ก่อนหน้านี้มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉินเปียวพาคนของเขามาที่นี่เพื่อจับคน และนำกลับไปเป็นทาสสัตว์เพื่อใช้ในการฝึกซ้อม ตอนนั้น ราชาหมาป่าหัวเสือและบรรดาหมาป่าตัวผู้ส่วนใหญ่ที่มีพละกำลังต่อสู้อย่างดุร้ายนั้นต่างไม่อยู่บ้านกัน
หลังจากการเข่นฆ่าจบลง พวกเขาก็เจอถ้ำแห่งหนึ่ง เลยเข้าไปหลบซ่อนตัวและพักผ่อนกันอยู่ในนั้น
ภายในถ้ำแห่งนั้นมีพื้นที่กว้างมาก และปากทางเข้าก็เล็กมากด้วย ต้องค่อยๆ มุดเข้าไป และปิดปากถ้ำเอาไว้ ต่อให้หมาป่ามีมากกว่านี้ ก็ไม่มีทางเข้ามาได้
ตอนนี้ ฉินเปียวตระหนักดีว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะเปิดไพ่ไม้ตายใบสุดท้ายออกมา ดังนั้น จึงทำได้แค่หลบไปชั่วคราวเท่านั้น
ไม่นานนัก พวกเขาก็หาถ้ำนั้นเจอ และรีบวิ่งหนีเข้าไปในนั้นทันที
เลี่ยวเจี๋ยและคนของเขาจำนวนหนึ่ง ทำการขนย้ายก้อนหินก้อนใหญ่มาสองก้อน เพื่อนำไปปิดปากทางเข้าถ้ำเอาไว้ได้ครึ่งหนึ่ง ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว หมาป่าที่อยู่ข้างนอกก็ไม่มีทางเข้ามาได้แน่ๆ
แม้มันคิดอยากจะมุดผ่านช่องว่างเข้ามาก็ตาม แต่ก็คงเข้าได้แค่หัวเท่านั้นแหละ
ราชาหมาป่าหัวเสือร้องโหยหวนขึ้น การต่อสู้เข่นฆ่าผ่านไปค่อนคืน ฝูงหมาป่าที่ตาแดงๆ ก็เริ่มที่จะสงบลงกันบ้างแล้ว
พวกมันนอนเรียงแถวอยู่ด้านหน้าปากถ้ำ ตราบใดที่มีคนเดินออกมาจากด้านในล่ะก็ พวกมันก็พร้อมที่จะต่อสู้อย่างดุเดือดขึ้นมาอีกครั้ง
ซู่ซู่ซู่!
ฝนยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ท่ามกลางบรรยากาศบริเวณนั้น มีกลิ่นคาวเลือดตลบอบอวลคละคลุ้งไปกับฝุ่นดิน เมื่อผ่านไปสักพัก มันก็จางลง และแทนที่ด้วยความบริสุทธิ์
หมาป่าพวกนั้นนอนหมอบอยู่บนพื้น ปล่อยให้น้ำฝนเทรดตัว ราวกับรูปปั้นหินแกะสลักที่คอยปกป้องคุ้มครองสถานที่อย่างไรอย่างนั้นเลย
“คุณชาย กินอะไรสักหน่อยเถอะ”
“รอฟ้าสาง!”
“หลังจากฟ้าสางแล้ว หมาป่าเหล่านี้ก็จะสูญเสียพละกำลังการต่อสู้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราค่อยหาโอกาสหนีออกไป”
“ไม่แน่ว่า ถึงตอนนั้น หลิวเหมิงกับหม่าเมี้ยนอาจจะนำกำลังเสริมมาช่วยแล้วก็ได้” เลี่ยวเจี๋ยหยิบอาหารแห้งและน้ำออกมา
ฉินเปียวไม่ได้รับไว้ สีหน้าของเขาดูซีดขาวและดูอ่อนเพลีย แต่แววตาทั้งคู่ที่มองออกไปท่ามกลางความมืดนั้น กลับมีประกายแห่งความดุร้ายปรากฏขึ้น
“เยี่ยม!”
“ช่างยอดเยี่ยมเสียจริง!”
“คิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะประเมินค่าพี่ชายคนนี้ของฉันต่ำเกินไป!”
“แบบนี้สิมันถึงจะสนุก!” มุมปากของเขา เผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา
หลังจากพูดจบ เขาไม่เพียงไม่รีบร้อนกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้านั้น ตรงกันข้ามเขากลับมีท่ามีผ่อนคลายเสียด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปราวกับสายน้ำไหล ช่วงเวลากลางคืนผ่านพ้นไป และในที่สุดรุ่งเช้าก็มาถึง
หมาป่าที่เฝ้าอยู่ด้านนอก ในที่สุดก็มีท่าทีเหนื่อยและอิดโรย และบางตัวหลับตานอนไปแล้วก็มี
ไม่รู้ว่าเป็นการหลับจริงๆ หรือว่าแค่งีบไปเท่านั้น
“คุณชาย ตอนนี้ว่าเป็นไง?”
“พวกเรากัดฟันฮึดวิ่งออกไปกันเถอะ!” เลี่ยวเจี๋ยแนะนำเบาๆ
ฉินเปียวไม่ได้มองอย่างเต็มตา เขาพูดเพียงเบาๆ ว่า “ฝูงหมาป่าจงใจจะแสดงความอ่อนแอให้พวกเราเห็น ถ้าพวกเราออกไปตอนนี้ พวกเราจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้อันโหดเหี้ยมของพวกมันมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
“รอไปก่อน!”
“ครับ!” เลี่ยวเจี๋ยไม่กล้าพูดอะไรต่อ และพักผ่อนต่อไปพร้อมกับสมาชิกในทีม
จนกระทั่งช่วงเวลาพลบค่ำ ในที่สุดก็มีเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกตกใจดังขึ้นบริเวณด้านนอกหุบเขา
“คุณชาย พวกคุณอยู่ข้างในใช่ไหม?”
“พวกเรามาแล้ว!”
“คุณชาย!”
ทุกคนต่างพากันตกใจ
“หลิวเหมิงกับหม่าเมี้ยน!”
“พวกเขามาเป็นกำลังเสริมให้พวกเราแล้ว!”
“คุณชาย ตอนนี้พวกเราทั้งด้านนอกด้านในกำลังตีขนาบประสานกันอยู่ ต้องซัดฝูงหมาป่าพวกนี้ได้อย่างสิ้นซากแน่นอน!”
ตอนนี้ฉินเปียวถึงได้ลืมตาขึ้นด้วยสีหน้าอันไร้ความรู้สึก เขากวาดตามองไปรอบๆ อย่างช้าๆ และพูดว่า “เอาสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ โยนออกไปข้างนอกซะ”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินคำสั่งนี้แล้ว บรรดาผู้คนทั้งหลายต่างพากันตกใจกันยกใหญ่
“คุณชาย แต่พวกเขาล้วนแต่____” เลี่ยวเจี๋ยรีบร้อนจะอธิบาย แต่เมื่อหันไปเห็นแววตาอันเย็นชาอย่างไม่แยแสของฉินเปียวแล้ว เขาก็อ้าปากค้าง และพูดอะไรไม่ออกอีกเลย
“พวกเขาล้วนแต่อะไร?”
ฉินเปียวตอบอย่างเย็นชาว่า “ปกติฉันสอนพวกนายไว้ว่ายังไงกันบ้าง?”
“พวกนายคิดยังไงกับหมาป่าข้างนอกพวกนั้น พวกมันไม่ได้ออกล่าสัตว์ตั้งนานขนาดนี้ แต่ทำไมถึงยังมีเรี่ยวแรงอยู่อีกหล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...