เพื่อช่วยลิฉุนปรับความสัมพันธ์กับลิเว่ยจง ระหว่างทาง ฉินเทียนยังตั้งใจซื้อของขวัญสองสามกล่องมาด้วย
ในฐานะลูกสาว กลับมาจากแดนไกลทั้งที ไม่มีของติดไม้ติดมือดูจะคุยไม่ออก
นอกจากสาเหตุนี้แล้ว ฉินเทียนอดยอมรับไม่ได้ว่า การไปพบลิเว่ยจง เขาก็มีความเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง
ตอนนี้เขาแน่ใจได้ว่า 7 หัวเมืองใหญ่ใต้หมากกระดานนี้ อีกฝ่ายก็คือตระกูลลิ
ทว่า ส่วนใครจะเป็นคนเดินหมากตัวจริง ตอนนี้เขายังสงสัยอยู่ แต่เขารู้ว่าถ้าไม่ใช่ลิเหลียง ก็ต้องเป็นลิเว่ยจง
หลังจากได้พบลิเหลียงที่สนามบิน เขาก็ยิ่งเชื่อว่า เบื้องหลังคนที่เดินหมากตัวจริงคือลิเว่ยจงที่ถอนไปตัวเงียบ ๆ
ลิเหลียงเป็นแค่โฆษกผิวเผินเท่านั้น
ไม่ว่าจะใช่ลิเว่ยจงหรือไม่ หลังจากได้พบก็น่าจะรู้แล้ว
รถยนต์มาถึงลานตระกูลลิ จอดอยู่ประตูหลัง
อยู่ ๆ ลิฉุนก็ตระหนกใจขึ้นมา มองประตูที่กักบริเวณก็ดึงดันไม่อยากลงจากรถ
ฉินเทียนต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานเธอจึงฝืนตกลง พอลงจากรถก็เดินตามหลังฉินเทียน พอเห็นท่าทางอย่างนั้นก็ไม่เหมือนกลับบ้านตัวเอง
กลับเหมือนสะใภ้ตัวน้อยตามสามีมาพบแม่สามีครั้งแรก
ฉินเทียนอยากจะหัวเราะ แต่ก็อดปวดร้าวขึ้นมาในใจไม่ได้ เขาอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าวันนึงเข้ากลับไปที่ตระกูลฉิน จะเป็นแบบเดียวกันอย่างนี้หรือเปล่า……
“หนิงซวง เคาะประตู” เขาเอ่ยเสียงขรึม
“รับทราบ!” เถียหนิงซวงไม่เกรงใจแม้แต่นิดเดียว เดินตรงดิ่งมาเคาะประตู
ทำลิฉุนตกใจจนไปหลบอยู่ข้างหลังฉินเทียนด้วยสัญชาตญาณ
เสียงดังแอ๊ด ประตูเปิดออก บ่าวรับใช้ชราคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาถามด้วยความสงสัยว่า: “คุณหนูท่านนี้มาหาใคร?”
เถียหนิงซวงเอ่ยเสียงขรึมว่า: “มาหาลิเว่ยจง”
“คุณบอกว่าใครนะ?” บ่าวรับใช้ชราตกใจคิดว่าจะพูดอะไรบางอย่าง อยู่ก็เห็นลิฉุนที่อยู่ข้าง ๆ จนเขาตกใจอ้าปากค้าง
“คุณหนูใหญ่?”
“คุณหนูใหญ่คุณกลับมาแล้วเหรอครับ?”
ลิฉุนลังเลสักพักแล้วก็เอ่ยด้วยเสียงคล้อยต่ำว่า: “ลุงหวาง ฉัน……ผ่านทางมาเลยแวะมาดูหน่อย”
“เขา……ยังสบายดีมั๊ย?”
พูดจบ สายตาก็อดมองเข้าไปข้างในไม่ได้
สายตาที่โหยหา การแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรก็ทลายลงในพริบตา สะท้อนออกมาว่า เวลานี้เธอร้อนใจแค่ไหน
“หวางโป ใครน่ะ?”
เวลานี้เอง ในลานเรือนก็มีเสียงรอดออกมา ฟังแล้วแม้จะขรึมต่ำ แต่ยังถือว่าเปี่ยมด้วยพลังงาน
พอได้ยินเสียงนี้ ลิฉุนก็อดตัวสั่นไม่ได้
เธอรีบเดินเข้าไปข้างในอย่างขาดการควบคุม
ในลานเรือนปลูกดอกไม้ใบหญ้าเต็มไปหมด
เวลานี้พระอาทิตย์กำลังตกดิน ชายอายุ 50 กว่าผมขาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ในมือถือฝักบัวรดน้ำกำลังรดน้ำให้ดอกกล้วยไม้ที่อยู่ตรงหน้า
ทันทีที่เห็นลิฉุน ตัวเขาก็สั่นเทา ฝักบัวรดน้ำในมือก็หล่นลงบนพื้น
“ฉุนเอ๋อร์!” ในเวลาชั่วครู่ เขาไม่อาจอำพรางความประหลาดใจไว้ได้
“พ่อ ขาของพ่อเป็นอะไรไป?” ลิฉุนทิ้งกระเป๋าในมือ โผเข้าไปหา
ตั้งแต่นาทีที่เดินเข้ามา ฉินเทียนก็สำรวจลิเว่ยจงอย่างเงียบ ๆ
แค่ดูจากรูปร่างหน้าตาครั้งแรกที่เห็นก็รู้ว่า คนผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
ผู้ที่มีฐานะสูงส่ง ไม่เคยผ่านมรสุม ไม่อาจมีบุคคลิกอย่างนี้ได้
จากนั้น จากปฏิกิริยาที่ลิเว่ยจงเห็นลิฉุนครั้งแรก เข้ากันไม่ได้ตรงไหน?เห็นชัด ๆ ว่าพ่อลูกผูกพันธ์กัน!
นั่นเป็นความคิดถึงที่ฝังเข้าไปในกระดูก!
แต่พอเห็นลิฉุนโผเข้ามาที่ตัวเอง ลิเว่ยจงเหมือนมีสัญชาตญาณรู้ถึงอะไรบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนอย่างฉับพลัน
“พ่อ ลิเหลียงบอกฉันว่า พ่อไม่เป็นอะไรมาก แค่อ่อนแอนิดหน่อย……”
“ว่าแต่ ทำไมพ่อถึงนั่งรถเข็น?”
ลิฉุนนั่งย่อลงตรงหน้าลิเว่ยจง บนใบหน้าที่ไร้ที่ติ เต็มไปด้วยความตระหนกและปวดร้าว
เธอยื่นมือไปอยากเปิดผ้าที่ขาของลิเว่ยจงออกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“อย่ามาแตะต้องฉัน!”
นึกไม่ถึงว่าเวลานี้เอง อยู่ ๆ ลิเว่ยจงก็เปลี่ยนสีหน้าในฉับพลัน
เขาผลักลิฉุนออก เนื่องจากใช้แรงมาก ทำให้ลิฉุนก้นจ้ำเบ้ากับพื้น
“พ่อ——” มองดูพ่อที่ระเบิดความโกรธ ลิฉุนก็ชะงักงัน
“เธอตายอยู่ข้างนอกแล้วไม่ใช่เหรอ?ยังกลับมาทำไม!”
“เธอไปซะ!”
“ฉันไม่มีลูกสาวอย่างเธอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...