และตัวตนที่เป็นถึงคนสมาชิกของอาณาจักรมังกร และเผ่ามังกรซ่อนรูปทั้งห้าหัวหน้า
และทั้งห้าหัวหน้า แต่ละคนนั้นก็มีความสามารถในการควบคุมแต่ละด้าน และก็ต่างก็เป็นชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ยิ่งภายในเผ่ามังกรซ่อนรูปแล้วนั้น พวกเขานั้นได้รับความเคารพจากสถานที่นั้น
แล้วทั้งห้าหัวหน้านี้ไม่ต้องเอ่ยเลย ซีจุนจินหู่ ในตอนนี้เป็นซีจุนฉินชวน
หนานจุนจูจู
เป่ยจุนเฮยสุ่ย
จงจุนหวงซาง
รวมถึงตงจุนมู่หลง
และทางแดนตะวันออกทางตอนฝั่งทะเล ที่ได้ถูกมู่หลงนั้นจัดการคอยดูแล
ที่สำคัญเลยก็คือ พวกเขานั้นได้เดินทางไปยังทางด้านภูเขา พร้อมกับคอยชมวิวทิวทัศน์ของทะเลที่สวยงาม
ในขณะนี้ ที่ด้านภูเขาด้านบนนั้น ที่ด้านหลังของภูเขา ที่มีหน้าผาที่สูงชันนั้น ได้มีตึกอาคารอยู่หลังหนึ่ง
และมีนามว่า หอทิงเฉา
ที่ด้านในอาคารนั้น เมื่อเปิดหน้าต่างออก และด้านหน้านั้นที่ได้หันได้กับด้านทะเลอันกว้างใหญ่
และด้านล่างของหน้าต่างนั้น ได้มีโต๊ะน้ำชาอยู่โต๊ะหนึ่ง ได้มีคนแกผอมและคนแก่อ้วนนั้นนั่งอยู่สองคน
ส่วนคนอ้วนนั้นผิวพรรณสีขาวสะอาด มองไปแล้วยิ้มตาหยี๋ และให้ความรู้สึกถึงความเมตตา
ส่วนคนผอมนั้นมีผิวพรรณค่อนข้างดำ แต่ว่าสตินั้นดีมาก ถึงแม้ว่าผมนั้นจะมีสีขาวอยู่บ้าง แต่ว่ายังมีความสามารถในการทำงานอยู่ และพุ่งเข้ามาด้านนี้
ที่บนโต๊ะน้ำชานั้น ได้วางกาต้มชาอู่หลงเอาไว้
ทั้งสองคนนั้นนั่งดื่มน้ำชา และไม่ได้เอ่ยอะไร
คลื่นลมทะเลที่นอกหน้าต่างนั้น ที่กระทบกับก้อนหิน และคลื่นที่สวยงามขนาดใหญ่ แต่ว่า ก็ไม่สามารถที่จะมากระทบทำอะไรได้กับใบหน้าที่แน่นิ่งของทั้งสองคนได้
นั่นก็คือคนที่หากไม่ได้ฝึกวิทยายุทธมาหลายสิบปี จะไม่สามารถที่จะบรรลุได้อย่างแน่นอน
ทั้งสองคนนั้นมองไปแล้วเหมือนนั่งดื่มชาอย่างสบายใจ และผ่านไม่ไปนาน คนที่ผอมดำเหมือนกับกระบอกปืนนั้นในที่สุดก็เอ่ยปาก และถามไปอย่างไม่ได้ใส่ใจมาก “พี่ชายเฮยสุ่ยของเจ้า ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก ได้มาที่นี่แล้ว”
“คงจะไม่ใช่เพราะมาดื่มชาปกติหรอกใช่ไหม”
ส่วนคนแก่ที่อ้วนขาวนั้น นั้นกลับเป็นคนของมังกรซ่อนรูปทางเหนือ คือเฮยสุ่ย
เมื่อได้ยินดังนั้น เขานั้นหัวเราะเสียงดัง แล้วดื่มลิ้มรสชา แล้วเอ่ย “แล้วทำไมจะไม่ใช่ล่ะ”
“ใบชาสีใสที่เก็บก่อนที่เทศกาลเช่งเม้ง เพียงแค่ว่ามีเจ้ามู่หลงอยู่ที่นี่ ถึงจะสามารถได้ดื่มชาดั้งเดิม”
“เห้ย ไม่แปลกใจเลยที่จะเป็นคนรวย ที่ทางฝั่งตงไห่ ที่ได้เกิดมาจากสถานที่แห่งนี้ที่สวยงามและมีลูกค้า และก็มีแต่ที่นี่ ถึงจะสามารถหาใบชาดีๆได้”
“ไม่เหมือนทางตอนแดนเหนือ ลมอากาศที่หนาวเย็นยะเยือก แม้แต่นกยังไม่อยากจะขี้”
ส่วนชายหนุ่มที่มีผิวดำ เขานั้นก็คือหัวหน้ามังกรซ่อนรูปตะวันออกนามว่ามู่หลง
เมื่อได้ยินเสียงของเฮยสุ่ย มู่หลงนั้นยิ้มอย่างไม่มีเสียง “พี่ชายชอบดื่ม กลับไปแล้วผมนั้นจะหาคนมาช่วยห่อไปให้สักไม่กี่กรัมนะ”
“งั้นก็ขอบคุณน้องชายมากๆนะ!”
เฮยสุ่ยนั้นยกแก้วน้ำชาขึ้นมา ก่อนที่จะค่อยๆเป่า แล้วถามอย่างสบายใจ “น้องชายมู่หลง นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กลับไปรายงานที่ฐานทัพใหญ่?”
มู่หลงเอ่ยอย่างเบาๆ “ก็พักหนึ่งแล้วล่ะ จำได้ว่ารอบก่อนที่เข้าไปรายงานนั้น ตอนนั้นยังอยู่ในตอนที่เลือกตั้งหาผู้นำอยู่เลย”
เฮยสุ่ยพยักหน้า “ในรอบนั้น ท่านหัวหน้านั้นในรอบก่อนนั้น ได้เตะพวกผู้อาวุโสออกตั้งหลายคนที่ไม่ยอมเชื่อฟัง แล้วเอาคนสนิทสำรองนั้นเข้าไปในงานสมาคมผู้อาวุโส”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้งั้น ก็สามารถที่จะควบคุมสมาคมผู้อาวุโสได้แล้ว แล้วรีบจัดการเคลื่อนไหววางหมากตัวสำคัญ”
มู่หลงขมวดคิ้ว ก่อนที่จะเอ่ยอย่างไม่พอใจ“ไม่ใช่ว่าข้าเอ่ยแล้ว ที่การจัดการหลายปีมานี้ ก็ยังมีความรู้สึกหดหู่ใจอยู่บ้าง”
“เขานั้นจะปล่อยให้พวกสมาคมอาวุโสนั้นก่อเรื่องแบบนี้หรอ?”
เมื่อเอ่ยแล้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไม่ค่อยถูก แล้วมองไปที่เฮยสุ่ย และเอ่ยอย่าง “เป็นเพราะข้านั้นเอ่ยผิดไปแล้วล่ะ”
“ข้าลืมไปแล้ว ว่าพี่ชายเฮยสุ่ย นั้นก็คือคนของสมาคมผู้อาวุโส ตอนแรกนั้นคือผู้อาวุโสใหญ่นั้นได้ส่งเจ้านั้นไปอยู่ที่ตำแหน่งเป่ยจุน”
เฮยสุ่ยนั้นยิ้มอย่างเยือกเย็น แล้วเอ่ย “ต่างก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยนั้นแหละ เพียงแต่จะเอ่ยหากว่าข้านั้นคือคนของสมาคมผู้อาวุโส นั้นจะค่อนข้างที่จะเกินจริงไปหน่อย”
“อ้าย ที่ยุทธภพ ก็ไม่เพียงเป็นแค่สถานที่ต่อสู้ แต่ยังมีพวกความแค้นความสัมพันธ์อีก บางครั้งถึงตัวจะอยู่ที่ยุทธภพ แต่ทุกคนนั้นก็มิอาจจะช่วยเหลือตัวเองได้”
“แต่ว่ายังไงข้านั้นก็ยังชื่นชมในน้องชายมู่หลงนะ หลายปีมานี้ที่พยายามทำตัวดีมาตลอด ไม่เลือกข้าง เลือกพวก และซื่อสัตย์มาก”
“น้องชายมู่หลง หากในอนาคตสมาคมผู้อาวุโสและอานกั๋วนั้นสู้กัน ข้าอยากจะรู้ว่า เจ้านั้นจะเลือกสนับสนุนใคร?”
สีหน้าของมู่หลงนั้น เปลี่ยนเป็นสงสัยหนักกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...