“ฉินเทียน พอได้แล้ว”หยางยู่หลันพูดปลอบใจอย่างกระวนกระวาย
ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็มพลางพูด: “พวกแกสำนึกผิดจริง ๆ เหรอ?”
“หรือจะพูดในอีกแง่หนึ่งคือ ถ้าฉันไม่ใช่ราชาเทพ พวกแกจะทำตัวแบบนี้ไหม?”
ไม่ใช่ราชาเทพ?
ทุกคนผงะไปหมดเลย
ซูเหวินเฉิงตอบสนองกลับมาได้ จึงรีบสาบานต่อฟ้าดิน: “เวรกรรมมีอยู่จริง ให้ฟ้าเป็นพยานได้!”
“เราทำเรื่องที่ละอายใจไป ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เรารู้สึกไม่สบายใจมาก ๆ วันนี้ในที่สุดเราก็มีโอกาสชดเชยความผิดที่เคยกระทำมาสักที!”
“พี่เขยครับ ไม่ว่าตัวตนของพี่จะเป็นอะไร มันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อการสำนึกผิดของเราหรอกครับ!”
“เหวินเฉิงพูดถูก!”ซูยู่คุนพูดอย่างฮึกเหิม: “ได้โปรดราชาเทพอย่าสงสัยในตัวพวกเราเลยนะครับ!”
พวกเขาต่างรู้สึกว่าฉินเทียนจงใจพูดแบบนี้เพื่อทดสอบพวกเขา
ซูเป่ยซานพูดเสียงดัง: “ในนามของผู้นำตระกูลซู วันนี้ผมขอกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าทุกคนว่า ตระกูลซูจะยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ด้วยคุณธรรมและเมตตาธรรม”
“ต่อไปไม่ว่าใครก็ตามที่มีเจตนามุ่งร้าย อกตัญญูต่อราชาเทพ จะถูกเนรเทศออกจากตระกูลต่อหน้าศาลบรรพบุรุษ!”
“อีกทั้ง——”
เขาหายใจออกแล้วพูดอย่างลึกซึ้ง: “ราชาเทพฉิน ผมแก่มากแล้ว ตอนนี้ผมเตรียมพร้อมที่จะยกมรดกทั้งหมดของตระกูลซูให้กับซูซู”
“ซูซูคือผู้นำคนต่อไปของตระกูลซู!”
“ดี!”
“ปกป้องคุณซูซู!”
“มีคุณซูซูและราชาเทพฉินนำพาตระกูลซู ทั้งตระกูลต้องเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาแน่นอน!”คนในตระกูลส่งเสียงโห่ร้องแสดงความดีใจ
สีหน้าของซูซูที่นั่งอยู่บนวีลแชร์เรียบนิ่ง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉินเทียนตัดสินใจได้แล้ว ในฐานะที่เห็นว่าพวกเขาเป็นคนในวงศ์ตระกูลของซูซู หากพวกเขาผ่านบททดสอบด่านสุดท้าย งั้นเขาก็จะมอบผลประโยชน์ให้กับพวกเขาซะหน่อย
ซึ่งบททดสอบด่านสุดท้ายก็คือ——
“ขอบคุณทุกคนมาก!”
“เรื่องก็ดำเนินการมาถึงตอนนี้แล้ว ในเมื่อทุกคนต่างสำนึกผิดจากหัวใจจริง งั้นผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกแล้ว”
“อันที่จริงผมไม่ใช่ราชาเทพ”
“และผมก็ไม่เคยเห็นหน้าราชาเทพมาก่อนเช่นกัน ไม่รู้ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง”
“ในความเป็นจริง ผมแค่สงสัยว่าบนโลกใบนี้จะมีราชาเทพที่ทำทุกอย่างได้จริง ๆ หรือ? น่าจะเป็นเรื่องที่คนเสแสร้งปั้นขึ้นมาเองมากกว่ามั้ง”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
ว่ายังไงนะ?
บรรยากาศที่คึกคัก ณ ที่เกิดเหตุ เหมือนถูกสาดด้วยน้ำที่เย็นเฉียบยังไงอย่างนั้น
ซูเป่ยซานพูดอย่างอึดอัด: “ราชาเทพครับ ท่านอย่าล้อเล่นกับเราเลยครับ”
“ผมเห็นเองกับตาแล้ว จะเป็นเรื่องหลอกได้ยังไงล่ะ?”
ฉินเทียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับมีเสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวดังมาจากประตู
“ไอ้แซ่ฉิน มึงไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
“มึงทำลายอนาคตกู กูไม่ปล่อยมึงไปแน่!”
ทุกคนหันหน้าไป เห็นเพียงลู่ซินเจี้ยนพร้อมกับอันธพาลสามสี่คนบุกเข้ามาด้วยท่าทีที่ดุดัน
เมื่อเห็นหน้าฉินเทียน เขาก็ถลึงตาจนดวงตาแทบถลนออกมาจากเบ้า ด่ากราดเสียงดัง
“ไอ้สารเลว!”
“กูตรวจสอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มึงก็แค่อาศัยที่ตัวเองรู้จักกับรปภ.เล็ก ๆ คนหนึ่ง และรปภ.คนนั้นก็เป็นญาติของหม่ายงพอดี มึงเลยแอบอ้างบารมีคนอื่น วางอำนาจบาตรใหญ่!”
“พูดมา มึงพูดเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับกูต่อหน้าหม่ายง?”
ซูเหวินเฉิงตวาดเสียงดัง: “หุบปาก!”
“พี่เขยฉันคือราชาเทพ อย่าเย้ยหยันดูถูกราชาเทพ!”
“ราชาเทพ?”ลู่ซินเจี้ยนหัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังแล้วพูด: “ไอ้แซ่ฉิน มึงนี่มันกล้าแอบอ้างเป็นทุกคนเลยนะ!”
“มึงพูดเองเลยว่ามึงเป็นราชาเทพหรือเปล่า?”
ฉินเทียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด: “กูไม่เคยบอกมาก่อนเลยนะว่ากูเป็นราชาเทพ”
“แต่ว่าการจัดการมึงน่ะ กูไม่ได้จัดการผ่านหม่ายง แต่เป็นหวางโป๋เหนียน”
“เมื่อก่อนกูบังเอิญมีโอกาสช่วยหวางโป๋เหนียนไว้ครั้งหนึ่ง เขาเลยตอบตกลงว่าจะช่วยเหลือกูคืนหนึ่งเรื่อง”
“ซึ่งเรื่องนี้ก็คือการเขี่ยมึงออกจากเกม และให้แม่ยายกูเข้าไปในคณะกรรมการ”
“ตาต่อตาฟันต่อฟัน ตอนนี้กูไม่มีความสัมผัสอะไรกับหวางโป๋เหนียนแล้ว”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!
ถ้าเป็นแบบนี้งั้นก็สามารถอธิบายเรื่องทุกอย่างได้แล้วล่ะ!
ทุกคนในตระกูลซูต่างรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า
พวกเขาคิดหาทุกวิถีทางเพื่อสำนึกผิด แสดงความฟูมฟายเสียใจอย่างมาก แท้จริงแล้วพวกเขากลับกำลังเผชิญหน้ากับราชาเทพตัวปลอมอยู่!
และคนที่ยอมรับไม่ได้มากที่สุดคืออู๋เฟย
เพราะเหตุนี้เขาได้หักขาตัวเองข้างหนึ่งไปแบบเป็น ๆ เลยนะเนี่ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...