บัญชามังกรเดือด นิยาย บท 773

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉินเทียนนั้น ยู่หลิงหลงก็รีบพูดขึ้นมาว่า "สบายใจได้ ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนายอานกั๋วหรอก"

"ตอนที่ฉันกำลังจะมา ได้ลองติดต่อเขาไปแล้วว่าให้มาด้วยกัน ทว่าอานกั๋วกลับบอกว่าเขาต้องไปเยี่ยมคนหนึ่งก่อนอาจใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าจะมาถึง"

"หากไม่มีเหตุฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เขาก็น่าจะมาถึงแล้วล่ะ "

ทันทีที่พูดจบ พลันมีเสียงหัวเราะดังมาจากนอกประตูในทันที "คนแก่เช่นข้ามาสายแล้ว ทำให้ทุกคนรอนานแล้ว!"

“ท่านผู้นำและทุก ๆ คน ได้โปรดอย่าถือสา”

นายท่านอานกั๊วพลันเดินเข้ามาพร้อมกับราชาบู๊หูปิน

นายท่านอานกั๊วพลางแย้มยิ้มพูดออกมา "ทายซิ ว่าข้าไปหาใครมา?"

หัวใจของฉินเทียนพลันตื่นเต้นไปเล็กน้อย "จุยเฟิง?"

เมื่อเห็นท่านอานกั๊วพยักหน้าลงนั้น ฉินเทียนก็เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้นขึ้นมาในทันทีว่า "ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?"

"เขาสบายดีไหม?"

ในตอนที่เจ็ดเมืองทางตอนใต้กำลังแย่งชิงอำนาจกันนั้นสิงห์ร้ายเช่นลิเหลียงพลันพลิกเมฆพลิกฝน ตั้งใจต่อกรกับฉินเทียน ทำเอาทั่วฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำอึมครึมไปมากมาย

เพื่อช่วยให้ฉินเทียนได้รับหลักฐานนั้น จุยเฟิงถึงกับยอมหักแขนของตัวเอง เพื่อหันไปเข้าร่วมกับลิเหลียงโดยสมัครใจ

จุยเฟิงผู้มีฝีมือและพรสวรรค์ด้านมีดนั้น ทั้งวิชาเพลงดาบมีดเขาล้วนแต่มีทักษะการใช้มีดขั้นสูง ทั้งยังเป็นนักดาบหนุ่มที่มีความสามารถมากที่สุดและยังหนึ่งในยุทธภพของอาณาจักรมังกรอีกด้วย

อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีอะไรหยุดยั้งความสามารถของเขาได้อีก

หลังแขนเขาหักแล้วนั้น เขาก็แทบจะประกาศยุติวิชาบู๊ลง

ด้วยเหตุนี้ฉินเทียนจึงได้ก่นด่ากล่าวโทษตัวเองอยู่เสมอ พร้อมกับจงใจขึ้นไปยังสมรภูมิรบในแดนเหนือ เพื่อตามเคล็ดวิชาเพลงดาบและมีดต่างๆ จากเถ้าแก่ใหญ่ มันถูกทิ้งไว้โดยราชามีดที่มีชื่อเสียงมาจากเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

ราชาดาบผู้นั้น ก็ยังมีแขนข้างเดียวกับเขาเช่นกัน

ในวันแต่งงานของจี้ซิงนั้น ฉินเทียนได้มอบคู่มือเคล็ดวิชาเพลงดาบและมีดนั้นให้กับจุยเฟิง หลังจากที่จุยเฟิงอ่านจบ ไปแล้วนั้น เสมือนกับได้พบกับสมบัติล้ำค่าในทันที พลางกล่าวว่าขอเวลาเพียงหนึ่งปีเท่านั้น

หลังจากนั้นมาจุยเฟิงก็ได้หายไปจากสายลมในทันที ในตอนที่ฉินเทียนต้องไปญี่ปุ่นนั้น เมื่อเขากลับมาก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นแส้มังกรพร้อมกับขึ้นลงซีเป่ยไม่ได้หยุดได้หย่อน

ในช่วงเวลานั้น จึงมีอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ทำให้เขาลืมนึกสนใจเรื่องราวของจุยเฟิงไปเลย

นายท่านอานกั๊วแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า "อย่ากังวลไปเลย เจ้าเด็กนั่นนอกจากผิวจะดำขึ้นแล้ว ผอมลงไปนิดหน่อย แต่ส่วนอื่น ๆ ก็นับว่าดีขึ้นไม่น้อย"

"ข้าบอกมันไปแล้ว เรื่องที่ท่านผู้นำอยู่ที่ซีเป่ยเอง ข้าก็เล่าให้ฟังเช่นกัน หากท่านผู้นำเริ่มประชุดเจ็ดเมืองทางใต้ขึ้นเมื่อใด ก็ควรจะเริ่มวางแผนได้แล้ว "

"เจ้าเด็กนั่น ยังขอให้ข้าเอาของอะไรบางอย่างมาให้ท่านผู้นำด้วย หูปิน——"

"ขอรับ!" หูปินรีบก้าวขึ้นมาข้างหน้า และวางอะไรบางอย่างที่ห่อด้วยผ้าสีดำวางเอาไว้บนโต๊ะ

สิ่งนี้ดูเหมือนกับหลักไม้ก็ไม่ปาน นั่นจึงทำให้ทุกคนก็มาล้อมรอบดูอยู่รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

"นี่มันเป็นหลักไม้จริง ๆ หนิ!"

ขณะที่หูปินเปิดผ้าคลุมสีดำขึ้นทีละชั้นนั้น หลิวชิงเหยาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

ลิฉุนเองก็อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า "นี่มันคืองานฝีมืองั้นเหรอ?"

“ด้านบนมีรอยอะไรอยู่ด้วย?”

หลักไม้ที่ดูเหมือนจะเป็นแค่สิ่งของธรรมดา ทว่ากลับมีร่องรอยเล็กๆ ประดับเต็มไปหมด

เมื่อมองแวบแรกนั้นร่องรอยเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีความงดงาม แต่ทว่า เมื่อจ้องมองดูอย่างใกล้ชิดนั้น จะเห็นถึงความหมายที่ต่างออกไป

ฉินเทียนพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก พร้อมกับแสดงรอยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ

ฉินเทียนพลางมองไปที่จี้ซิง พลางแย้มยิ้มกล่าวออกมาว่า "นายเห็นถึงความลึกลับของมันไหม?"

ใบหน้าของจี้ซิงที่มีท่าทางเคร่งขรึมผิดปกติไปนั้น โดยปกติเขามักจะหัวเราะและหยอกล้อผู้อื่น เสมือนกับตัวชูโรงให้ผู้คนมีความสุขมีเพียงในตอนที่เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาของศิลปะการต่อสู้เท่านั้น ที่จะทำให้เขามีความจริงจังขึ้นมาแบบนี้ได้

ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสายบู๊เช่นกันหรอก

จี้ซิงพลันพยักหน้าลงอย่างเคร่งขรึม พร้อมกับสูดลมหายใจเต็มแรงและถอนหายใจกล่าวออกมาว่า "ถ้าฉันมองไม่ผิด รอยมีดที่หนาแน่นเหล่านี้ ก็คือการใช้มีดที่ไม่ถึงสามกระบวนท่า"

อะไรนะ ? ร่องรอยใบมีดที่มากมายเหล่านี้ คือการใช้มีดไม่ถึงสามกระบวนท่างั้นเหรอ?

นั่นไม่ได้หมายความว่า ทุกครั้งที่ฟาดฟันลงไปจะเกิดรอยมีดอย่างน้อยประมาณสิบกว่ารอยงั้นหรือ!

"เจ้าเด็กที่น่ารักของฉัน เสี่ยวเฟิงเฟิงเก่งกาจจริง ๆ!" หลังจากที่จี้ซิงถอนหายใจออกมานั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

"เขาจะออกมาจากด่านฝึกตนเมื่อไหร่กัน? ฉันอยากจะลองประลองกับเขาจะตายอยู่แล้ว!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด