ฉินเทียนยืดตัวตรงทันทีมองขนตาที่กระพือขยับเล็กน้อยของเธออย่างตื่นเต้น
ขนตายาวงอนหนาราวกับปีกผีเสื้อที่กำลังกางออกแล้วค่อยๆขยับขึ้นมา
หนึ่งที สองที สามที
ในที่สุดซูซูก็ลืมตาอย่างสดใส!
เธอมองฉินเทียนและหยางยู่หลันที่เฝ้าอยู่ข้างกายตัวเองแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข "ฉินเทียน แม่คะ ทำไมถึงจ้องมองหนูอย่างนั้นล่ะคะ?"
"หนูมีอะไรแปลกไปรึเปล่า? หรือว่าหน้าสกปรก?"
หยางยู่หลันกุมมือซูซูแน่แล้วถามซ้ำๆว่า "ลูกบอกแม่มาว่าตอนนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนอยู่รึเปล่า?"
"อย่ากลัวว่าพวกเราจะเป็นห่วง พูดมาตามตรง ถ้าสบายดีก็บอกสบายดี ไม่สบายก็บอกไม่สบาย"
ฉินเทียนพยักหน้าตาม "ใช่ แม้ว่าผมจะแน่ใจว่าเห็ดหลินจือแดงและโสมแดงจะสามารถรักษาคุณได้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ถูกตัดออก ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น"
ซูซูส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "หนูรู้สึกว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง เป็นพลังที่ไหลมาไม่สิ้นสุด จนทำให้หนูรู้สึกกระทั่งอยากจะวิ่งอย่างใจร้อน!"
พูดจบเธอก็ลองลุกขึ้นนั่ง
หยางยู่หลันรีบเข้าไปพยุงแต่ก็ช้าไปครึ่งก้าว ซูซูลุกขึ้นนั่งอย่างคล่องแคล่ว
ฉินเทียนเข้าไปทันที จับข้อมือเรียวนุ่มของเธอ แล้วจับชีพจรอย่างละเอียด
ชีพจรเต้นพลุ่งพล่าน สภาพของชีพจรสงบและราบรื่น นี่หมายถึงหายสนิทแล้ว!
ฉินเทียนมีความสุขมากๆ "ซูซู เชื่อผม คุณหายดีแล้ว!"
"ตั้งแต่วันนี้ไป เด็กเหลือขอคนนี้ก็จะทรมานคุณอีกไม่ได้แล้ว!"
"คุณพูดแบบนี้อีกแล้ว" ซูซูไม่คล้อยตาม ยื่นมือไปบิดฉินเทียนหนึ่งที "ไม่อนุญาตให้เรียกลูกฉันแบบนั้นอีก เธอคือนางฟ้าตัวน้อยของฉัน! เจ้าหญิงตัวน้อยผู้น่ารัก!"
"ได้ๆๆ ไม่พูด ไม่พูด" ฉินเทียนคล้อยตามอย่างเชื่อฟัง ในใจยังคงตัดสินใจอย่างลับๆว่า ไว้ค่อยคุยกันเรื่องของเจ้าหญิงตัวน้อยทีหลัง
เมื่อเห็นว่าในที่สุดลูกสาวของเธอหายดีแล้ว หยางยู่หลันก็มีความสุขอย่างเปี่ยมล้น ใบหน้าเธอยิ้มบานราวกับดอกไม้ "เยี่ยมไปเลย อกสั่นขวัญแขวนกันอยู่ตั้งนานในที่สุดลูกก็หายดีเป็นปกติแล้ว"
"ใช่ค่ะ พี่ซูซู ช่วงนี้แม่แกกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย เพราะกลัวว่าพี่จะไม่สบาย ตอนนี้พี่หายดีแล้ว ในที่สุดแม่ก็จะได้นอนหลับได้อย่างสบายใจสักที"
ทันทีที่หม่าเซวี่ยพูดจบ หยางยู่หลันดีดหน้าผากเธออย่างเอ็นดู "มีแต่เราที่พูดมากเสียจริง ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอกนะ!"
หลังจากถูกดีดหน้าผาก หม่าเซวี่ยก็รีบกุมหัวร้องขอความเมตตา "พอแล้วๆ โอเค เสี่ยวเซวี่ยไม่กล้าพูดมากแล้ว พี่ซูซูช่วยฉันด้วย!"
"55" ซูซูรู้สึกขำกับการกระทำแบบเด็กๆของหม่าเซวี่ย เธอยื่นมือดึงเธอมากอดแล้วมองไปที่แม่ของตน "แม่คะ หนูทำให้แม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว"
"พูดอะไรโง่ๆ ลูกเป็นลูกสาวแม่ แม่ไม่ห่วงเราแล้วใครมีสิทธิ์ห่วงเราล่ะ!" หยางยู่หลันยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม กอดซูซูและหม่าเซวี่ยไว้ในอ้อมแขน "ลูกทั้งสองต่างเป็นลูกของแม่ มีเพียงพวกลูกใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเท่านั้น แม่ถึงจะใช้ชีวิตยามแก่อย่างสงบสุขได้"
"สัญญากับแม่ว่าจะจัดการชีวิตตัวเองให้ดี ให้แม่มีความสุขไปพร้อมกับลูก"
"ค่ะแม่!" ซูซูและหม่าเซวี่ยพยักหน้าเป็นสัญญาลับ
ภาพฉากที่รักใคร่กลมเกลียวกันทำให้อารมณ์ของฉินเทียนสดใสขึ้นตามไปด้วย
เขาโบกมืออย่างองอาจ "คืนนี้ผมจะจัดงานเลี้ยงแขกอย่างยิ่งใหญ่เพื่อฉลองที่ภรรยาผมหายดีแล้ว!"
ซูซูกลอกตาใส่เขา "ไม่ต้องเว่อร์ขนาดนั้นได้ไหม ฉันแค่ท้องแล้วรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยเท่านั้นเอง"
แม้ว่าจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจซูซูก็รู้ดีว่าตัวเองโชคดีที่รอดชีวิตมาได้
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเห็ดหลินจือแดงอายุพันปีและโสมอะไรนั่นจากตระกูลฉิน เกรงว่าเธอคงโดนเด็กในท้องสูบพลังชีวิตไปหมดแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่กลัวตาย แต่ว่าใครบ้างล่ะที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ เลี้ยงเลือดเนื้อเชื้อไขที่คลอดมาจากร่างกายตนด้วยมือตัวเองให้โตขึ้น?
ดังนั้นเธอจึงเพียงกลอกตาใส่ฉินเทียน แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาจัดงานเลี้ยงใหญ่
คืนนั้นงานเลี้ยงอันโอ่อ่าใหญ่โตถูกจัดขึ้นในพื้นที่ของอุทยานมังกรซึ่งกินพื้นที่หลายร้อยหมู่ มีแขกมาร่วมงานไม่ขาดสาย
ผู้ที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำสามารถพาใครก็ได้มาอีกหนึ่งคน คนที่มาไม่ใช่มหาเศรษฐีของท้องถิ่นก็เป็นผู้มีอำนาจในตำแหน่งระดับสูงๆ
มีอานกั๋วแห่งหนานเจียง หลินหลงผู้บังคับบัญชาเป่ยเจียง จ้าวเทียนเผิงแห่งเมืองหยุนชวน รวมทั้งจี้ซิงและหลิวชิงเหยาแห่งเมืองซื่อไห่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...