บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 355

สรุปบท บทที่ 355 การเดินหมากรุก: บัญชามังกรเดือด

สรุปตอน บทที่ 355 การเดินหมากรุก – จากเรื่อง บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน

ตอน บทที่ 355 การเดินหมากรุก ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง บัญชามังกรเดือด โดยนักเขียน สวรรค์ไร้เทียมทาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

จุยเฟิงรู้ว่าดี ที่ฉินเทียนบอกว่าการเรียกคนมาปกป้องอานกั๋วนั้น ก็เพื่อฝึกฝนเท่านั้น เป็นการล้อเล่นกับเขา

ถ้าพูดตามหลักเหตุและผล เขาเชื่อในตัวฉินเทียน และก็เชื่อในคนที่ฉินเทียนจัดมาให้ด้วย

แต่เรื่องนี้มันสำคัญ เขาไม่กล้าประมาท

ถ้าเกิดล่ะ?

ถ้าเกิดว่าเรื่องอยู่เหนือการควบคุม แล้วถ้าเกิดเรื่องไม่ดีกับนายท่านขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร?

พอยิ่งเป็นห่วงก็ยิ่งลุกลน

ตอนนี้ จุยเฟิงกลับรู้สึกเสียใจภายหลัง ที่ไม่ควรเชื่อคำพูดของฉินเทียน และมาที่ที่ชายหาดหินกระจายเพื่อรับคำท้าของดาบพิฆาตซีเป่ยอะไรนั่น

เจี๋ยโกวไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อสู้กับเขาอยู่แล้ว จุดประสงค์ ก็เพื่อขัดขวางเขาไว้เท่านั้น

ขณะนี้ สายลมแห่งขุนเขาช่างหนาวเหน็บ ไร้ซึ่งดาวเดือน

บนเขามังกรเทพ(เสินหลงกวาน) ข้างอารามมังกรเทพ ณ ห้องที่เงียบสงบและไม่เป็นสะดุดตา ตะเกียงราวเม็ดถั่ว แต่กลับส่องสว่างไปทั่วพื้นดิน

มีชายชราผมขาวท่านหนึ่งกับเจ้าอาวาฬเดินหมากรุกใต้แสงเทียน

ถึงแม้ว่าอายุจะสูงแล้ว แต่เสียงหัวเราะที่สดใส ก็ช่วยเพิ่มความกล้าหาญให้กับโลกที่มืดมิดได้ส่วนหนึ่ง

"นายท่าน หมากรุกที่ท่านเดินนี้ เป็นทหารบุกศึกเดี่ยวที่แผ่รัศมีอาฆาตไปทั่วสี่ทิศ

"นี่จะนำภัยพิบัติหนองเลือดมาสู่อาตมาใช่หรือไม่"

"เช่นนั้น ผมคงกล่าวได้แค่ว่าขออภัย เหตุใดมนุษย์ในยุทธภพ ถึงเป็นเหมือนดั่งกระดานหมากรุก"

"ผมเองก็เป็นเหมือนหมากตัวหนึ่งบนกระดานหมากรุกเช่นกัน"

"วางใจได้ ผมจะเก็บอย่างสะอาด และจะไม่ทำให้ทหารของท่านตกใจ"

"เจี้ยง (แม่ทัพ) แล้วกัน"

เจ้าอาวาสหัวเราะเบาๆ :"อย่างนั้นผมก็ทำได้แค่ออกเซี่ยง (เสนาบดี) เท่านั้น"

"เป็นอย่างที่คาดไว้ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์!"อานกั๋วหัวเราะ ฮ่าๆ ยกใหญ่

เสียงหัวเราะสะท้อนออกนอกห้อง และส่งเสียงไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอก

เมื่อคนชุดดำที่ปิดหน้าทั้งห้าได้ยินเสียงนี้ ก็ปรากฏความคิดฆ่าสังหารในสายตาทันที

พวกมันส่งสายตาซึ่งกันและกัน โดยหนึ่งคนในนั้นโบกส่งมือสัญญาณไปมา

โดยคนทั้งห้าอำพรางตนในความมืด ราวกับวิญญาณห้าตนอย่างไรอย่างนั้น และถืออาวุธคมไว้ในมือ พุ่งไปทางห้องนั้น

พวกมันยืนยันแล้วว่า ภายในห้องมีเพียงอานกั๋วและนักพรตเฒ่าอยู่

องครักษ์ที่คุ้มครองอยู่ด้านนอก ล้วนพากันไปพักผ่อนดื่มน้ำชาอยู่ห้องข้างๆ แล้ว

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการลอบสังหาร

ขณะที่พวกเขาเตรียมที่จะพุ่งเข้าไป เสียงหวือดังขึ้น จากนั้นก็มีแสงสีขาวยิงมาจากระยะไกล

โดยยิงเข้าที่คอของคนที่อยู่ตรงกลางได้อย่างแม่นยำ

เขากุมลำคอร้องเสียงคร่ำครวญ และล้มลงบนพื้น

"กระบี่บิน"

"มีกับดัก!"

อีกสี่คนที่เหลือ ตกใจสุดขีด และรีบหันหลังชนกันล้อมเป็นวงกลม เพื่อเตรียมพร้อมรับข้าศึก

ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ย มีสาวสวยรูปร่างร้อนแรงหน้าตาเย็นชาคนหนึ่ง เดินออกมาจากทางด้านซ้าย โดยถือกระบี่เจ็ดดาวที่ส่องแสงสะท้อนอันเยือกเย็นอยู่ในมือ

ทางด้านขวา มีชายวัยกลางคนสีหน้าขาวซีดเดินออกมา แต่มีแววตาราวกับมัจจุราช

กระบี่บินเมื่อสักครู่ ถูกแกว่งมาโดยเขาเอง

"พวกนายจะปิดหน้าปิดตา แต่ฉันก็สามารถจำได้"

"คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอกันที่นี่"

"ห้าผีเจียงจั่ว ความแค้นเก่าและแค้นใหม่ของเรา มาสะสางให้จบคืนนี้"

เสียงที่เย็นชาดังมาจากทางด้านหลัง

เมื่อเห็นคนๆ นี้ ผีทั้งสี่ก็ตะโกนพร้อมกัน

"มีดม้ง หม่าหงเทา!"

"คิดไม่ถึงว่านายที่เรียกตัวเองว่าราชาดาบหนึ่งยุคสมัย แต่กลับขอพึ่งพาอานกั๋ว และยินยอมเป็นสุนัขรับใช้!"

หม่าหงเทาเยอะเย้ย แล้วค่อยๆ ชักดาบออกจากฝัก

"คนที่ไร้มโนธรรมอย่างพวกนาย อยู่ไปก็เปลืองอากาศ"

"ตายเสียเถอะ"

"ฆ่าพวกมัน!"ผีทั้งสี่คำรามด้วยความโทสะ และโผเข้าใส่

พวกเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับหม่าหงเทา และรู้ว่าเก่งกาจแค่ไหน ดังนั้นจึงให้สองคนจัดการกับหม่าหงเทา

ส่วนอีกสองคน พุ่งเข้าหาเถียหนิงซวง

ที่เหลืออีกหนึ่งคน พุ่งไปทางชุยหมิง

ทั้งสองหัวเราะคิกคัก และยืนอยู่หน้าประตู มองดูหม่าหงเทาต่อสู้กับสองคนที่เหลือ

สองคนนี้ จัดอยู่อันดับที่สี่และห้า ถึงแม้ว่าจะอยู่อันดับสุดท้าย แต่พวกเขาเป็นพี่สองฝาแฝด

ทั้งสองร่วมมือกัน ก็จะเป็นหนึ่งในห้าของห้าผีเจียงจั่ว ที่มีกำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุด

ครั้งหนึ่งในเจียงจั่ว สองพี่น้องกำลังขู่บังคับหญิงสาวคนหนึ่ง และถูกหม่าหงเทามาเจอเข้า

ภายใต้มีดม้ง ทั้งสองได้หนีไปอย่างทุลักทุเล

หลังจากที่กลับไป พวกเขาสัญญาว่าจะได้แก้แค้นให้ได้ ซึ่งทำการศึกษาวิจัยอย่างหนัก โดยมุ่งเป้าไปที่กระบวนท่าการใช้ดาบของหม่าหงเทา จนสรุปเทคนิคการต่อสู้ผสมผสานออกมาได้ชุดหนึ่ง

พวกเขาออกตามหาหม่าหงเทาทั่วทุกสารทิสเพื่อแก้แค้น ใครจะรู้ว่า หม่าหงเทาเหมือนกับหายสาบสูญไปจากโลกมนุษย์

หาอย่างไรก็หาไม่เจอ

ความเป็นจริงแล้ว ในเวลานั้นเพื่อเรื่องของน้องสาว เขาได้ไปเป็นบอดี้การ์ดต่ำต้อยที่เมืองเจิ้ง

สองผีคิดว่าหม่าหงเทาตายไปแล้ว ต่อมาพวกเขาก่ออาชญากรรมอีกครั้ง และไม่สามารถอยู่ในเมืองเจียงจั่วได้อีกต่อไป

ทั้งห้าคนนี้ จึงหนีมาถึ่งพาจ้าวข่ายที่เมืองหยุนชวน นับตั้งแต่นั้นมาก็ปกปิดตัวตน และช่วยจ้าวข่ายทำเรื่องชั่วร้ายมานับไม่ถ้วน

คิดไม่ถึงว่า โลกจะกลมขนาดนี้ จนคืนนี้ได้มาเจอกันที่นี่

หม่าหงเทาต่อสู้กับสองผีเพียงผู้เดียว เขารับมืออย่างสงบไม่วอกแวกแม้แต่น้อย

เขาไม่ใช่คนเดิมที่พึ่งเจอฉินเทียนที่เมืองเจิ้งตอนนั้นอีกแล้ว

หลังจากที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เพียงแต่กลับไปยังจุดสูงสุดที่เคยเป็นอยู่ แต่ก็ยังต้องมุมานะบากบั่นต่อไป เพื่อพัฒนาไปอีกขั้น

ราชามีดม้งในวันนี้ เป็นสิ่งที่คู่ควรกับเขา

เมื่อเห็นชุยหมิงและเถียหนิงซวง ต่างก็จัดการกับคู่ต่อสู้แล้ว ก็หัวเราะคิกคักมองไปที่เขา

หม่าหงเทากัดฟัน เขาฟาดสู่สายลมสามครั้ง และตัดหัวผีสีด้วยดาบจังหวะเดียว

หลังจากนั้นด้วยแรงกำลังของดาบที่ไม่ลด และหันฟันไปยังผีห้า

สัมผัสได้ถึงลมหายใจมัจจุราช สีหน้าผีห้าขาวซีด และรูม่านตาก็หดลง

ระหว่างสถานการณ์การที่อันตราย เงาเหี้ยมโหดสายได้มาจากระยะไกล

ดาบยาวออกจากฝัก และปะทะกับมีดม้งของหม่าหงเทา

ดาบทั้งสองคล้ายคึงกัน และล้วนเป็นดาบเรียวยาว เมื่อคมดาบเสียดสี ประกายไฟระเบิดระยิบระยับ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ใจคนหวั่นผวายิ่งนัก

ชุยหมิงและเถียหนิงซวงคิดว่าฝ่ายตรงข้ามมีคนมาช่วย จึงรีบพุ่งเข้าไป และล้อมคนที่มาไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด