ที่แท้ หลังจากที่เหลิ่งหยุนเดินทางไปทางเหนือตามที่อยู่ที่หวังเหล่าหู่ ได้ให้มาแล้วนั้น เธอก็หาผู้หญิงคนนั้นเจออย่างราบรื่น
หลังจากแสดงเจตจำนงที่มาในครั้งนี้อย่างชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็ดูราบรื่นอย่างน่าประหลาดใจ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆและดูมีเหตุมีผลเป็นอย่างมาก แถมยังบอกอีกว่าหวังเหล่าหู่ควรจะปล่อยหลักฐานนี้ไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เพื่อลดกรรมชั่วของเขาให้เบาบางลง
เเธอยังปฏิเสธการแก้แค้นอันดุเดือดที่เหลิ่งหยุนเสนอให้ พร้อมกับมอบหลักฐานให้กับเหลิ่งหยุนโดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน
เหลิ่งหยุนดีใจมาก และรีบส่งข้อความแจ้งข่าวดีให้กับฉินเทียนทันที
จากนั้น ก็เตรียมตัวที่จะเดินทางกลับ
คิดไม่ถึงว่า ตอนไปทานข้าวที่ร้านอาหาร แกถูกทายาทเศรษฐีท้องถิ่นพบเข้า ทายาทเศรษฐีคนนั้นตะลึงในความงามของเธอ เลยเข้ามาพูดจาแทะโลม
เหลิ่งหยุนไม่เคยเห็นคนพันธุ์นี้อยู่ในสายตา ตอนแรกขี้เกียจที่จะเสวนากันด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าชายผู้นี้เห็นว่าเหลิ่งหยุนเป็นผู้หญิงบอบบางคงจะหวาดกลัว
ด้วยตัณหาราคะของเขา ถึงขนาดกล้ายื่นมือไปดึงตัวเหลิ่งหยุน
เหลิ่งหยุนกรอกตามองบน และเอามือของเขากดลงไปบนโต๊ะนั้น และใช้ตะเกียบสเตนเลส ตอกลงไปอีกหนึ่งที
ทายาทเศรษฐีคนนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ร้องโวยวายจนน่าตกใจ และรีบโทรศัพท์เรียกคนของเขาให้มาทันที
เหลิ่งหยุนไม่ได้ใส่ใจอะไร ค่อยๆ ทานอาหารต่อไปจนเสร็จ และก็เดินออกไปอย่างใจเย็น
ตอนที่เดินไปถึงลานจอดรถ เธอก็ถูกบอดี้การ์ดที่ทายาทเศรษฐีเรียกมานั้นจับตัวไว้ บอดี้การ์ดเหล่านี้แม้ว่าจะโหดร้าย แต่ในสายตาของเหลิ่งหยุนแล้ว พวกเขาก็เป็นเพียงแค่ขยะ
เธอคิดอยากจะฆ่าพวกเขา เลยจงใจล่อพวกเขาไปยังสถานที่เปลี่ยวๆ ในซอยตันแห่งหนึ่ง
ตอนที่เธอกำลังลงมืออย่างโหดร้ายและกำลังจะลงมือฆ่าพวกเขาอยู่นั้น บอดี้การ์ดที่ถูกแกทุบตีก็พาลโกรธขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็หยิบเข็มฉีดยาออกมาและต่างคนก็จิ้มเข็มนั้นลงไปที่แขนของตัวเอง
ตอนแรกเหลิ่งหยุนคิดว่าพวกเขาคงกำลังฉีดยาแก้ปวดกันอยู่ เขายังคิดว่ามันน่าตลกไปเลยด้วยซ้ำ
ใครจะรู้ว่า ในไม่ช้าเธอจะได้พบกับฉากอันน่าสะพรึงกลัว
หลังจากที่บอดี้การ์ดฉีดยาเข้าไปแล้ว เส้นเลือดของพวกเขาก็ปูดขึ้น แววตาทั้งคู่กลายเป็นสีแดงเลือด ราวกับปีศาจร้ายเข้าสิงอย่างไรอย่างนั้น ไม่เพียงแต่พละกำลังและความเร็วที่เพิ่มเป็นทวีคูณ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้จักความเจ็บปวดใดๆ อีกต่อไป
เหลิ่งหยุนคนเดียวต้องเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจชั่วร้ายที่แปลงกายนับสิบคน เธอต้องต่อสู้ด้วยความยากลำบาก แม้ว่าสุดท้ายพวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่าตาย แต่เธอเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน
และระหว่างการต่อสู้ตะลุมบอนอยู่นั้น มือถือของเธอก็หล่นลง
เธอรู้ดีถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ แต่เธอแทบจะไม่สนใจอะไรเลย เธอกัดฟันเดินทางอย่างไม่คิดถึงชีวิต จนในที่สุดก็นำหลักฐานกลับมาได้ในวินาทีสุดท้าย
หลังจากฟังเธอพูดจนจบ บรรยากาศในห้องก็ดูเคร่งขรึมขึ้นมา
“ยานั่นอีกแล้วหรือ!”
ฉินชวนกัดฟันและพูดว่า “ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ สิ่งที่พวกเขากับหยางต้าวใช้ น่าจะเป็นของชนิดเดียวกัน”
“ท่านอาจารย์ ฉันจำได้ว่า เมื่อก่อนลุงฉันเหมือนจะเคยพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับยาพวกนี้มาก่อน”
“เธอรู้ไหมว่ามันคืออะไรกันแน่?”
เฟ่ยเทียนอิงก็เคร่งขรึมไปอย่างผิดปกติ ตอนที่เขากำลังเกือบจะชนะหยางต้าว จู่ๆ ก็ถูกหยางต้าวที่ฉีดยาเข้าร่างกายแล้ว ใช้ฝ่ามือจู่โจมจนเขากระอักเลือดออกมา ดังนั้นเขาเลยมีความทรงจำกับยาชนิดนี้เป็นพิเศษ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขากัดฟันและพูดว่า “ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดไว้ หมาป่าหอนที่เงียบหายไปนานเกือบยี่สิบปี บัดนี้คงกลับคืนเข้าสู่ยุทธจักรแล้ว”
“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ทางตอนเหนือ แต่ฟังจากที่คุณเหลิ่งบรรยายแล้ว ที่นั่น ยาชนิดนี้ดูเหมือนจะมีกันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว”
“แส้มังกร ฉันคิดว่าจำเป็นที่จะต้องติดต่อกับทางมังกรซ่อนรูปตอนเหนือ ให้พวกเขาช่วยทำการตรวจสอบสักหน่อยแล้วหล่ะ”
ฉินเทียนพยักหน้าและพูดเบาๆ ว่า “เรื่องนี้ ถ้ามันจำเป็นแล้วล่ะก็ ฉันจะจัดการมันในไม่ช้า”
“ตอนนี้ แกบอกฉันที หมาป่าหอนถูกบันทึกอยู่ในคดีของจินหู่เมื่อยี่สิบปีก่อนนี้ด้วยใช่ไหม?”
“ตอนนี้ บอกฉันได้แล้วหรือยังว่าแฟ้มคดีนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่?”
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในคุกใต้ดิน เฟ่ยเทียนอิงเคยบอกว่า หากฉินเทียนช่วยพวกเขาออกมาได้จริงๆ เขาจะยอมมอบแฟ้มคดีนั้นให้กับเขาด้วยความจริงใจ
หลังจากที่ออกจากคุก เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลหู หลายวันมานี้เลยมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องภายในของมังกรซ่อนรูป รวมทั้งเรื่องการจับกุมหยางต้าวและคนอื่นๆ ดังนั้นช่วงนี้เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...