หยางหลิวยิ้มพลางเอ่ย “ราชาถงจิ่ง อย่าได้รีบร้อนไปเลย”
“ทำไมฉันถึงเห็นว่าคุณนั้นดูประหม่านัก?”
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเรามาคุยกัน จากที่ฉันรู้มา คุณน่ะเพื่อตระกูลฉินแล้วตลอดทั้งชีวิตนี้ยังไม่เคยแต่งงานเลยใช่หรือไม่?”
“ไอหยา เอ่ยถึงเรื่องนี้ตระกูลของพวกเราต้องขออภัยต่อคุณด้วย”
“แต่ทว่าตอนนี้ก็ยังไม่สายไปหรอกนะ ฉันคิดว่าร่างกายของคุณนั้นยังคงแข็งแรงมาก คุณคิดว่ายายแม่มดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันคิดว่าพวกคุณทั้งสองนั้นเหมาะสมกันมาก ไม่อย่างนั้น----”
ใบหน้าชราของถงจิ่งแดงก่ำ เอ่ยเสียงดังด้วยความตื่นตระหนก “คุณหญิง อย่าได้ล้อเล่นกันเลย!”
“ฉันขอตัวก่อน!”
ขณะที่พูด เขานั้นไม่ได้สนใจแล้วว่าหยางหลิวจะฝากสิ่งของอะไร เขารีบจากไปราวกับกำลังหลบหนี
ไหนเล่าจะเป็นการช่วยเหลือ เห็นได้ชัดว่านี่คือการสอดส่องสถานการณ์ของเขา หลังจากที่ครุ่นคิดว่าในอนาคตจะต้องมียายแก่คอยอยู่เคียงข้าง ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีหน้าสะอิดสะเอียด
เมื่อเห็นราชาถงจิ่งที่มียศถาบรรดาศักดิ์และขึ้นชื่อเรื่องความสุขุมรอบคอบวิ่งหนีจากไปเช่นนั้น ใบหน้าของหยางหลิวพลันปรากฏรอยยิ้ม
“ยายแม่มด คู่หูที่ฉันหามาให้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
ยายแม่มดเอ่ยอย่างไร้ยางอาย “อันที่จริงเมื่อมองดูแล้วก็ยังแข็งแรง ไม่รู้ว่าจะทนต่อการกระทำซ้ำไปซ้ำมาได้หรือไม่”
“คุณหญิงไม่รู้อะไร ในตอนที่ฉันยังเป็นหญิงสาววัยละอ่อน ทักษะเอวของฉันนั้นน่าทึ่งมาก”
“ถุย!” หยางหลิวพลันนึกถึงบางสิ่ง ฉับพลันใบหน้าแดงก่ำหัวใจเต้นระนัว เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “แก่แล้วหน้าไม่อาย พูดสองประโยคก็แสดงท่าทีฮึกเหิมเสียแล้ว”
“คุณออกไปเสียเถอะ ฉันจะสวดมนต์”
ยายแม่มดยิ้มร้ายกาจ คุณหญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ทว่าคนประเภทนี้นั้นมักจะปฏิบัติตัวเป็นอย่างดี
อีกทั้งยังมีพื้นฐานที่ไม่เลว ดังนั้นเมื่อมองดูแล้วดูเหมือนหญิงสาวในวัยสามสิบต้นๆ
มีเสน่ห์และสามารถทำให้ผู้คนหลงใหล สังหารหญิงสาวผู้คนอื่นได้ภายในไม่กี่วินาที
คนเช่นนี้จะไม่มีความต้องการบางอย่างได้อย่างไร?
ยายแม่มดในฐานะแม่นมคอยรับใช้ข้างกาย ในช่วงกลางดึกหลายคืนมักจะได้ยินเสียงที่ผู้คนบางส่วนนั้นไม่รู้จักดังขึ้น
เสียงนั้นคือความปรารถนาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณหญิง เพียงแค่คุณบอก ฉันจะนำนายท่านกลับมาด้วยกำลัง!”
“เป็นคู่สามีภรรยาที่ดีไม่ได้ กลับไปเป็นนักบวช!”
“ตราบใดที่คุณออกคำสั่ง ฉันจะไปจับตัวเขากลับมาในทันที!”
ความไม่พอใจปรากฏขึ้นในดวงตาของหยางหลิว
“จับตัวเขากลับมาได้ แต่ไม่อาจนำหัวใจของเขากลับมาได้”
“เป็นนักบวชอะไรกัน ฉันว่าการที่เขาหลบซ่อนเช่นนี้ นั่นก็เพราะคิดถึงอดีตภรรยา!”
“เขาแต่งงานกับฉันในขณะที่อดีตภรรยาของเขากำลังป่วย เรื่องนี้จะต้องเป็นปมที่อยู่ภายในหัวใจของเขาและไม่อาจแก้ปมนี้ได้ไปตลอดชีวิต!”
“ฉินฉี พวกคุณสองแม่ลูกต้อนรับฉันเข้ามาภายในตระกูล ยืมอำนาจของตระกูลของฉันเพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ตระกูลตนเอง ตอนนี้เมื่อใช้ประโยชน์เสร็จก็ทิ้งไป!”
“คุณคอยดู!”
“ฉันไม่มีทางวางมือจากเรื่องนี้แน่!”
“รอให้ฉันสังหารเมล็ดพันธ์ที่ผู้หญิงคนนั้นได้ให้กำเนิดแก่คุณก่อนเถอะ คอยดูว่าคุณจะยังนิ่งเฉยได้อีกหรือไม่!”
ต่อหน้าพระพุทธรูปที่น่าเกรงขาม ใบหน้าของเธอนั้นพลันร้ายกาจขึ้นทันที เมื่อมองดูแล้วเป็นเสมือนอสูรร้ายที่ต้องการหลุดพ้นจากพันธนาการของพระพุทธเจ้า
ถงจิ่งออกจากจวนฉิน เขาเดินทางออกจากเมืองด้วยความเรียบง่าย เดินทางไปยังสถานที่ห่างไกลนั้นด้วยความรวดเร็ว
ท่ามกลางวิหารของศาสนาเต๋ามีต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน มีลานกว้าง สายลมพัดผ่านอย่างเอื่อยเฉื่อย ทำให้ความต้องการทางโลกนั้นบรรเทาและจางหายไป
จากระยะไกลมีเสียงพิณดังขึ้น
ถงจิ่งเดินตามเสียงพิณ เมื่อเดินเข้ามาภายใน พลันมองเห็นป่าสน ชายในชุดลิทธิเต๋ากำลังนั่งดีดพิณ
ด้านข้าง เด็กชายของลัทธิเต๋าสองคนกำลังยืนเฝ้าอยู่ คนหนึ่งถือดาบ อีกคนหนึ่งถือผงธุลี
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่สง่างามและไม่แยแสของชายที่กำลังดีดพิณ ถงจิ่งขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
บางครั้งเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมฉินฉี ในฐานะลูกชายคนโตของนายหญิงใหญ่ อีกทั้งในนามของเจ้าบ้านตระกูลฉิน
ตราบใดที่เขาเต็มใจ เขาสามารถกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งแห่งซีเป่ยได้
แต่เขากลับเพิกเฉยและไม่ใยดี ไม่คิดวิวาททางโลก ยินดีทอดทิ้งภรรยาและอนุภรรยามาใช้ชีวิตทนทุกข์ต่อความอ้างว้างที่วิหารลัทธิเต๋าแห่งนี้
ถงจิ่งลอบทอดถอนหายใจ ภายในหัวใจบอกว่าตนเองนั้นใช้สกุลอื่น แต่วันนี้อายุเจ็ดสิบปีแล้วก็ยังคงทำงานให้กับตระกูลฉินของพวกนาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...