จ้าวเทียนจียิ้มและกล่าว “พี่ใหญ่ พี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย”
“งานเลี้ยงอาหารค่ำ ผมกับพี่รองได้พบกับฉินเทียน คำพูดของเขาในตอนนั้นทำให้ผมจดจำได้อย่างลึกซึ้ง”
“ดูเหมือนว่าความหมายของเขาคือต้องการปกป้องหลิวชิงเหยา”
“ตระกูลจ้าวของเรานั้นอาจหาญทำร้ายหลิวชิงเหยา เขาจึงขับไล่ตระกูลจ้าว”
“ผมมองออก เขาไม่ได้พูดล้อเล่น ดังนั้นเพื่อหลิวชิงเหยา เขาจะต้องลงมืออย่างแน่นอน”
“เขาไม่ต้องการให้หลิวชิงเหยาตกไปอยู่ในเงื้อมมือคนบ้าคลั่งอย่างจ้าวเฟิง”
“จากประเด็นนี้ผมสามารถยืนยันได้ว่าฉินเทียนนั้นไม่ใช่คนที่คอยบงการเรื่องชั่วที่อยู่เบื้องหลังจ้าวเฟิง”
จ้าวเทียนเผิงรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก
หลิวชิงเหยาแต่งงานเข้าตระกูลจ้าว ต้องการยืมมือตระกูลจ้าวกำจัดฉินเทียนล้างแค้นให้กับการฆาตกรรมของพ่อ
ส่วนฉินเทียนนั้นต้องการปกป้องหลิวชิงเหยา เพื่อความปลอดภัยของหลิวชิงเหยา เขาไม่ลังเลที่จะกำจัดและขับไล่ตระกูลจ้าว
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม จ้าวเทียนเผิงรู้ว่าการไปหาฉินเทียนนั่นคือทางออกเดียวของเขาในเวลานี้
อย่างน้อยประเด็นการปกป้องหลิวชิงเหยา เขาและฉินเทียนนั้นมีความคิดเช่นเดียวกัน
“โอเค!”
“น้องสาม นายพักผ่อนให้ดีเถอะ ฉันจะไปหาฉินเทียนเดี๋ยวนี้!” เมื่อกัดฟันเอ่ยประโยคนั้นแล้วจ้าวเทียนเผิงก็ก้าวเท้าเดินจากไป
ขณะนี้ เป็นเวลากลางดึก
หลังเกิดความโกลาหล ในที่สุดทั้งเมืองก็เงียบสงบลง
ภายในความเงียบ วันรุ่งขึ้นไม่รู้ว่าการแสดงออกนั้นจะเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่หรือความเศร้าโศกที่ยิ่งใหญ่กันแน่
จ้าวเฟิงและคนอื่นคิดว่าพวกเขาจะต้องคว้าชัยชนะอย่างแน่นอน เช่นนั้นพวกเขาต่างก็พักผ่อนกันแล้ว พวกเขาต้องเก็บแรงเพื่อที่จะคว้าชัยการสู้รบในวันพรุ่งนี้
จ้าวเทียนเผิงมายังโรงแรมที่ฉินเทียนกำลังพักอาศัยอยู่ด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว
ฉินเทียนยังไม่ได้นอนเอนกายพักผ่อนบนเตียง ทว่ากำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจอยู่บนโซฟา
เมื่อเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ทางเดิน เขารับรู้ได้ในทันใด
เสียงฝีเท้านั้นหนักแน่น กล่าวได้ว่าคนที่มาเยือนนั้นเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้
ขณะเดียวกัน เขาได้ยินเสียงลมหายใจที่ถี่ระรัว บ่งบอกว่าคนที่มาเยือนกำลังร้อนใจเป็นอย่างมาก
ในที่สุด เสียงฝีเท้าก็หยุดลงหน้าประตู
ราวกับว่าลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“คุณฉิน คุณพักผ่อนแล้วหรือเปล่า?”
“ผมจ้าวเทียนเผิงแห่งตระกูลจ้าว มีเรื่องอยากจะพบคุณ”
เสียงทุ้มต่ำเป็นอย่างมาก แต่สามารถรับรู้ได้ถึงความนอบน้อมและจริงใจ
อืม?
ตระกูลจ้าว จ้าวเทียนเผิง?
สำหรับชื่อนี้ฉินเทียนนั้นไร้ซึ่งความประทับใจ เขารู้เพียงแค่ว่าเจ้าบ้านของตระกูลจ้าวคือจ้าวเทียนเล่อและจ้าวเทียนจี
“ผมคือพี่ใหญ่ของจ้าวเทียนเล่อ” ด้านนอกประตูมีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง
พี่ใหญ่ของจ้าวเทียนเล่อ? นายใหญ่แห่งตระกูลจ้าว?
ฉินเทียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย ไม่รู้ว่านายใหญ่ท่านนี้มาหาเขาด้วยเหตุอันใดในเวลาดึกดื่นค่อนคืน
“เข้ามาเถอะ ประตูไม่ได้ล็อค” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
จ้าวเทียนเผิงทอดถอนหายใจจากนั้นผลักประตูเข้าไป
ภายในห้อง มีแสงสลัว หลังจากที่เขาสามารถปรับสายตาและมองเห็นได้อย่างละเอียด เขาเห็นว่าฉินเทียนนั้นกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา
ใบหน้าของฉินเทียนสงบนิ่ง จ้องมองเขาด้วยความเงียบ
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด เมื่อมองดวงตาคู่นั้นของฉินเทียน ฉับพลันอารมณ์ของจ้าวเทียนเผิงก็สงบลง
เขาฟื้นคืนภาพลักษณ์นายใหญ่แห่งตระกูลจ้าวที่สุขุมและมากด้วยประสบการณ์
เขาขยับเก้าอี้และนั่งลงตรงข้ามฉินเทียน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาเอ่ย “คุณฉิน มีเรื่องบางอย่าง ผมอยากจะถามคุณ”
ฉินเทียน “ว่าไงครับ”
จ้าวเทียนเผิง “คุณรู้หรือไม่ ค่ำคืนนี้ตระกูลจ้าวเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ฉินเทียนกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ “เรื่องราวภายในตระกูลจ้าวของพวกคุณ ผมไม่ได้สนใจ”
“สาเหตุที่ผลมาปรากฏตัวที่นี่ เป็นเพราะอยากจะดูว่าพวกคุณตระกูลจ้าวต้องการทำอะไรกับหลิวชิงเหยากันแน่”
“รวมถึงการนำห้าเมืองที่พวกคุณพ่ายแพ้ให้แก่ผมไปด้วย”
จ้าวเทียนเผิงเลิกคิ้ว “คุณเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวชิงเหยางั้นเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...