บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 359

สรุปบท บทที่ 359 ตัวต่อตัว: บัญชามังกรเดือด

บทที่ 359 ตัวต่อตัว – ตอนที่ต้องอ่านของ บัญชามังกรเดือด

ตอนนี้ของ บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 359 ตัวต่อตัว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อได้รับรู้ข่าวนี้ สมาชิกตระกูลต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา

มีคนกล้าไปลอบสังหารอานกั๋วโดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้เรื่อง?

เหตุใดจึงไม่ผ่านการลงมติจากการประชุมตระกูล?

ต้องรู้ว่า ถ้าสู้ด้วยความจริงใจ สู้กันตัวต่อตัว ต่อให้เหยียบย่ำหนานเจียง โลกก็จะไม่พูดอะไร

มีเพียงจะยิ่งเกรงกลัวตระกูลจ้าวมากขึ้น

แต่มันไม่เหมือนกับการลอบสังหาร

ปัจจุบัน อานกั๋วและมณฑลเจียงหนาน กับตระกูลจ้าวและมณฑลอวิ๋นชวน ดูผิวเผินต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน

อยู่ดี ๆ ตระกูลจ้าวก็ใช้วิธีน่าอับอายนี้ ถ้าอานกั๋วเผยแพร่เรื่องนี้สู่สาธารณะชน คนในโลกจะรู้สึกว่าตระกูลจ้าวไร้ยางอายอย่างแน่นอน

เป็นเช่นนี้ อย่างน้อยในทางศีลธรรม ตระกูลจ้าวก็จะอยู่ในจุดที่เสียเปรียบก่อน

พวกเขาต้องคิดว่า ตระกูลจ้าวเป็นกลุ่มคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎ ไม่มีสัจจะ มีนิสัยโฉดชั่วเสมือนหมาป่า และใช้วิธีการที่ไร้ยางอาย 

ในความเป็นจริง ในจดหมายของอานกั๋ว แม้ว่าจะมีเพียง 6 คำ แต่เป็นการตบหน้าที่ดังมาก

ลอบสังหาร ไร้ยางอาย!

ตระกูลจ้าว ไร้ยางอาย!

สายตาของหลาย ๆ คนต่างจับจ้องไปที่ใบหน้าของจ้าวซวู่อย่างไม่ได้นัดหมาย

ในการประชุมตระกูลเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ จ้าวซวู่พูดต่อหน้าทุกคนว่าจะเอาหนานเจียงมาให้ได้ภายใน 3 เดือน

แน่นอนว่า ทุกคนต่างคิดว่า การลอบสังหารในครั้งนี้เป็นฝีมือของจ้าวซวู่

จ้าวซวู่ยืนขึ้น และพูดด้วยความตื่นเต้นว่า : “ใช้วิธีที่ไม่ฉลาดแบบนี้ ทำให้ตระกูลจ้าวต้องแปดเปื้อน กลายเป็นขี้ปากคนอื่น มันช่างไร้ยางอายสิ้นดี!”

“พ่อครับ ตกลงใครเป็นคนบงการ วันนี้ต้องลากตัวเขาออกมาให้ได้!”

“ให้มารับโทษกฎภายในตระกูล ต่อหน้าทุกคนและต่อหน้าบรรพบุรุษ!”

หืม?

ไม่ใช่จ้าวซวู่?

ทุกคนต่างงงงงวยไม่เข้าใจ

จ้าวเทียนเล่อมองไปที่จ้าวเทียนจี ยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า : “น้องสาม นายรู้ไหมว่าเป็นใคร?”

จ้าวเทียนจีพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : “การลอบสังหารอานกั๋ว แม้จะใช้วิธีไม่เหมาะสม แต่พวกเราก็ต้องเชื่อว่า บุคคลนั้นก็คิดถึงตระกูลจ้าวเช่นกัน”

“ดังนั้น ผมหวังว่าเขาจะเป็นฝ่ายยืนขึ้นมาสารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา”

สถานที่ประชุมเงียบลงครู่หนึ่ง

จ้าวข่ายกัดฟัน เขายืนขึ้นมา

“พ่อครับ การลอบสังหารอานกั๋ว ผมเป็นคนบงการเองครับ”

จ้าวข่าย?

ทุกคนเสียงดังเกรียวกราว

“สารเลว!” จ้าวเทียนจีตบหน้าจ้าวข่ายอย่างแรงจนเขาล้มลงไปกับพื้น

“พูดมา ทำไมถึงได้ทำแบบนี้?”

“ถ้าวันนี้แกไม่บอกฉันว่าทำไม ฉันจะฆ่าแกซะ!”

จ้าวข่ายคุกเข่าบนพื้น พูดเสีนงดัง ๆ ว่า : “พ่อครับ ฟังผมพูดก่อน!”

“การที่ผมส่งคนไปลอบสังหารอานกั๋ว เป็นเรื่องที่ต้องจำใจ ผมทำลงไปก็เพื่อคิดถึงตระกูลจ้าวของเรา!”

จ้าวเทียนจีส่งเสียงหึ่ย : “พูดมาสิ!”

“ถ้าสมเหตุสมผล ฉันเชื่อว่าลุงรองของแก อีกทั้งสมาชิกตระกูลทั้งหลาย ไม่มีทางปฏิบัติต่อคนดีอย่างไม่เป็นธรรม”

สองพ่อลูกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย คนฉลาด ๆ ต่างดูออกว่าพวกเขากำลังแสดงกันอยู่

จ้าวข่ายกัดฟันพูดว่า : “คุณลุงรองครับ ผมอยากจะถามหน่อยครับ”

“เมื่อไม่นานมานี้ คุณมอบภารกิจยึดเจียงหนานให้กับลูกชายของคุณ”

“และยังสั่งโยกย้าย 3 องครักษ์ของตระกูลให้เขาไปด้วย”

“ตอนนี้ผมอยากจะรู้ว่า เรื่องมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จ้าวเทียนเล่อก็หันไปจ้องจ้าวซวู่ แล้ะไม่พูดอะไร

จ้าวข่ายพูดเสียงดังขึ้นมาว่า : “สมาชิกตระกูลทุกท่านครับ บางทีทุกคนอาจจะยังไม่ทราบว่า”

“นายท่านจ้าวซวู่ผู้นี้ ถือไพ่ดีจริง ๆ ผ่านไปหนึ่งเดือน เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้แตะต้องขนของอานกั๋ว”

“แถมยังสูญเสียองครักษ์ 3 คนไปอย่างไร้ประโยชน์!”

“พี่น้องตระกูลหยวนซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อตระกูลจ้าวของเรา และสร้างผลงานอันทรงคุณค่า แต่ภายใต้น้ำมือของจ้าวซวู่ ทุกคนกลับถูกฆ่าตายภายในวันเดียว!”

“จ้าวซวู่ ตอนนี้ฉันสงสัยว่า นายคงไม่ใช่สายลับที่อานกั๋วส่งมาทำลายตระกูลของเราใช่ไหม?”

การย้อนกัดของจ้าวข่ายคำนี้ โหดเหี้ยมมาก

การตายของพี่น้องตระกูลหยวน พ่อของจ้าวซวู่ปิดบังทุกคนมาโดยตลอด

จ้าวซวู่ยิ้มเย็นชาและรีบพูดขึ้นทันทีว่า: “จ้าวข่าย เพื่อจะหลบหนีความผิด นายกล้าใส่ร้ายว่าคนในตระกูลมีเกลือเป็นหนอน”

“ตอนนี้ยังฆ่าปิดปากอู่กุ่ยอีก ดูเหมือนนายจะกินปูนร้อนท้องนะ”

“จ้าวซวู่ นายฆ่าอู่กุ่ย!”

“ฉันจะสู้กับนาย!”ภายใต้ความตื่นเต้น จ้าวข่ายตาแดงก่ำ และพุ่งเข้าหาจ้าวซวู่

“พอแล้ว!”จ้าวเทียนเล่อตบโต๊ะ และพูดด้วยความเย็นชาว่า : “ลูกหลานไม่ได้เรื่อง!”

“พวกแกจะลงไม้ลงมือที่นี่ ต่อหน้าบรรพบุรุษหรือไง?”

“อย่าลืมนะ ที่นี่คือศาลบรรพบุรุษ!”

จ้าวข่ายกัดฟันถอยออกมา

จ้าวเทียนจียิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า: “พี่รองครับ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่ว่าเอายังไงดีครับ?”

จ้าวเทียนเล่อครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดว่า : “จ้าวซวู่ จ้าวข่าย ต่างมีข้อเสียในการทำงาน”

“เรื่องนี้ให้จบเท่านี้ ต่อไปห้ามพูดถึงมันอีก!”

นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ทุกคนต่างไม่พูดอะไร

จ้าวเทียนจียิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า : “แบบนี้ ตระกูลจ้าวของเรา ก็เท่ากับโดนอานกั๋วตบหน้า โดยไม่มีที่จะให้อธิบายเหตุผล”

“เรื่องนี้ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แน่นอน”

“พี่รองครับ พี่เป็นคนดูแลกิจการของตระกูล งานการยุ่งเหยิง ไม่อย่างนั้น เรื่องของเจียงหนาน มอบให้เป็นหน้าที่ผมแล้วกัน”

“ยังมีองครักษ์เหลืออยู่อีก 10 คน พี่ให้ผมเพียง 5 คน ภายใน 1 เดือน ผมรับประกันว่าจะเอาหนานเจียงมาให้ได้”

จ้าวเทียนเล่อรีบพูดขึ้นมาทันทีว่า: “ไม่เหมาะสม!”

“ในเมื่ออานกั๋วส่งจดหมายมาด้วยตัวเอง จะเป็นการดีมากกว่าถ้าฉันออกหน้าด้วยตัวเอง”

“เหรอครับ งั้นพี่วางแผนจะทำยังไง?”

“ฉันวางแผนว่า จะใช้โอกาสนี้สู้กันตัวต่อตัวกับอานกั๋ว”

“น้องสาม ไม่อย่างงั้นนายไปหนานเจียงสักครั้ง ไปบอกกับอานกั๋วด้วยตัวเองว่า การลอบสังหารเป็นเพียงความเข้าใจผิด”

“เพื่อแสดงความจริงใจ สามวันหลังจากนี้ ฉันจะจัดงานเลี้ยงที่หอว่างเจียงที่ตั้งอยู่เขตแดนติดต่อกันระหว่างหยุนชวนและหนานเจียง”

“ล้างมลทินต่อหน้าเขา”

“ไปถามอานกั๋วดูว่า เขากล้ามาไหม”

จ้าวเทียนจีสีหน้าเปลี่ยน: “พี่จะจัดงานเลี้ยงเพื่อฉวยโอกาสจัดการเขา?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด