สรุปตอน บทที่ 878 ล่าสมบัติวิญญาณวานร – จากเรื่อง บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน
ตอน บทที่ 878 ล่าสมบัติวิญญาณวานร ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง บัญชามังกรเดือด โดยนักเขียน สวรรค์ไร้เทียมทาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา ฉินเทียนเริ่มทำการรักษาซูซูตามสูตรยาที่พ่อได้ให้เขามา
หลังขากได้รู้เรื่องจริงของร่างกายตัวเองแล้ว ซูซูก็เปลี่ยนไปสงบนิ่งมากกว่าปกติ เธอให้ความร่วมมือในการรักษาเป็นอย่างดี แม้แต่ยาที่ขม เธอก็สามารถดื่มจนหมดได้ในรวดเดียว
พลังแห่งความดื้นรั้นนั้นแผ่ออกมาท่ามกลางความเงียบสงบ และมันก็ทำให้ฉินเทียนได้รู้อีกครั้งว่าผู้หญิงตอนเป็นสาวจะอ่อนแอ พอเป็นแม่เธอจะแข็งแกร่งดังเหล็กกล้าคืออะไร
เขาคอยปรนนิบัติอย่างระมัดระวัง และสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขนั้นก็คือ ไม่คาดคิดว่าสูตรยานี้มันจะเห็นผลจริง ๆ
หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ใบหน้าของซูซูก็มีเลือดฝาดเพิ่มขึ้นมามาก
มีบ้างครั้ง แม้แต่จะอยู่คนเดียว ก็ไปเดินเล่นที่สวนได้โดยไม่ต้องใช้คนคอยประคอง
ฉินเทียนทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจมากจริง ๆ
และในวินาทีนี้ เขาก็รู้สึกตื่นตันใจเป็นอย่างมาก
ตื่นตันใจกับสิ่งที่ฉินฉีมอบให้กับเขา
ทำให้เขามีแม้กระทั่งความคิดที่กล้าหาญอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ หลังจากที่รอให้ซูซูคลอดลูกออกมาแล้ว เขาจะไปรับฉินฉีให้มาอยู่ด้วยกัน
เขาเชื่อว่าในฐานะคุณปู่ ก็จะต้องเป็นปู่ที่คอยดูแลหลายอย่างเต็มใจแน่นอน
และนั่นก็คือความสุขของครอบครัวที่แท้จริง
เขาได้เอาข่าวดีนี้แจ้งกับฉินฉีผ่านทางโทรศัพท์ น้ำเสียงของฉินฉีนั้นสงบนิ่งมาก และเขายังเตือนฉินเทียนอีกว่า ให้คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่สักระยะหนึ่ง
เห็ดหลินจือที่เขานำมาด้วยเมื่อครั้งที่แล้วเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่เห็ดหลินจือที่หาซื้อได้ตามตลอดทั่วไป
และสิ่งที่สำคัญ ก็คือมันเป็นของหายากที่อายุสามสิบปีขึ้นไป สิ่งของเหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยที่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในมือของผู้มีอำนาจบางคนเท่านั้น อีกทั้งยังถือเป็นสมบัติล้ำค่าอีกด้วย
เขาสามารถที่จะหาได้มากมายขนาดนั้นเพียงครั้งเดียว นั่นก็สามารถมองออกได้ว่า นายท่านของตระกูลฉินผู้ที่มีพลังอำนาจมากแค่ไหน
สำหรับทรัพยากรเห็ดหลินจือเหล่านี้ ฉินเทียนไม่ได้มีความกังวลมากเท่าไรนัก ตราบใดที่มันอยู่บนโลกใบนี้ เขาก็สามารถที่จะเอามาให้ได้
อย่างมากก็แค่ ใช้คนทั้งวิหารเทพก็ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อฉินฉีเต็มใจที่จะออกแรงแล้ว เขาจึงยินดีที่จะให้โอกาสนี้แก่อีกฝ่าย และถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากของเขาอย่างหนึ่ง ทำให้รู้สึกเหมือนได้รับการดูแล
หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็เกิดสิ่งที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง
หลังจากบำรุงเป็นเวลาหนึ่งเดือน ก็เห็นได้ชัดว่าเสีหน้าของซูซูดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่กลับเริ่มรู้สึกวิงเวียนและอ่อนแรงอีกครั้ง
ฉินเทียนรับรู้ได้อย่างสิ้นหวังว่า ร่างการของซูซู มีภูมิต้านทางต่อเห็ดหลินจือนี้แล้ว
ซึ่งก็เหมือนกับตอนกินยา เมื่อกินติตด่อกันเป็นจำนวนมา ร่างกายก็จะมีการต่อต้าน และไม่ดูดซับสั่งเหล่านั้นอีกแล้ว
ฉินเทียนลนลานขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง และโทรไปหาฉินฉีอีกครั้ง จากนั้นก็ทวงถามว่าได้ค้นคว้าวิธีการใหม่กับท่านนักบวชได้แล้วหรือไม่
ฉินฉีเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝืนยิ้มแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเทียน มันยังมีอยู่อีกวิธรหนึ่ง แต่ว่าก็แทบจะไม่ค่อยมีความแตกต่างเลย”
“เนื่องจากว่าตามที่ท่านนักบวชรู้มา ว่าสิ่งของนั้น จะพบเจอได้ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
“และบางที บนโลกใบนี้อาจจะไม่มีของสิ่งนั้นอยู่ก็เป็นได้”
“มันคืออะไร รีบพูดมาเถอะ!”ฉินเทียนถามอย่างร้อนรน
เขาตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าสิ่งของนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ตราบใดที่สามารถช่วยซูซูได้ เขาจะต้องเซาะหามันออกมาให้ได้อย่างแน่นอน
"ยังคงเป็นเห็ดหลินจือ เพียงแต่ว่าเป็นเห็ดหลินจือเลือดที่มีคุณภาพสูงกว่ามาก"
"ไม่ใช่เห็ดหลินจือเลือดหรอกอย่างนั้นหรือ? ผมรู้จักของสิ่งนะเน ผมจะให้คนไม่ซื้อมา!"
"เสี่ยวเทียน ลูกฟังพ่อนะ หากเป็นเห็ดหลินจือเลือดธรรมดาตอนนี้มันไม่มีประโยชน์กับซูซูอีกแล้ว ถ้าอยากจะช่วยเธอ ตอนนี้มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ เห็ดหลินจือเลือดร้อยปี"
"จะต้องเกินหนึ่งร้อยปีขึ้นไป หรืออายุยิ่งมากยิ่งดี ตามที่ท่านักบัวชอายุยืนกล่าว ในหนึ่งร้อยปี มีโอกาสเพียงแค่ร้อยละยี่สิบเท่านั้น"
"และทุก ๆ ร้อยปีเพิ่มขึ้นอีก จึงเป็นโอกาสเพิ่มอีกร้อยละยี่สิบในทุกร้อยปี"
"หากต้องการรักษาซูซูให้ได้ร้อยเปอร์เซ็น ก็จำเป็นจะต้องใช้เห็ดหลินจือเลือดห้าร้อยปี"
"เทียนเอ้อร์ ตระกูลฉินของพวกเราถือได้ว่ามีฝีมือและความสามารถ เพียงแต่ว่าหลินจือเลือดอายุห้าร้อยปีเหล่านี้ จะไปหาที่ไหนได้กันล่ะ?"
“กลัวก็เพียงแต่ว่าเดิมทีแล้วจะไม่มีของชนิดนึ่อยู่บนโลกใบนี้”
ฉินเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกัดฟันกล่าวว่า “ผมจะไปหาเอง!”
ฉินฉีกล่าวว่า “ตกลง”
"ท่านพ่อก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน พ่อจะคิดหาทางให้ได้ และขอร้องให้ท่านนักบวชอายุยืนลงจากเขา เขามีประสบการณ์มากมาย บางทีอาจจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง"
"ตามการคาดดารณ์ของพ่อ ตอนนี้ซูซูยังสามารถที่จะยืนหยัดได้อีกหนึ่งเดือน หรืออีกนัยหนึ่ง ลูกมีเวลาหนึ่งเดือน เพื่อที่จะหาเห็ดหลินจือเลือดที่อายุร้ายปีขึ้นไป"
“เสี่ยวเทียน ลูกจะต้องเตรียมใจไว้ให้ดี”
“หลังจากนี้หนึ่งเดือน หากว่ายังไม่มีเห็ดหลินจือเลือด ถึงเวลานั้นก็ต้องเลือกจะเก็บผู้ใหญ่หรือเก้บเด็ก…โธ่เอ้น ลูกตัดสินใจเองเถอะ”
ดวงตาทั้งคู่ของฉินเทียนแดงก่ำ และได้แต่ร้องตะโกนอยู่ภายในใจ!
"เนื่องจากข้อห้ามบางประการ เราจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก ปัจจุบันนี้ในมือ มีอายุแปดสิบปีเพียงอันเดียวเท่านั้น"
"ผมจะรีบให้คนไปส่งของสิ่งนี้ให้เร็วที่สุด และส่งของชิ้นเดียวนี้ไปถึงมือของท่านราชาเทพ หวังว่าจะบรรเทาความจำเป็นในยามเร่งด่วนได้"
“ในส่วนเรื่องในลำดับต่อไป หากให้พูดก็จะยาวมาก เมื่อถึงเวลา ท่านเทพราชาสามารถถามคนของผมได้”
“หากมีเรื่องที่จำเป็นแล้วละก็ ผมสามารถออกไปจากเขาด้วยตัวเอง เพื่อไปรับใช้ท่านเทพราชา”
ฉินเทียนกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก”
"ที่ตลอดมาผมไม่ได้ติดต่อคุณไป เพราะรู้ดีว่า ราชาวานรอย่างท่านมักจะยุ่งจนตัวเป็นเกลียว"
“ให้คนของท่านมา แล้วบอกว่าผมควรจะทำอย่างไร ต่อไปผมจะไปหาเอง!”
“ตกลงครับ!”
"ลูกน้องของผมจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านราชาเทพทุกเมื่อ"จากนั้นราชาวานรก็วางสายไป
ฉินเทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดหมายเลขลับอีกเบอร์หนึ่ง
“คุณยาย——”
ทันทีที่เขาอ้าปาก เสียชราเสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากในโทรศัพท์
“เทพราชาโทรศัพท์ไปหาสำนักวานรแล้วใช่ไหม? ฉันรู้ว่าควรจะทำอย่างไร”
"ไก่ขันทิศตะวันออก ร้อยผีจำนน หากต้องการที่จะค้นหาเห็ดหลินจือเลือดร้อยปี หากสำนักวานรต้องการสำนักระการ่วมมือด้วย"
"ฉันจะส่งลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งไปให้แล้วกัน อย่างช้าที่สุด ก็ค่ำวันนี้ และให้เขาไปรายงานตัวก่อน"
“ขอบคุณมากครับคุณยาย!”
นอกจากฉินเทียนจะรู้สึกขอบคุณแล้ว ในที่สุดภายในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหลายส่วน
ส่วนราชาสวรรค์ที่เหลือเหล่านั้น อย่างเช่นราชาหมา ราชากระต่าย ราชาหนู และราชาอื่นๆ ต่างก็อยู่ที่ต่างประเทศทั้งนั้น ฉินเทียนส่งข้อความไปให้พวกเขาช่วยค้นหาในขอบเขตอำนาจของตัวเอง เพื่อที่จะลองด้วยอีกทาง
หากกำลังมองหสขุมทรัพย์อย่างเห็ดหลินจือเลือดอายุร้อยปีจริงๆ ก็จะต้องไปยังดินแดนลึกลับทางตะวันออก
และสำนักวานรกับสำนักระกา ก็อาศัยอยู่บนดินแดนตะวันออกนี้เช่นกัน อีกทั้งยังมีสำนักลึกลับที่สืบทอดกันมา ที่ซึ่งหายากในปัจจุบันอีกด้วย
ครั้งนี้ เขาไม่เสียดายเลยที่จะส่งคนของสำนักวานรและสำนักระกาออกไป และไม่เชื่อว่า จะหาเห็ดหลินจือเลือดนี้ไม่เจอ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...