เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อบ้านอะฝู หยางซงทั้งดีใจและตื่นเต้นมาก
นี่คือเส้นทางของบุคคลที่มีครอบครัวตระกูลที่ร่ำรวยสินะ!
ภายด้านใน มีข้อห้าม หากเอ่ยผิดไป อาจจะทำให้เกิดภัยได้ นี่มันเหมือนกับเหตุผลที่ว่าจะโดนฆ่าตอนไหนก็ได้นะเนี่ย
ทันใด หยางซงแอบหวาดกลัวอยู่พักหนึ่ง อยากที่จะเดินหนีไป
ชีวิตที่เขามีดีมากพอแล้ว เกิดมาเป็นลูกเศรษฐี กินดื่มไม่ต้องกังวล มีสาวสวยอยู่ข้างกายมากมาย ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
แต่ว่า คนต่างก็โลภ หากไม่ระวัง ก็อาจจะกลายเป็นภัยร้ายต่อตนเอง จะโดนฆ่าตอนไหนก็ไม่รู้
เพียงแค่อยากที่จะทำให้พระองค์มีความสุข ดังผลประโยชน์ต่างๆ ก็ไม่อาจจะที่จะนึกถึงได้เลย
แค่คำพูดของพระองค์ ก็สามารถทำให้โชคชะตาทั้งตระกูลทั้งรุ่งโรจน์ขึ้น ตั้งแต่นี้เหมือนได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาชีวิตเลย
เขากัดฟัน ก่อนที่จะเดิมพันสักรอบ เขาแอบวิตก และเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังตามอะฝู แล้วเดินเข้าไปยังในห้อง
ภายในห้อง บนโต๊ะที่รับประทานอาหารได้มีอาหารขนาดใหญ่มากมายวางอยู่บนโต๊ะ และถ้วยชามสีชาม อีกทั้งอาหารเลิศรสมากมาย
มีอาหารอร่อยมากขนาดนี้ ที่ด้านข้างมีเพียง“คุณชายหลง”คนเดียวที่กำลังทานอาหารอยู่
ภายในระยะเวลาสั้น เขาได้ถอดชุดสูทสีขาวออกจนหมดแล้ว ก่อนที่จะได้เปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีม่วงแทน
ในยามว่างๆ ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความมีศักดิ์ศรีที่ร่ำรวยอีกต่างหาก
นี่คือสิ่งที่ที่หยางซงอิจฉามากที่สุด เขาปกติที่ชอบซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม เพื่อที่จะมาปกคลุมร่างกายตนเองให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
แต่ว่าก็ยังรู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรอยู่
แต่ในทางกลับกันคุณชายหลงที่อยู่ด้านหน้า เสื้อผ้าที่ไม่ได้มีฉลากอะไร หรือว่าโลโก้แบรนด์เนมใดๆ
เพราะตัวตนของคนมีสถานะ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แบรนด์เนมเพื่อมาสร้างเอกลักษณ์ให้ตนเอง แต่ในทางตรงกับพวกเขาจะใช้รสนิยม เพราะแบรนด์เนมจะลดรสนิยมของพวกเขาลงแทน
หยางซงอดคิดไม่ได้เลยว่า คงจะมีแค่คนแบบเขานี่แหละ ที่จะใส่แบรนด์เนม โดนเฉพาะแบรนด์โลโก้ ใหญ่ๆที่ได้แปะไว้บนตัว นี่มันช่างไร้รสนิยมสะจริงๆ!
ถึงแม้ว่าคุณชายหลงจะทานอาหารแค่คนเดียว แต่ว่าภายในห้องมีคนยืนอยู่ประมาณสิบกว่าคน
นอกเหนือจากบอดี้การ์ดทั้งสองคนแล้ว ยังมีพวกแม่ครัวสาวที่คอยแนะนำอาหารอย่างเสียงเบาๆ ที่ได้ถืออุปกรณ์ทานอาหารสแตนเลส แล้วคอยคีบอาหารให้กับคุณชายหลง
รวมถึงพวกผ้าคนหนู น้ำยาบ้วนปาก ไวน์แดง และซิการ์ด้วย
และขบวนการเช่นนี้เอง ที่ทำให้หยางซงรู้ว่า นี่สินะถึงจะเรียกว่าผู้ดีคนรวย
คุณชายหลงทีท่าทีที่สุภาพที่เป็นแบบของบรรพบุรุษของชนชั้นสูง เขาหัวเราะแล้วเอ่ยกับหยางซง“สวัสดี”
“ทานอาหารหรือยังล่ะ?”
“หากยังไม่ได้ทานล่ะก็ มานั่งลงทานอาหารด้วยกันสิ”
หยางซงถึงแม้ว่าเขาจะชอบประจบเอาใจ แต่ว่าเขาจะกล้าไปนั่งทานอาหารกับ คุณชายหลงได้ยังไง อีกทั้งยังรีบก้มพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณชายหลง ผมทานอาหารแล้วครับ”
“ท่านค่อยๆทานเถอะ มีเรื่องอะไรล่ะก็ เรียกผมได้ตลอดเวลาเลยครับ”
เมื่อเอ่ยแล้ว เขาก็รู้ตัวดี ก่อนที่จะไปยืนทางด้านฝั่งของคนรับใช้ๆ
“งั้นก็ได้”คุณชายหลงเลยตอบไป ก่อนที่จะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วไม่ได้หันไปมองที่หยางซงอีก ก่อนที่จะตั้งใจทานอาหารต่อไป
เขาหรี่ตา ก่อนที่จะยิ้มแล้วฟังที่แม่ครัวตักอาหารและแนะนำอาหารให้ตนเอง เมื่อได้เจออันที่ตนเองสนใจ ก่อนที่จะใช้ตะเกียบชี้ๆไป
ส่วนสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านข้างๆ ก็รีบเข้ามายังอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆเอาที่คีบสแตนเลส มาวางไว้อยู่ที่หน้าจานของคุณชายหลง
คุณชายหลงทานไปหนึ่งคำ ก่อนที่จะเช็ดปาก แล้วกินไวน์คำไปหนึ่งคำ
การทานอาหารที่ประณีตเช่นนี้ ผ่านไปทั้งหมดหนึ่งชั่วโมงกว่า และไม่มีใครพูดคุยกันในระยะเวลานี้
ไม่ง่ายเลย ที่คุณชายหลงในที่สุดจะพอใจก่อนที่จะถอนหายใจ แล้วหันมาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาหารมื้อนี้ทานไปไม่น้อยเลย ก็ตามนี้แล้วกันนะ”
“พ่อบ้าน มาจัดการของพวกนี้เถอะ อาหารตั้งเยอะ ไม่อยากให้เสียมันไปเปล่าๆ”
“ยกออกไป เอาไปให้ทุกคนทานกันเถอะ”
พ่อบ้านรีบเอ่ยตอบ“ขอบคุณอาหารของคุณชายมากครับ”
ก่อนที่จะสะบัดมือ แล้วได้มีพ่อบ้านที่ได้ถูกฝึกมาแต่ละคน ต่างก็ได้รีบยกจานอาหารเลิศรสบนโต๊ะออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในห้อง ตอนนี้เหลือแค่ คุณชายหลง พ่อบ้าน อีกทั้งบอดี้การ์ดที่กระตือรือร้นทั้งสองคน คุณชายหลงได้สูบซิการ์เข้าไปหนึ่งที ก่อนที่ในที่สุดสายตาจะหันไปมองที่หยางซง
หยางซงแอบตัวสั้น ก่อนที่จะรีบเอ่ย “ตามสบายเลยครับคุณชาย!”
คุณชายหลงยิ้มๆแล้วเอ่ย“รอบนี้ผมได้ออกจากเมืองหลวงอย่างลับๆ เพราะตัวตนที่ค่อนข้างจะพิเศษ เลยยากที่จะหลบจากสายตาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...