ปัง!
ไท่เจี๋ยเหมือนถูกฟ้าผ่า
เขาร้องเสียงดังครั้งหนึ่ง เลือดพุ่งออกมาจากปากดังธนู ร่างกายพุ่งกระเด็นออกไป
เสียงตู้มดังขึ้น ร่างกายเขากระแทกเข้ากับกำแพง ทั้งกำแพงจึงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และมีฝนควันตลบฟุ้งไปทั่วทุกสารทิศ
จากนั้นร่างกายเขาก็กระแทกลงพื้น
และกระอักเลือดออกมาอีกสองเฮือก ทั้งใบหน้าขาวซีดลงมาภายในพริบตา
เขามองหน้าฉินเทียน หวาดกลัวมากจนพูดอะไรไม่ออก
ฉินเทียนเอามือทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้านหลัง พลางแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด: “ฉันจะไม่ฆ่านายชั่วคราว”
“กลับไปบอกยัยแก่นั่นที่ซีเป่ยว่า นี่ คือของขวัญที่ฉันมอบให้มัน”
“ฉันเชื่อว่ามันต้องรู้แน่ว่าต่อไปควรทำยังไงต่อ”
“ไสหัวไป!”
ใบหน้าของไท่เจี๋ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าอาย กัดฟันแน่น ดิ้นรนดันตัวเองให้ลุกขึ้นมา จากไปอย่างรีบร้อนภายใต้การประคองของเหล่าลูกน้อง
ฉินเทียนหันหลังไปมองจุยเฟิง ยิ้มพลางพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “นายมาได้ยังไงเนี่ย?”
“มาดูฉันขายขำเหรอ?”
จุยเฟิงยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูด: “การขายขำของนายน่ะมันไม่ตลกเลยสักนิด”
“นายท่านไม่วางใจ เลยให้ฉันมาดู เขาเองก็มาเหมือนกัน”
“ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล นายไปเยี่ยมเขาหน่อยสิ”
ฉินเทียนยิ้มพลางตอบกลับ: “โอเค”
ทั้งสองคนออกมาจากลานหน้าบ้าน มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
เป็นโรงแรมทั่วไปที่โทรมมาก ๆ แห่งหนึ่ง ถ้าเกิดไม่ได้มาเห็นด้วยตา คงไม่มีใครเชื่อว่าราชาแห่งหนานเจียงที่รักษาความสงบในหนานเจียงอย่างสง่าจะพักอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เล็กแบบนี้
อันกั๋วก็ได้รับคำเชิญงานแต่งงานจากตระกูลจ้าวเช่นกัน เดิมทีเขากะจะไม่มา
แต่ทว่าหลังจากที่ทราบว่าฉินเทียนมาแล้ว เขาจึงพาจุยเฟิงตามมาด้วย
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ก่อนจะเดินทางมา เขาได้กำชับเบื้องล่างราชาการต่อสู้หูปินให้นำพาเหล่านักรบในหนานเจียง มาตั้งขบวนในเขตเมืองอวิ๋นชวนแล้ว
ขอแค่ตระกูลจ้าวกล้าใช้อำนาจบาตรใหญ่โหดเหี้ยม เขาออกคำสั่งเดียว หูปินก็จะนำพาขบวนทัพใช้กำลังโจมตีอวิ๋นชวน
มากสุดก็แค่สู้กันจนพังทั้งสองฝ่าย
“ดูท่าบุคคลในวงศ์ตระกูลเดียวกันของคุณน่าจะยังไม่อยากปล่อยคุณไปสินะ”
“คุณชายใหญ่ครับ แล้วต่อไปคุณวางแผนจะเอายังไงต่อครับ?”เมื่อเห็นหน้าฉินเทียน อันกั๋วจึงถามอย่างกังวลใจ
ฉินเทียนยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางตอบกลับ: “ผมฝากฝังให้ไท่เจี๋ยนำท่วงทีของผมกลับไปแล้ว”
“เชื่อว่าพวกเขาต้องรู้อยู่ว่าควรทำยังไง”
อันกั๋วไม่เข้าใจว่าฉินเทียนเอาอะไรฝากฝังให้ไท่เจี๋ยนำกลับตระกูลฉิน แต่ทว่าเมื่อเห็นฉินเทียนดูมีแผนอยู่ในใจแล้ว เขาจะไม่ตามต่ออย่างรู้สถานการณ์
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องในตระกูลฉินเทียน
เขานึกคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า: “ตอนนี้ยังมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือคุณหนูในเป่ยเจียง”
“เท่าที่ผมทราบมา เธอกับคนในตระกูลจ้าว แล้วก็แขกเหล่านั้นยังรอคุณกลับไปอยู่นะครับ”
“คุณจะจัดการยังไงครับ?”
เมื่อพูดถึงหลิวชิงเหยา ฉินเทียนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย
ถ้าเกิดรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่อนุญาตให้หลิวเช่อตายไปเด็ดขาด
หมากสว่างหมากลับอะไร พูดตามตรงเลยว่าเขาฉินเทียนไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้นจริง ๆ
แต่ทว่าเรื่องทุกอย่างดำเนินการมาจนถึงตอนนี้แล้ว เขาเห็นด้วยกับความคิดเห็นของยู่หลิงหลง นั่นก็คือจะเปิดเผยหมากเกมนี้ไม่ได้
ไม่งั้นก็จะทำให้หลิวเช่อตายฟรี แบบนั้นมันจะทำให้ฉินเทียนยิ่งรู้สึกผิดต่อหลิวเช่อ
“เห้อ คงทำได้เพียงเดินทีละก้าว ดูไปทีละก้าวแล้วล่ะ”
“นายท่าน คุณไม่ไปตระกูลจ้าวเหรอครับ?”
อันกั๋วยิ้มพลางตอบกลับ: “เรื่องทางนี้จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตาแก่ฉันคงไม่ไปประสมโรงด้วยแล้วล่ะ”
“ผมกลับหนานเจียงดีกว่า”
“คุณชายใหญ่ครับ ถ้ามีเวลาก็ไปดื่มเหล้าที่ผมได้นะครับ หรูยู่ยังรอคุณที่บ้านอยู่เลยครับ”
“ยัยนั่นน่ะ ตอนคุณไม่อยู่ เธอก็จะหน้ามุ่ย ดูไม่มีความสุขอยู่ตลอด”
ฉินเทียนมองบน ก่อนจะรีบกระแอมทีหนึ่งแล้วพูดว่า: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมไปตระกูลจ้าวแล้วนะครับ”
“ผมเกรงว่าหากเวลาล่วงเลยไปนาน ฝั่งนั้นจะเกิดความวุ่นวายอะไรขึ้น”
“นายท่าน ลาก่อนนะครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็จากไปเหมือนหนีเอาชีวิตรอดยังไงอย่างนั้น
อันกั๋วคนนี้ก็จริง ๆ เลย รู้ทั้งรู้ว่าฉันมีภรรยาแล้ว เป็นผู้อาวุโสแล้วแต่ยังไม่รู้จักเคารพตัวเองอีก เอาหลานสาวของคุณล้อเล่นกับฉัน
คุณก็อบรมดูแลหลานสาวคุณบ้างสิ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...