ด้วยสถานะของเขาเอง เมื่อเซียวยางมาถึงที่นี่แล้ว เขาเลยเปลี่ยนเป็นคนที่ดูเคร่งขรึมขึ้นมาเองอย่างผิดปกติ
ราวกับสาวกที่เดินทางมาถึงสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในใจอย่างไรอย่างนั้น
ฉินเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะเรียกว่า ถ้ำมังกร เพราะดูภายนอกแล้วก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากฟาร์มทั่วไปเลยสักนิด
เขาพยักหน้าและเดินตามหลังเซียวยางไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป
ที่ประตูลานหน้าบ้าน มองจากระยะไกลก็เห็นได้ว่า มีรูปร่างสีแดงสง่าอยู่ร่างหนึ่ง
เซียวยางพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นั้นคือ จูจู!”
“จูจูของพวกเรากำลังรอต้อนรับพวกเราอยู่ ไม่ใช่สิ ต้อนรับราชาฉินต่างหากหล่ะ”
“ราชาฉิน จูจูเป็นผู้มีสถานะพิเศษ เธอเป็นคนแรกที่เขาออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยนะ”
เมื่อเห็นท่าทีประจบสอพลอของเซียวยางแล้ว ฉินเทียนก็แสดงอารมณ์ไม่พอใจและตอบอย่างเย็นชาว่า “กูไม่สน!”
เซียวยางเบ้ปากแต่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พูดด้วยความกังวลว่า “จูจูยังพอคุยง่าย แต่อีกสักพักเธอจะได้เจอกับ เฒ่าหัวมังกร ราชาฉิน เธอต้องระวังคำพูดหน่อยนะ ”
“อภัยให้ฉันด้วยที่ต้องพูดตรงๆ หากล่วงเกินท่านอาวุโสแล้วหล่ะก็ ทั่วทั้งอาณาจักรมังกร ก็ไม่มีใครช่วยเธอได้จริงๆ นะ”
“แม้ว่าวิหารเทพจะเก่งกาจ แต่กำลังหลักๆ ก็อยู่ที่ต่างประเทศกันไม่ใช่หรือ?”
ฉินเทียนรู้ว่าเซียวยางมีเจตนาที่ดี สีหน้าของเขาก็มีท่าทีที่ดีขึ้นเล็กน้อย เขาตอบกลับไปอย่างเคร่งขรึมว่า “ขอบคุณมากที่เตือน ฉันรู้ว่าควรทำอะไร”
“จูจู คุณฉิน มาถึงแล้ว!’
ในไม่ช้า ก็เดินมาถึงประตูลานกว้าง ท่าทีของเซียวยาง เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและแสดงความคำนับด้วยความเคารพกับจูจู
ราวกับกินน้ำผึ้งมายังไงยังงั้น ยิ้มทีหน้าตาเบ่งบานราวกับดอกไม้สด
“เธอทำได้ดีมาก ไปทำธุระของเธอต่อเถอะ ฉันจะดูแลคุณฉินต่อเอง”
เขาเดินยิ้มหวานเข้ามาและยื่นมือไปดึงฉินเทียนอย่างไม่คาดคิด
ฉินเทียนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างมีสติ และถามด้วยความระวังตัวว่า “จะทำอะไรหน่ะ?”
เมื่อนึกถึงตอนที่จี้ซิงแต่งงานก่อนหน้านี้ เขาถูกผู้หญิงคนนี้กดลงบนเตียง และใช้มีดคมๆ จอไปที่คอ แม้เหตุการณ์นั้นผ่านมาแล้วแต่ในใจเขายังรู้สึกหวาดผวาอยู่เลย
ผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ เมื่อไรก็ตามยิ่งยิ้มสดใส นั้นยิ่งอันตราย
จูจู ถ่มน้ำลายหนึ่งครั้ง จ้องมองไปที่เขา และพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “ซื่อบื้ออย่างเธอ คิดว่าฉันจะเอาเธอลงได้อีกหรือ?”
“สร้างความวุ่นวายที่ญี่ปุ่น ผู้นำวิหารเทพที่จัดการเทพลักซ่อนจนไม่กล้าเงยหัวขึ้นมาไปไหนซะแล้วหล่ะ?”
ฉินเทียนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็พูดด้วยความฉุนเฉียวอีกว่า “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ และตามฉันมาเร็วๆ!”
“คุณปู่รอเธอมานานแล้ว”
พูดพลางและไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้อธิบาย จากนั้นเขาก็โอบแขนของฉินเทียน ทำท่าทีราวกับว่าสนิทสนมกันมาก ทั้งดึงและลาก สักพักก็พาตัวฉินเทียนเดินออกไปได้
เมื่อเห็นฉากนี้ เซียวยางเองก็อดตกตะลึงจนตาค้างไม่ได้
นี่คือจูจูคนเดิมหรือเปล่า?
เมื่อเห็นท่าทีของฉินเทียนแล้ว เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายดังเฮือกๆ
ในลานกว้าง มีต้นพุทธาอันเก่าแก่อยู่สองต้น
ใต้ต้นพุทธา มีแท่นหินอยู่ชุดหนึ่ง ด้านบนวางชุดน้ำชาที่น่าจะแกะสลักจากไม้พุทธาวางอยู่หนึ่งชุด
งานแกะสลักไม่ถือว่าประณีตละเอียดมากนัก และวัสดุก็ไม่ได้เป็นของมีราคาสูง
แต่ไม่รู้ว่าทำไม แค่มองแวบแรกก็ทำให้รู้สึกถึงความสบายใจขึ้นมา
อาจเป็นเพราะชายชราที่นั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ ก็เป็นได้
อายุอานามของเขาน่าจะไล่เลี่ยกับเถ้าแก่ใหญ่ของวิหารพญายม แต่ผมอันขาวโพลนและหนวดเคราที่เป็นระเบียบเรียบร้อย เลยดูแล้วน่าจะเป็นคนที่เป็นมิตรและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย
เห็นได้ชัดว่า ผู้นี้คือคนที่มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรมังกร ลูกพี่ของมังกรซ่อนรูป เฒ่าหัวมังกรนั่นเอง
ฉินเทียนคาดไม่ถึงว่า เขาจะดูเป็นคนธรรมดาถึงเพียงนี้ ดูแล้วก็ไม่ต่างจากชายชราที่อยู่ข้างถนนทั่วๆ ไปเลย
“คุณปู่ ขุนนางใหญ่มาถึงแล้ว!”
“ท่านบอกฉันหน่อยสิว่าคนที่ฉันเลือก เจ๋งไหม?” จูจูโอบแขนของฉินเทียน ราวกับเป็นสมบัติของตน และพาเขาไปอยู่ตรงหน้าของท่านอาวุโส
ชายชราจิบชา ยิ้มตาหยีและมองมาทางฉินเทียน
เขายกเปลือกตาขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ จนทำให้ฉินเทียนรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที เขารู้สึกว่าในสายตาของชายชราคู่นั้น มีคลื่นไฟฟ้าสองเส้นพุ่งตรงมาที่เขา
แต่ด้วยความโกรธที่อยู่ในใจ ใบหน้าอันบูดบึ้งของเขา ไม่เพียงจะไม่หลบสายตา แต่ยังจ้องตาสู้กับ เฒ่าหัวมังกร อีกด้วย
เฒ่าหัวมังกร หัวเราะเสียงดังจนเปลือกตาขยับ ลำแสงในตาคู่นั้นก็หายไป ดูเหมือนว่าชายชราที่นั่งพูดคุยจิบชาคนนั้นได้กลับมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...