บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 549

เมื่อเห็นลิฉุน ท้ายที่สุดสีหน้าของลิเหลียงพลันเปลี่ยนไป

คำประณามของคนอื่น เขาสามารถไม่สนใจได้ ฆ่าคนมากมายเท่าไร เขาก็ไม่คิดแยแสเก็บเอามาใส่ใจเลยสักนิด

ทว่าเป็นลิฉุน เขานั้นไม่สามารถเพิกเฉยได้

มองไปยังใบหน้าที่ค่อนข้างไม่คุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ทว่าเขาไม่อาจลืมได้เลย ภาพฉากในวัยเด็กที่กำลังวิ่งไล่ตามก้นพี่สาว

พี่สาวคนนี้ ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเติบใหญ่ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยทำไม่ดีกับเขา

“พี่ พี่ไม่ควรกลับมา...”

“พี่อย่าบังคับผมเลย” เขาเอ่ยพึมพำ

ลิฉุนเองก็เจ็บปวดมากเช่นกัน

ในวันนี้เธอเองก็เพิ่งรู้ว่าลิเหลียงไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ทว่าความสัมพันธ์ตลอดยี่สิบปีของเลือดที่ข้นยิ่งกว่าน้ำ ช่วงเวลาเหล่านั้นเราจะละทิ้งมันได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้ เธอมีความขัดแย้งกับลิเว่ยจงผู้เป็นพ่อ เธอคิดว่าเป็นเพราะลิเหลียง

เป็นเพราะว่าพ่อนั้นเห็นความสำคัญของลูกชายมากกว่าลูกสาว

ดังนั้นแล้วเธอจึงติดต่อกับลิเหลียงน้อยลง ทว่าภายในใจของเธอก็ยังคงเห็นว่าลิเหลียงนั้นเป็นน้องชายในสายเลือดของตน

เธอกัดฟันและพูด “ไม่งั้นก็ฆ่าฉันเสีย”

“หรือไม่อย่างนั้นก็ปล่อยคนเหล่านี้ไป”

“นายไม่สามารถทำผิดไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้กลับตัวกลับใจก็ยังไม่สายไป!”

“ตราบใดที่นายรู้สึกผิดอย่างใจจริง ฉันและพ่อก็จะยังถือว่านายเป็นคนในครอบครัวเช่นเดิม”

“นายก็จะเป็นทายาทของตระกูลลิอีกด้วย”

ได้ยินเช่นนี้ ลิเหลียงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก เสี้ยววินาทีหนึ่ง เขาแทบจะยอมแพ้และล้มเลิกทุกอย่าง

แต่ทว่าในวินาทีถัดมา ความเกลียดชังและความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นทำให้หัวใจของเขากลับมาแข็งกระด้างอีกครั้ง

เขาหัวเราะเสียงดังลั่นและกล่าว “ตระกูลลิงั้นเหรอ?”

“พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของผมต้องตายเพราะลิเว่ยจง จะให้ผมคิดว่าไอ้โจรขโมยคนนี้เป็นพ่อไปได้อีกอย่างไรกัน”

“อีกอย่าง คุณคิดว่าทรัพย์สมบัติของตระกูลลิของพวกคุณนั้นสำหรับผมแล้วมันจะหาได้ยากมากงั้นเหรอ?”

“เทียบกับของเถ้าแก่ที่แท้จริงของผม ทรัพย์สินของพวกคุณน่ะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยในทรัพย์สินที่มหาศาลของเขา!”

“สิ่งที่ผมต้องการน่ะคือความยิ่งใหญ่ที่หาที่เปรียบไม่ได้ ไม่ใช่แค่ตระกูลลิหรือว่าเจ็ดเมืองทางใต้ที่มีขนาดเล็กเพียงแค่นี้หรอก!”

ทุกคนตื่นตระหนกหวาดผวา

ประการแรกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของลิเหลียง เสียชีวิตเพราะลิเว่ยจง ที่นี่จะมีความลับอะไรอีกหรือไม่?

อีกประการหนึ่ง ทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลของตระกูลลิ ในสายตาของลิเหลียงนั้นไม่คุ้มค่าแก่การเอ่ยถึง

เบื้องหลังของเขานั้นมีอำนาจลึกลับอะไรซ่อนอยู่?

หัวใจของฉินเทียนกระตุกหนึ่งครา เอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “องค์กรเบื้องหลังของคุณ มีสัญลักษณ์รูปหัวกะโหลกใช่หรือไม่?”

“ร่างกายของคุณและถงเหริน เหตุใดถึงไม่มี?”

ลิเหลียงเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ไม่เข้าใจเหรอ? งั้นฉันจะบอกคุณให้”

“สัญลักษณ์นั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ของสถานะที่ต่ำต้อย เสินเฟิงตราบใดที่ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้น สามารถลบสัญลักษณ์นั้นออกไปได้”

“เพียงแต่น่าเสียดาย เขาไม่ได้รอจนถึงวันนั้น”

“สำหรับระดับของฉันและถงเหรินไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสัญลักษณ์เพื่อระบุตัวตนของเรา ในทางตรงกันข้าม สัญลักษณ์นั้นจะกระทบต่อการซ่อนสถานะของพวกเรา”

ฉินเทียนเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “บอกฉันมา องค์กรนั้นมีชื่อว่าอะไร!”

สามารถชุบเลี้ยงคนอย่างลิเหลียง องค์กรนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

องค์กรขนาดใหญ่ดังกล่าวปรากฏขึ้นในประเทศจีนเมื่อใด ฉินเทียนทั้งประหลาดใจทั้งอยากรู้อยากเห็น

ลิเหลียงเอ่ยอย่างเยือกเย็น “อีกไม่นานคุณก็จะได้รู้”

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”

“ฉินเทียน คุณไม่ใช่วีรบุรุษ อยากจะอยู่ที่นี่แลกกับความปลอดภัยของคนเหล่านี้ใช่ไหม? งั้นฉันจะทำตามที่คุณต้องการ”

“แต่ทว่า พวกเรามาเปลี่ยนวิธีการเล่นกันสักอย่าง”

“คนเหล่านี้ที่อยู่บนเวที พวกคุณสามารถเอาชนะพวกเราได้ ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้และจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้ เป็นอย่างไร?”

เขาบอกว่าคนที่อยู่บนเวที นอกเสียจากคนที่ไม่ได้ฝึกยุทธแล้ว ยังมีจี้ซิง ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ เหล่านี้คือยอดฝีมือ

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ฉินเทียนต้องอยู่เพียงลำพัง เช่นนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มเบี้ยให้กับฉินเทียน

ทางด้านลิเหลียง นอกจากเขา ดูเหมือนว่ามีเพียงถงเหรินเท่านั้นที่สามารถต่อสู้ได้

หรือว่า ลิเหลียงนั้นมั่นใจในพละกำลังและความแข็งแกร่งของถงเหริน?

เขาคิดว่าการที่พึ่งพาถงเหริน จะสามารถชนะตัวเขาและดวงจันทร์ดวงอาทิตย์แห่งตระกูลจี้ได้งั้นเหรอ?

ฉินเทียนนั้นไม่เข้าใจลิเหลียงเลยจริงๆ

“ถ้าหากว่าพวกเราแพ้ คุณต้องการอะไร?” ฉินเทียนรู้ ลิเหลียงจะต้องมีจุดประสงค์อื่นอย่างแน่นอน

ลิเหลียงยิ้มและเอ่ย “ง่ายดายมาก”

“พวกคุณแพ้ ในภายภาคหน้าก็ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของฉัน”

“ฉันเป็นเจ้านายของพวกคุณ”

การสังหารผู้คนนั้นไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของลิเหลียง สิ่งที่เขาต้องการคือการเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเจ็ดเมืองทางใต้

ถ้าหากสามารถปราบฉินเทียนและคนเหล่านี้แห่งตระกูลจี้ได้ เช่นนั้นก็จะเป็นเสมือนเสือติดปีก[1]

“ทำไม คุณไม่กล้าเหรอ?” เห็นว่าฉินเทียนลังเล ลิเหลียงแสดงท่าทียั่วยุ

“ฉินเทียน มีอะไรที่ต้องไม่กล้างั้นเหรอ? ตอบรับเขาไป!”

“ถ้าหากว่าไม่สามารถเอาชนะได้จริงๆ อย่างแย่ที่สุดพวกเราก็แค่แพ้ศึกและตายที่นี่ก็แค่นั้น!” จี้ซิงเอ่ยตะโกนอย่างตื่นเต้น

ฉินเทียนสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าลิเหลียงจะต้องซ่อนไพ่ตายไว้อย่างแน่นอน

ลิเหลียงจะต้องมีความมั่นใจมากพอ เช่นนั้นจึงเป็นการท้าพนันที่เขากล้าเสี่ยงเช่นนี้

แต่เขาเอาความมั่นใจนี้มาจากไหนกัน? ฉินเทียนคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

ในขณะนี้ จุยเฟิงที่อยู่ด้านล่างเวทีเอ่ยด้วยเสียงทุ้มลึก “พี่เทียน จากการสังเกตของฉันเกี่ยวกับสนามฝึกลับของลิเหลียง เขาน่าจะเป็นยอดฝีมือที่หลบซ่อนตัวอยู่”

“พี่ต้องระวังด้วย”

ยอดฝีมือที่หลบซ่อนตัวงั้นเหรอ?

ฉินเทียนยิ่งคลางแคลงใจมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร ลิเหลียงก็ไม่เหมือนคนที่เคยบำเพ็ญตบะ

ก่อนหน้านี้ที่สนามบิน เขาเคยลองหยั่งเชิงมาแล้ว

“โอเค ฉันตอบรับคุณ!”

“ถ้าหากพวกเราพ่ายแพ้ พวกเราจะอยู่ภายใต้อำนาจของคุณ”

“แต่ทว่า เรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมก็คงยากที่จะฟังคำสั่ง”

ฉินเทียนได้ทำการตัดสินใจ อยากจะเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย ลิเหลียงผู้นี้ยังซ่อนอะไรไว้อีกบ้าง

ลิเหลียงเลิกคิ้วขึ้น “ตกลง”

การท้าพนันได้เริ่มต้นขึ้น

ตอนนี้ เจ็ดเมืองทางใต้จะอยู่ภายใต้ของแสงสว่างหรือว่าถูกปกครองด้วยปีศาจอย่างลิเหลียง ต้องรอดูผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้

การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย ลิเหลียง ถงเหริน ; ฉินเทียน ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ จี้ซิง

อย่างน้อยหากดูจากการเปิดไพ่ในตอนนี้ ทางด้านฉินเทียนนั้นได้เปรียบเป็นอย่างมาก

“พวกนาย เข้ามาพร้อมกันได้เลย!” ถงเหรินก้าวเท้าเดินไปยังจุดศูนย์กลางของเวทีเซวียนหยวน สายตาจ้องมองดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และเอ่ยเยาะเย้ย

สองรุมหนึ่ง เขาไม่เพียงแต่ไม่หวาดกลัว ทว่านัยน์ตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยการเหยียดหยามและดูถูก

ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ใบหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ

ท่ามกลางเสียงคำราม ทั้งสองร่วมมือกัน ราวกับพายุเฮอริเคนอย่างไรอย่างนั้น พุ่งเข้าหาถงเหรินในเวลาเดียวกัน

ระยะห่างมากกว่าสิบเมตร เพียงเสี้ยววินาทีก็ไปถึงด้านหน้า

หมัดของทั้งสองที่ดุร้ายและมุละทุนำมาซึ่งเสียงร้องโหยหวนของลมและพุ่งเข้าหาถงเหริน

ถงเหรินนิ่งงันไม่ขยับเขยื้อน พร้อมรับหมัดของทั้งสองที่กำลังพุ่งเข้าใส่

กำปั้นทั้งสี่ปะทะเข้าหากัน เสียงตูมดังขึ้น

ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ต่างถอยกันคนละก้าว ร่างกายของถงเหรินสั่นสะท้าน ท้ายที่สุดก็ถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้

ทุกคนตกอยู่ในความตะลึง!

นี่คือดวงจันทร์ดวงอาทิตย์แห่งตระกูลจี้เชียวนะ!

นอกเสียจากนายท่านจี้ผู้ซึ่งลึกล้ำเกินกว่าจะอธิบายได้ผู้นั้น ในวันนี้ตระกูลจี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าคือยอดฝีมือ

พวกเขาทั้งสองจู่โจมพร้อมกัน แต่ทว่าถงเหรินนั้นกลับขยับร่างกายเพียงแค่ครึ่งก้าว?

“เอาอีก!”

จ้าวจิ่วรี่แผดเสียงคำราม ร่วมมือกับหวังเยว่ จากนั้นเข้าโจมตีอีกครั้ง

เวทีเซวียนหยวนนี้มีรัศมีหลายสิบเมตร เป็นเวทีขนาดใหญ่โดยธรรมชาติ

ยอดฝีมือทั้งสามคนกำลังต่อสู้กัน ร้องตะโกนครั้งแล้วครั้งเล่า การต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนกลับไปในสมัยโบราณ

ยุคสมัยป่าเถื่อนที่ทุกคนตัดสินใจทุกอย่างด้วยกำปั้น

เมื่อเห็นว่าดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ต่อสู้และทำได้เพียงแค่เสมอกับถงเหริน จี้ซิงขมวดคิ้วแน่นอย่างอดไม่ได้ โน้มตัวเข้าหาฉินเทียนที่อยู่ด้านข้างและเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่งเอ้ย!”

“ไอสิ่งนี้มันคืออะไรกัน หรือว่าทำมาจากทองแดงจริงๆ?”

“หากทำจากทองแดงจริง เจอพละกำลังของดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ไปก็คงจะพ่ายแพ้ราบคาบไปแล้ว!”

เสือติดปีก[1] หมายถึง เพิ่มพละกำลังและความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด