอมใคร
สีหน้าของฉินเทียนขุ่นเคือง พูดอย่างหนักแน่นว่า:“พวกคุณขัดแย้งภายในอยู่ต่อหน้าฉันเลยเหรอ?”
“ยังไม่รีบเก็บมีดอีก!”
หม่าหงเทาน้อมรับคำสั่งทันที รีบเก็บดาบแล้วถอยไป
เหลิ่งหยุนพ่นลมหายใจออกมา พูดว่า :“คุณให้ฉันเก็บมีดฉันก็ต้องเก็บมีดเหรอ? ฉันต้องการให้เธอขอโทษฉัน!”
เถียหนิงซวงหน้าแดงขึ้นมา กัดฟันพูด:“งั้นคุณก็ใจสลายได้เลย!”
“ถ้ากล้าพอก็ฆ่าฉันเลยสิ!”
เหลิ่งหยุนจ้องมองฉินเทียน พูดอย่างเย็นชาว่า:“นี่คือคนรักของคุณหรือเปล่า? ฉันฆ่าเธอแล้ว คุณจะปวดใจหรือเปล่า?”
ฉินเทียนกัดฟันพูด:“ถ้าคุณยังก่อเรื่องอีก ผมจะเอาคุณถอดเปลือยโยนลงทะเลไป”
“คุณกล้า!”
“คุณคิดว่าผมกล้าหรือไม่?”
“คุณ——”เหลิ่งหยุนกัดฟัน รูปหน้าที่แสนเย็นชา ก็แดงขึ้นมาแล้ว
ฉานเจี้ยนถอนหายใจออกมา พูดว่า:“คุณหนูใหญ่ ยังรู้จักผมคนไร้ค่าคนนี้ไหม?”
เหลิ่งหยุนพยักหน้า:“ฉันเคยเจอคุณครั้งหนึ่ง คุณคือคุณลุงฉานเจี้ยน ขาของคุณเป็นอะไรเหรอ?
ฉานเจี้ยนยิ้มแล้วพูดว่า:“ถูกดอกไม้แห่งความมืดที่กระทำ”
“คุณหนูใหญ่ สาวน้อยหนิงซวง เป็นคนของคำสาปสวรรค์ของผม เห็นแก่ผม แล้วเอามีดวางลงเถอะ”
“คำสาปสวรรค์เป็นไฟดวงใหม่ที่รับช่วงต่อมาจากวิหารพญายม และก็เป็นปณิธานของพ่อบุญธรรมของคุณ ดังนั้นเมื่อพูดขึ้นมาแล้ว ต่างเป็นคนในครอบครัว”
“ฉันเห็นแก่ลุงฉานเจี้ยน”เหลิ่งหยุนจึงยอมลดทิฐิลง วางมีดลงมาแล้ว
เพราะว่า เห็นว่าฉินเทียนหน้าดำแล้ว เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ
ไอ้เจ้าคนนี้พูดว่าจะเอาเธอถอดเปลือยแล้วโยนลงทะเล งั้นก็คงจะไม่เหลือผ้าเอาไว้ให้เธอได้ปกปิดความอับอายแม้แต่นิดเดียว
ด้วยลักษณะนิสัยของฉินเทียนคนนี้ เธอเองก็ยังเข้าใจดี
แต่ว่าเธอก็ยิ้มอย่างเย็นชาเตือนเถียหนิงซวงออกมา:“น้องสาว อย่าได้คิดว่ามีแซ่ฉินช่วยค้ำจุนคุณอยู่ แล้วคุณจะสามารถพูดอะไรออกมาก็ได้”
“บางครั้ง อาจตายได้”
เหมยหงเซว่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาพูดว่า:“ราชินีงูกล้าก่อเรื่องถึงเพียงนี้ เบื้องหลังก็ไม่ใช่ว่ามีคนค้ำจุนอยู่หรอกเหรอ?”
“คุณพูดอะไรนะ?”สีหน้าเหลิ่งหยุนเปลี่ยนสีอีกครั้ง
เหมยหงเซว่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาพูดว่า:“ฉันเพียงแค่อยากจะปรามคนบางคน อย่าเอาความเกรงใจของคุณอื่น กลายมาเป็นความมีวาสนาของตัวเอง”
“เอาน่าเอาน่า เรื่องงานมาเป็นอันดับแรก”
“ทุกคนไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
“คุณหนูใหญ่ รีบพาพวกเราไปพบทูตสวรรค์เถอะ หวังว่าจากปากของเขา จะงัดข้อมูลของปรมาจารย์พิษออกมาได้”ฉานเจี้ยนรีบคลี่คลายสถานการณ์
เหลิ่งหยุนจ้องเขม็งเหมยหงเซว่แวบหนึ่ง หันหลังกลับเขาไปในถ้ำ
ระหว่างผู้หญิง ความแค้นนนี้ถือว่าแล้วกันไป
ฉินเทียนโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว ไอ้ห่าทูตสวรรค์ยังไม่ได้เจอ ก็ทำให้โมโหเสียก่อนแล้ว
เขาใบหน้าขุ่นเคืองเดินเข้าไปข้างใน
ปรากฏว่าเป็นอย่างที่ก่วนยี่ได้พูดเอาไว้ ถ้ำหินตามธรรมชาติอันนี้ ด้านใน เต็มไปด้วยขยะที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เตียงหินด้านบน มีผู้ชายผิวขาวคนหนึ่งนอนอยู่ มองขึ้นไปลมหายใจแผ่วเบา กำลังสลบอยู่
บนร่างกาย ไม่ได้มีรอยบาดแผลที่ชัดเจนอะไร ไม่มีรอยเลือด แต่ว่าไม่ว่าใครได้เห็นแวบเดียว ต่างก็รู้แล้วว่าได้รับการทรมานเกินมนุษย์
ฉินเทียนรู้ได้เลยว่าก่อนตัวเองจะมา เหลิ่งหยุนทรมานให้สารภาพแล้ว
การลงมือของผู้หญิงคนนี้ เขาชัดเจนดี
เขาอดที่จะจ้องเขม็งไปที่เหลิ่งหยุนแวบหนึ่งไม่ได้ พูดว่า:“เกิดอะไรขึ้นแล้ว?”
เหลิ่งหยุนพูดออกมาอย่างอารมณ์ไม่ดี:“ก็ไม่มีอะไร”
ฉินเทียนพ่นลมหายใจออกมา:“ไม่ใช่ว่าผมบอกแล้วเหรอ ว่าให้ผมมาแล้วค่อยว่ากัน?”
“ไม่ง่ายกว่าจะจับได้สักคน คุณทำเขาตายจะว่ายังไง?”
ครั้งนี้ เหลิ่งหยุนกัดฟันกรอด ถือว่าไม่ได้เถียงออกมา
“ลุงฉาน ทำให้เขาตื่น”ฉินเทียนพูดออกมาอย่างอารมณ์เสียหนึ่งประโยค
ฉานเจี้ยนก้าวขึ้นมาข้างหน้าทันที ตบลงบนตำแหน่งหัวใจของผู้ชายคนนั้น
เดิมทีผู้ชายคนนี้ลมหายใจแผ่วเบา แต่ว่าหัวใจได้รับกระตุ้นจากภายใน ทันใดเต้นขั้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาเปิดเปลือกตาออกมา แววตาล็อกอยู่บนใบหน้าของฉินเทียน
“คุณเป็นใคร?”เขาถามอย่างหวาดกลัว
ฉินเทียนนำเอาเข็มฉีดยาอันนั้นมาจากในมือของหลิวชิงเหยา เปล่งประกายอยู่ด้านหน้าของเขา
ผู้ชายคนนี้ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา พูดว่า:“แกคือฉินเทียน?”
“คาดไม่ถึงผู้สืบทอดวิหารพญายมที่มีชื่อเสียงเรียงนามเกรียงไกร หนึ่งในราชาวิหารเทพ ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้”
“น่าเสียดาย สาวน้อยคนนั้นไม่ได้ฆ่าแกตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...