“วันนี้พี่เวินหนี่ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี เธอไม่อยากเอาเอกสารมาส่ง ฉันเลยต้องเอามาส่งน่ะค่ะ” ลู่ม่านเซิงวางมือที่โดนลวกตรงหน้าเขา “พี่หนานโจว อย่าโทษพี่เวินหนี่เลยนะคะ ฉันว่าเธอคงไม่ได้ตั้งใจ หวังว่าคงจะไม่ได้ทำให้งานของพี่ล่าช้าหรอกใช่ไหมคะ”
เอกสารของบริษัทไปอยู่ในมือของคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เวินหนี่ทำอะไรแบบนี้
สีหน้าของเย่หนานโจวมืดมน แต่เขาก็ยังคงอดทนเมื่ออยู่ต่อหน้าลู่ม่านเซิง เขาเพียงแค่ดึงเนกไทแล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง “ไม่เป็นไร”
เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดขึ้นว่า “ไหน ๆ ก็มาแล้ว นั่งพักก่อนสิ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นลู่ม่านเซิงก็รู้สึกมีความสุขในใจ อย่างน้อยเขาก็ยอมรับเธอ และไม่ได้เกลียดเธอ
“พี่มีประชุมไม่ใช่เหรอคะ ฉันรบกวนพี่หรือเปล่า”
เย่หนานโจวโทรออกหาใครบางคน “เลื่อนการประชุมออกไปครึ่งชั่วโมง”
มุมปากของลู่ม่านเซิงโค้งงอขึ้น ก่อนจะมาที่นี่เธอกำลังคิดว่า การที่เธอจากไปโดยไม่บอกลาจะทำให้เขารู้สึกโกรธหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้แย่เหมือนที่คิดเอาไว้
เวลาที่เสียไปยังชดเชยกลับคืนมาได้
ลู่ม่านเซิงนั่งลงบนโซฟาอย่างคาดหวัง และอยากจะอธิบาย “พี่หนานโจว ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ตั้งหลายเรื่อง ตอนนั้นเป็นความผิดของฉันเองที่จากไปโดยไม่ได้บอกลา แต่ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว…”
“ฉันขอจัดการงานก่อน” เย่หนานโจวขัดจังหวะเธอ
ลู่ม่านเซิงกลืนคำพูดกลับลงไปอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาดูยุ่งมากจึงได้แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันรอจนกว่าพี่จะทำงานเสร็จก็ได้ค่ะ”
ลู่ม่านเซิงไม่กล้ารบกวนเขา และก็ไม่รู้ว่าภายในครึ่งชั่วโมงนี้เธอต้องนั่งรออีกนานแค่ไหนกว่าที่จะได้คุยกับเขา
เธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ออกเลย
จนกระทั่งเผยชิงเดินเข้ามา เย่หนานโจวถึงได้หยุดงานในมือ
เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา ลู่ม่านเซิงจึงตะโกนขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พี่หนานโจว ฉัน…”
“มือยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”
นี่เขาสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บที่มือของเธอและเป็นห่วงเธอใช่ไหม?
ลู่ม่านเซิงส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
“อืม” เย่หนานโจวตอบเบา ๆ และหยิบชามยามาจากมือผู้ช่วยเผยชิง “ได้ยินมาว่าเธอยังไม่ชินกับสภาพอากาศและรู้สึกเจ็บคอ กินยานี่สิ มันจะดีต่อลำคอของเธอนะ”
ลู่ม่านเซิงมองไปที่ชามยาร้อน ๆ และรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง
เขาแอบติดตามสถานการณ์ของเธอและรู้แม้กระทั่งว่าเธอเจ็บคอ แสดงให้เห็นว่าเขายังคงห่วงใยเธออยู่
เธอรีบรับชามยามา พร้อมกับเผยรอยยิ้มที่สดใสดุจดอกไม้ “พี่หนานโจว พี่ยังใส่ใจฉันเหมือนเคยเลยนะคะ แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว ฉันจะกินยาให้หมดเลยค่ะ”
ก่อนที่เธอจะนำชามยาเข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เป็นอย่างมาก
เธอไม่ชอบรสชาติของยาจีน แต่ถ้ายานี้มาจากเย่หนานโจวเธอก็จะกิน
เธอขมวดคิ้วด้วยความขมขื่นและพยายามกลืนยานั้นลงไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อเห็นเธอกินยาหมดในอึกเดียวจนไม่เหลือสักหยด เย่หนานโจวก็เบนสายตาไปทางอื่น
“ประธานเย่ การประชุมกำลังจะเริ่มแล้วครับ” ผู้ช่วยเผยชิงเตือนขึ้น
เย่หนานโจวมองไปที่ลู่ม่านเซิงแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันยังต้องทำงาน เธอกลับไปก่อนเถอะ”
ลู่ม่านเซิงเช็ดปาก เธอพูดอะไรมากไม่ได้ จึงได้แต่ตอบกลับไปอย่างเข้าใจว่า “ก็ได้ค่ะ ไว้ฉันจะมาเยี่ยมพี่ใหม่วันหลังนะคะ”
แล้วเย่หนานโจวก็เดินออกไป
ลู่ม่านเซิงมองตามแผ่นหลังของเขาอย่างอ้อยอิ่งจนกระทั่งร่างสูงลับสายตาไป
เธอมีความสุขมากและส่งข้อความถึงผู้จัดการว่า ‘กลับมาครั้งนี้ฉันพนันถูก เขายังคงรักฉันอยู่’
ข้างนอก เมื่อเดินไปถึงห้องประชุม เผยชิงก็ถามขึ้นข้างหลังเย่หนานโจว “ประธานเย่ ทำไมเราถึงต้องใส่ยาคุมกำเนิดลงในยาด้วยล่ะครับ?”
ใบหน้าของเย่หนานโจวไร้อารมณ์ และเย็นชา “ลู่ม่านเซิงไปที่โรงแรมแล้ว”
เผยชิงเข้าใจทันที เขากลัวว่าผู้หญิงคนเมื่อคืนจะเป็นลู่ม่านเซิง และกลัวว่าเธอจะท้อง
การทานยาคุมกำเนิดถึงจะรับประกันได้
หนึ่งวันเต็มที่เวินหนี่ไม่มาบริษัท แถมยังไม่โทรมาลาอีกด้วย
เดิมที เธอจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ และไม่เคยทำผิดพลาดเลยสักครั้ง
เดี๋ยวนี้เธอเริ่มเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มาทำงานแถมยังไม่บอกกล่าวสักคำ
เย่หนานโจวโกรธมาก เขามีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดทั้งวัน และไม่ยิ้มเลย สิ่งนี้ทำให้พนักงานบริษัทต่างก็กลัวว่าตัวเองจะทำอะไรผิด
หลังจากเลิกงาน เย่หนานโจวกลับมาถึงคฤหาสน์ต้นตระกูล
เวลานี้เวินหนี่ได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน