บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 170

บทที่ 170 เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใช้ไม่ถึงสามท่า

แรงมหาศาลและเสียงตะโกนดัง ชักดาบฟันลงมา พลังทิพย์พุ่งตัวออกมาจากดาบ แรงพิฆาตฟุ้งกระจาย ดาบยังไม่ทันได้ลดลงมาถึงพื้น แค่แรงจากดาบก็ได้ทิ้งร่องรอยลงบนเวทีประลองแล้ว จูนจิ่วไม่ได้หลบหลีก นางพุ่งกลับตัวเข้าหา ท่วงท่าว่องไวมากทิ้งไว้เพียงเงาร่าง

ข้างล่างเวที ผู้คนโห่ร้องซุบซิบกัน

โล่ชิวเห้อเปิดปากพูด “คนนั้นคือหลีฉีสินะ ทะลุเป้าแล้ว ตอนนี้เป็นนักจิตชั้นสามแล้ว”

“ใช่ ฝีมือดาบของหลี่ฉีเก่งกาจมาก ตอนที่ฝึกซ้อมเขาเองก็ติดอันดับหนึ่งในสิบ ทว่าหากเทียบกับท่านหมอเทวดา ยังห่างไกลอีกเยอะ ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถรับมือท่านหมอเทวดาได้กี่ท่า?”

พอได้ยินตามนั้น โล่ชิวเห้อก้มหน้าลงไปดูหรูมั่น เขาหัวเราะ “เจ้าเทิดทูนจูนจิ่วมากรึ?”

“แน่นอน จูนจิ่วเป็นถึงผู้มีพระคุณของท่านปู่นะ” สายตาของหรูมั่นเพ็งมองไปที่จูนจิ่ว บนโลกใบนี้นางมีโล่ชิวเห้อเป็นญาติเพียงคนเดียว หากไม่มีจูนจิ่ว หรูมั่นไม่กล้าคิดว่าหากตัวเองต้องสูญเสียโล่ชิวเห้อไป นางจะอยู่คนเดียวอย่างไร?

ดังนั้น นางจึงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก เทิดทูนจูนจิ่วจากใจจริง ต่อให้อายุของจูนจิ่วยังสาว และเล็กกว่านางตั้งห้าปีเต็ม

น้ำเสียงหรูมั่นเทิดทูน พูดเสริมอีกว่า “อีกอย่างท่านหมอเทวดาเป็นที่หนึ่งของการฝึกซ้อม รอบนี้นางชนะแนะ น่าเสียดายที่หลี่ฉีโชคไม่ดี มิเช่นนั้นหากคู่กับคนอื่น เขาคงไม่ต้องแพ้”

แต่โชคชะตาดันควบคุมมุษย์ไว้

บนที่นั่งแขก เฟิ่งเซียวกำลังเดาว่าจูนจิ่วจะชนะหลี่ฉีด้วยกี่ท่า เสี่ยวอู่ร้องเหมียวๆโบกกรงเล็บ หลังจากเห็นว่าเฟิ่งเซียวไม่เข้าใจภาษาเหมียวๆของมัน เสี่ยวอู่ใช้น้ำชาทำให้มือของมันเปียก เขียนหมายเลขบิดๆเบี้ยวๆลงบนโต๊ะ

เฟิ่งเซียวชื่นชม “เสี่ยวอู่เจ้าเก่งมากเลย เขียนตัวหนังสือเป็นด้วย แล้วเจ้าเขียนว่าอะไร? แปดหรือว่าเก้า หรือเขียนเป็นตัวอักษร?”

“เหมียวๆๆ” ข้าเขียนว่าแปด เจ้าดูไม่ออกหรือ?

เฟิ่งเซียวดูไม่เข้าใจจริงๆ โม่อู๋เยว่ยอมเอ่ยปากพูดเป็นครั้งแรก น้ำเสียงแฝงความเอือมระอา “นี่คือแปด”

“อ้อๆ แปดนี่เอง เสี่ยวอู่เจ้าเดาว่าเสี่ยวจิ่วจะชนะด้วยแปดท่าใช่ไหม?”

“เหมียวๆ” เสี่ยวอู่พยักหน้าตอบรับ การรับมือกับคนเหล่านี้ นายท่านใช้ไม่ถึงสิบท่าหรอก

ทว่าโม่อู๋เยว่กวาดสายตามองไปที่มันหนึ่งรอบ ตอบเสียงหยิ่งๆว่า “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใช้ไม่ถึงสามท่า”

ภายในสามท่า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะสามารถจบการต่อสู้ที่รู้ผลแต่แรกนี้ได้อย่างแน่นอน ในสายตาของโม่อู๋เยว่ ท่าแรกของจูนจิ่วกับหลี่ฉีปะทะเข้าหากัน

ตูม

ดาบใหญ่ฟันลงไป พื้นเวทีประลองแตกร้าวทันที ทั้งๆที่เล็งดาบไปที่จูนจิ่ว ซึ่งจูนจิ่วเองไม่ได้หลบด้วย แต่ตอนที่ดาบใหญ่ฟันลงไป จูนจิ่วดันหายตัวไปแล้ว หลี่ฉีลืมตากว้าง หาคนไปทั่วด้วยความตกตะลึง คนล่ะ?

“อยู่ข้างบน” ไม่รู้ว่าเสียงร้องตักเตือนของใคร

หลี่ฉีเงยหน้าขึ้นเห็นเงาร่างที่ย้อนแสง หลี่ฉีลืมตากว้างด้วยความตกตะลึง สายตาหรี่เล็กลงเท่าเมล็ดถั่วเขียว เขารีบยกมือขึ้น ชักดาบพุ่งตามไป

จูนจิ่วหายตัวหลบดาบใหญ่อย่างง่ายดาย ระยะห่างระหว่างนางกับหลี่ฉีค่อยๆดึงเข้าหากัน โยวยิ่งกับป๋ายเย่ยังไม่จำเป็นต้องออกมา จูนจิ่วบีดเอวแล้วเหวี่ยงต้นขา ถีบเท้าเตะโดนหลี่ฉีอย่างจัง

ตูบ

เตะโดนท้องของหลี่ฉีเข้าอย่างจัง ปากของหลี่ฉีพุ่งน้ำออกมา ทั้งตัวเหมือนกระสอบทราย ถูกจูนจิ่วเตะกระเด็นจากเวทีประลอง ตกลงไปที่พื้นกลิ้งไปสามสี่ตลบแล้วหยุดลง แรงเตะนี้ดูเหมือนจะแรง ทว่าจูนจิ่วแค่ใช้แรงไปแค่สามระดับเท่านั้น

ฉะนั้นสิ่งที่หลี่ฉีอ๊วกจึงเป็นน้ำไม่ใช่เลือด อีกทั้งตอนที่กลิ้งลงไปแล้ว ยังลุกขึ้นมาได้ โดยที่กุมท้องไว้แล้วยืนขึ้นอย่างโซซัดโซเซไม่นิ่ง หากไม่ใช่ศัตรู ขณะที่ลงมือจูนจิ่วจะอ่อนโยนให้เล็กหน่อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ