หลังจากได้ยินคำแนะนำจากเฉินเอ้อร์กั่ว เหลิ่งหยุนถอนหายใจคราหนึ่งและเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นเดียวกับราชาวัว เป็นเด็กที่มีชีวิตขื่นขม”
“ช่างเถอะ หินที่แตกไปนั้นไม่ต้องชดใช้แล้วล่ะ”
“งูเขียวหางไหม้ แกไปเรียกใครสักคนให้จัดการเตรียมห้องพักให้แก่เขา”
“เอ้อร์กั่ว นี่ก็ดึกแล้ว คุณก็พักอยู่กับฉันที่นี่เถอะ”
จากร่างกายของเหลิ่งหยุน เขามองเห็นถึงแสงอันรุ่งโรจน์แห่งความรักของแม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเหลิ่งหยุนกล่าวอย่างอ่อนโยนเช่นนี้ เหมือนว่าเฉินเอ้อร์กั่วกำลังหลับฝันอย่างไรอย่างนั้น
เดิมทีเขาแทบรอไม่ไหวที่จะไปสนุกสนานที่สถานเริงรมย์ ทว่าตอนนี้เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ในทันใด
เป็นเสมือนกับคนเสเพลกลับใจอย่างไรอย่างนั้น อยากสัมผัสความอบอุ่นของบ้าน
แต่ทว่า สถานการณ์เช่นนี้ก็คงมีเพียงแค่หนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น
วันถัดมา เมื่อเวลาพลบค่ำ หัวใจที่ปั่นป่วนของเฉินเอ้อร์กั่วนั้นไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เขาไม่กล้าที่จะบอกลาเหลิ่งหยุน เกรงว่าจะทำร้ายหัวใจของเหลิ่งหยุน หลังจากลำบากใจอยู่เนิ่นนาน จากนั้นก็เอ่ยด้วยคำพูดถากถาง “น้องหยุน แกว่าสถานการณ์เช่นนี้พี่ใหญ่ของพวกเราเป็นคนริเริ่ม มีคนมากมายเข้ามา ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ปรากฏตัว”
“เขานั้นไม่ปรากฏตัวก็ช่างเถอะ ฉันในฐานะสมาชิกของวิหารเทพ ในวลานี้ ควรจะออกหน้าในฐานะของผู้นำเสียหน่อยดีหรือไม่”
“ไม่ให้แขกเหล่านั้นกล่าวว่าพวกเราเป็นคนไร้มารยาท”
เหลิ่งหยุน “คุณจะทำอย่างไร?”
เฉินเอ้อร์กั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันต้องการจะออกหน้าลงมือด้วยตัวเอง ในนามของวิหารเทพ ต้อนรับผู้ที่มีอำนาจเหล่านั้นเสียหน่อย”
เหลิ่งหยุนพยักหน้า “ฉันคิดว่ามันสมเหตุสมผล”
“ที่นี่ไม่ไกลจากสถานณ์เริงรมย์ ฉันคิดว่ายึดครองถนนเส้นนั้นทั้งสายและเชื้อเชิญเหล่าผู้มีอำนาจเหล่านั้นมาสร้างความสุขสำราญด้วยกันยังดีเสียกว่า”
เฉินเอ้อร์กั่วปรบมืออย่างตื่นเต้น “ศิษย์น้อง แกก็คิดเช่นนี้ใช่ไหม?”
“คิดเหมือนกับฉันเลย!”
เหลิ่งหยุนจ้องมองเฉินเอ้อร์กั่วด้วยสายตาเย้ยหยัน
จากนั้นเฉินเอ้อร์กั่วพบว่าตนเองนั้นหลงกลอุบายเข้าเสียแล้ว เดิมทีเหลิ่งหยุนเล่นไปตามน้ำกับคำพูดของเขา
“เอ่อคือ ศิษย์น้อง แกฟังฉัน----”
“ไป ไสหัวไป ไป!”
“คุณคิดว่าฉันอยากจะให้คุณอยู่ที่นี่ต่องั้นสิ? ไปใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาของคุณเถอะไป!”
เฉินเอ้อร์กั่วยิ้มและเอ่ย “งั้นฉันไม่เกรงใจแล้ว”
“ศิษย์น้อง แกอาจจะยุ่ง เมื่อถึงวันที่พี่ใหญ่กำหนดไว้ ฉันจะพาผู้มีอำนาจเหล่านั้นไปร่วมตัวกันที่เชิงเขาโทยามะด้วยตัวเอง”
“เมื่อถึงเวลาคนของเทพลักซ่อนไม่สามารถส่งพี่ใหญ่มาได้ ฮึฮึ ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด”
“เฮยเจี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”
เฉินเอ้อร์กั่วมาในครั้งนี้ เขาไม่ได้พาลูกน้องใต้บัญชาการมาด้วย มีเฮยเจี่ยเทพที่ร้ายกาจติดตามมาด้วย เขานั้นรู้สึกว่าตนนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมากแล้ว
จนกระทั่งตอนนี้ องค์กรใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันที่เมืองโทยามะ และมีจำนวนไม่ต่ำกว่า50องค์กร
คนที่มานั้น นอกจากเสาหลักแล้วยังมีเหล่าพี่น้อง จำนวนผู้คนก็คงเกินกว่าสี่ร้อยคนแล้ว
พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ราชาเทพที่เป็นเจ้าภาพนั้นก็ยังไม่ปรากฏตัว แม้แต่ข่าวคราวเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่มี
ชายเหล่านี้ ไหนเล่าจะอารมณ์ดีเช่นนั้น? เห็นแก่หน้าของวิหารเทพจึงไม่กล้าก่อเรื่อง ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่เฝ้าคอยข่าวคราวอย่างเงียบๆในช่วงหลายวันมานี้
ตอนนี้ คนมากมายต่างก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว
ถ้าหากยังไร้ซึ่งข่าวคราวอีก เช่นนั้นก็คงจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วและจะเริ่มทำตามใจตนเองแล้ว
นับว่ายังโชคดี ในตอนนี้มีข่าวที่น่าเชื่อถือได้ปรากฏขึ้น
หนึ่งในสิบสองราชาแห่งวิหารเทพ ราชาหมาผู้โด่งดัง เฉินเอ้อร์กั่ว ได้มายังมูแลงรูจสถานเริงรมย์
ในบรรดาสิบสองราชา ราชาหมานับได้ว่าค่อนข้างมีชื่อเสียง โดยปกติแล้วแวดวงเพื่อนนั้นกว้างขวาง
หลายคนที่มาที่นี่ มีคนมากมายที่เป็นพี่น้องคอยกินและดื่มกับเฉินเอ้อร์กั่ว
เรื่องเหล่านี้ละทิ้งไม่เอ่ยถึง ทีมโล่ฟ้าที่ควบคุมโดยเฉินเอ้อร์กั่ว เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก บอดี้การ์ดภายในสังกัดผ่านการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ มีจำนวนไม่ต่ำกว่าสามพันคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...