บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 403

สถานที่หล่อเลี้ยงจิตใจ เป็นสถานที่บำเพ็ญธรรมแห่งแรกที่ตระกูลฉินสร้างขึ้น

เล่ากันว่าคนที่ก่อตั้งคือนักพรตอัจฉริยะของตระกูลฉินคนที่แล้ว เนื่องจากฝึกกงฟูมากเกินไป จนบ้าๆ บอๆ ตอนหลังที่เขาได้พบกับนักชวชที่เดินทางไปทั่ว แนะนำจนเขาลุ่มหลง

หลังจากที่บรรพบุรุษผู้นั้นฟื้นขึ้น ก็ได้สร้างสถานที่บำเพ็ญธรรมที่นอกเมือง ตั้งชื่อว่า“หล่อเลี้ยงจิตใจ”

ประวัติของตระกูลฉิน เพื่อเป็นการเคารพในความเชื่อของบรรพบุรุษผู้นั้น จึงได้ออกเงินซ่อมแซมสถานที่หล่อเลี้ยงจิตใจแห่งนี้

นักบวชที่รวมตัวในที่นี่ในปัจจุบัน หากพูดถึงธรรมะ ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการบำเพ็ญธรรม

ภูเขาด้านหลัง ภายในห้องที่เงียบสงบมาก

เมื่อได้ฟังเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉินเทียนจนจบสิ้น ฝ่ายตรงข้าม ชายวัยกลางคนที่มีผิวขาว ผมยาวก็หัวเราะขึ้นแล้วพูดว่า:“เจ้านี่เดี๋ยวนี้ร้ายกาจถึงเพียงนี้แล้วเหรอ?”

  “กล้าที่จะแสดงอำนาจกับนายหญิงใหญ่แล้ว”

เขามองไปแล้วเหมือนพวกเด็กเรียน แต่ว่า หางตาและคิ้วที่สวยงาม แต่กลับเผยถึงความอำนาจแบบไม่รู้ตัว

เสมือนกับว่ามีความเป็นชนชั้นสูงและอำนาจในสายเลือด

โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น หากว่าไม่มีปลายหางตาที่ละเอียด รับรองต้องมีหญิงมาติดมากเป็นแน่

แม้กระทั่งวัยกลางคนตอนนี้ ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์

ต้องบอกว่าผู้ชายคนนี้ “สวย” มากจริงๆ

เขาเป็นพ่อแท้ๆ ของฉินเทียน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนายหญิงใหญ่ เป็นสายเลือดรุ่นที่สองของตระกูลฉิน ในนามคือเจ้าบ้านของตระกูลฉิน ชื่อฉินฉี

เพียงแค่ว่า หากจะพูดถึงเจ้าบ้าน ในตระกูลฉินตอนนี้ ตั้งแต่เจ้านายจนถึงลูกน้อง ไม่มีใครเห็นเขาอยู่ในสายตา

อันดับแรก นายหญิงใหญ่ไม่ชอบลูกชายคนนี้

บอกว่าเขาเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่รับหน้าที่ เรื่องของตระกูล ทำให้นายหญิงใหญ่มักจะชอบเข้ามายุ่ง โดยไม่เคยปรึกษากับฉินฉีเลย

ไม่เพียงแต่เรื่องการงานที่ไม่ได้เรื่องแล้ว เรื่องส่วนตัวของตัวเองด้วย ฉินฉียังจัดการเรื่องของตัวเองได้ไม่ดีด้วย

ภรรยาแรกตายไปนานแล้ว ภรรยาคนปัจจุบันก็ฉลาดแกมโกง มีลูกชายสองคน คนหนึ่งตะลอนอยู่ข้างนอก อีกคนหนึ่งก็กระทําตามใจชอบ พูดง่ายๆ ก็คือ ลูกคนรวยที่เอาแต่ใจ

เขาก็จัดการเองไม่ได้

ภายใต้ความเหนื่อยหน่ายนั้น ทำได้เพียงแค่มาหลบในสถานที่หล่อเลี้ยงจิตใจ ไม่ถามเรื่องภายนอก

ในสายตาของคนภายนอก ก็เป็นแค่นกกระจอกเทศที่เอาหัวไปมุดทรายไว้

  เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินฉี ถงจิ่งหัวเราะแล้วพูดว่า:“เจ้าบ้าน สำหรับผลลัพท์นี้ คุณจะชื่นชมหรือว่าผิดหวังดี?”

  ฉินฉีหัวเราะอย่างเย็นชาว่า:“เจ้านั่นต่อให้แน่แค่ไหน ยังไงก็เป็นเด็กอยู่ดี”

  “ต้องมีสักวันหนึ่ง ที่เขารู้ว่าโลกนี้มันโหดร้ายแค่ไหน”

  ถงจิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดลองใจว่า:“ดังนั้น คุณก็เลยไม่คิดที่จะรับเขากลับมา?”

  หนังตาของฉินฉีกระตุกแล้วพูดว่า:“ทำไมถึงพูดแบบนี้?”

  “เขาไม่ได้นับฉันเป็นพ่อมาตั้งนานแล้ว?”

  “ใช้คำพูดเดิมของเขา ฉันไม่สามารถสืบทอด แถมยังดูแลลูกเมียของตัวเองไม่ได้ ฉันเป็นคนที่ล้มเหลวมาตั้งแต่ต้น”

  “เจ้านั่นดูถูกฉัน หากฉันไปรับ ยังไงเขาก็ไม่กลับมาอยู่ดี”

  “จะไปทำเรื่องที่ให้ตัวเองอับอายทำไม”

ถงจิ่งหัวเราะ ดวงตาแก่คู่นั้น มีแววตาของความสนุกแฝงไว้ในนัยน์ตาที่ลึก

  “เจ้าบ้าน ฉันพูดด้วยความสัจจริง”

  “คุณกับนายหญิงใหญ่ เกลียดนายน้อยแบบที่พูดออกมาจริงๆ จนกระทั่งถึจะฆ่าแกงกันได้เลยเหรอ?”

  ฉินฉีอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงต่ำว่า:“ราชาถงจิ่ง นายหมายความว่ายังไง?”

ราชาถงจิ่งหยิบมากขึ้นมา จากนั้นก็กินหมากทหารของฉินฉี

พูดราวกับไม่ตั้งใจว่า:“ทำไมผมถึงรู้สึกว่า คุณกับนายหญิงใหญ่ ร่วมมือกันเล่นหมากกระดานใหญ่กันอยู่?”

  “หมากตัวนี้ก็คือนายน้อย ที่ดูว่าตอนนี้พัฒนาสำเร็จแล้ว”

  ฉินฉีก้มมองหมากในกระดาน จากนั้นลงหมากอย่าเงียบๆ แล้วพูดว่า:“ยังไม่ถึงเวลา”

  “ราชาถงจิ่ง นายใจร้อนไปหน่อย”

  “ระเบิด พลิกสถานการณ์”

  ถงจิ่งมองหมากตัวนั้นแม่ทัพของตัวเองในกระดานที่โดนระเบิดจนเกลี้ยง จากนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้

  “ดูเหมือนว่า ผมตื่นเต้นไปจริงๆ ”

  “เฮ้อ หลายปีมานี้นั้น ที่ผมได้เห็นนายน้อยเติบใหญ่มาถึงตอนนี้ ผมทั้งปวดใจแล้วก็ชื่นชม!”

  “ผมไม่กล้าคิดเลยว่า หลายปีมานี้ นายน้อยต้องลำบากมากเท่าไหร่ ถึงค่อยๆ เดินมาถึงจุดนี้ได้”

  “เขาโตมากแล้วจริงๆ !”

พูดไป ขอบตาของเขาก็มีน้ำตาระรื้นขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด