บทที่ 179 หินทิพย์ชั้นสี่ที่ใหญ่เท่ากำปั้น
หินดั้งเดิมที่ถูกตัดชิ้นต่อชิ้น หินทิพย์ล้ำค่ากองอยู่ด้านข้างจนเป็นเนินเขาเล็กๆ เดิมทีตอนแรกยังมีการเก็บใส่กล่องกํามะหยี่สีแดง แต่ว่าหินทิพย์หลังๆยิ่งอยู่ยิ่งใหญ่ ยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ จนเก็บไว้ในกล่องไม่ได้ จึงทำได้เพียงวางกองไว้ด้านข้างอย่างหยาบๆ
มีเพียงไม่กี่คนในนี้ที่ประเมินการณ์หินทิพย์และแสดงท่าทีความโลภ ที่มากไปกว่านั้นคือสายตายังคงจับจ้องไปที่การตัดหินดั้งเดิม พวกเขาแค่อยากดูว่า หินดั้งเดิมทุกก้อนคงไม่เป็นหินทิพย์ทั้งหมดหรอกมั้ง?
ขอบคุณนะ สรุปว่าเป็นหินทิพย์
พวกเขาจ้องมองหินดั้งเดิม แล้วก็แอบเหลือบไปมองจูนจิ่ว โดยพยายามหลบสายตาโม่อู๋เยว่ที่เย็นชาน่ากลัว และมีอำนาจข่มอย่างระมัดระวัง หญิงสาวชุดกระโปรงม่วงเป็นใครกันแน่? เป็นโรคจิตหรือไง?นางเลือกหินดั้งเดิมพวกนี้ได้อันใดรึ?
ตัง
เสียงสดใสกังวานดังขึ้น ต่อด้วยเสียงกร๊อบแกร๊บดังตามมา ตะปูในมือของคนงานตัดหินหักเป็นสองท่อน เขาตกตะลึง สายตาคมกริบและผมเผ้าสีขาว ท่าทางที่ชำนาญเป็นสิ่งยืนยันว่าเขาเป็นคนงานตัดหินมานานหลายปี แต่เรื่องที่ตะปูตัดหินหักขณะที่ตัดหินนั้นถือเป็นครั้งแรก
คนงานตัดหินที่มีอายุมากรีบเก็บอาการตกใจ เขาเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่แล้วลงมืออีกครั้ง ปรากฏว่าตรงจุดเดิม มีเสียงตะปูหักอีกครั้ง เขาจึงเปลี่ยนเป็นมีดเล็ก ทว่าบนใบมีดเล็กก็หักงอทันที บนพื้นผิวหินดั้งเดิมมีเพียงรอยขาวๆ ซึ่งเป็นผลจากการที่เขาใช้พลังทิพย์ช่วยนิดหน่อย
ทุกคนตกตะลึง “นี่มันเกิดอะไรขึ้นรึ?”
“ตัดไม่เข้า อาจจะเป็นหินแข็ง ที่แข็งจนตัดไม่ขาด และยิ่งเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีหินทิพย์อยู่ข้างใน ฮ่าๆๆ ข้าว่าแล้วเชียวคงไม่ใช่ทุกก้อนที่จะเป็นหินทิพย์ทั้งหมด?”
“ในที่สุดก็เจอเห็นที่ไร้ค่า” พอทุกคนตกตะลึงผ่านไป แสดงสีหน้าพึงพอใจตามๆกัน ลูบคลำใบหน้าที่เหมือนโดนตบจนบวมก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าซะใจแค่ไหน
หินทุกก้อนเป็นหินทิพย์ มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
คนงานตัดหินที่อายุมากหมดหนทาง เขาเงยหน้าไปทางหยูนจ้งจิ่น “คุณชาย หินดั้งเดิมก้อนนี้ตัดไม่ขาด”
“เปลี่ยนคนงานตัดหินคนอื่น” หยูนจ้งจิ่นรีบออกคำสั่ง ทว่าคนงานตัดหินทุกคนล้วนมาลองดู แต่กลับไม่สามารถตัดหินดั้งเดิมก้อนนี้ได้ อย่าว่าแต่การลอกเปลือกออกสักนิด แค่อยากจะทิ้งรอยลงบนหินดั้งเดิมยังยากเลย
เมื่อเห็นคนงานตัดหินมาลองทีละคน และลองไม่สำเร็จสักคน จูนจิ่วเลิกคิ้วขึ้นสูง นางใช้พลังสายตามองทะลุผ่านหินดั้งเดิมก้อนนี้ เดิมหินก้อนนี้รูปร่างไม่ได้ใหญ่มาก ใหญ่เท่าศีรษะของผู้ใหญ่ รูปร่างเหมือนแตงโมที่โดนผ่าไปแล้วหนึ่งครึ่ง การตัดในแนวนอนมันลื่นมาก ทว่านี้ไม่ใช่คนทำ แต่เป็นการปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ
สาเหตุที่ดึงดูดจูนจิ่วให้เลือกมัน เป็นเพราะในหินดั้งเดิมก้อนนี้มีแสงสว่างไสวมากที่สุดในบรรดาหินดั้งเดิมทั้งหมดของโรงตัดหิน ดูโดดเด่นยิ่งกว่าหินทิพย์ชั้นสามทั้งสามก้อน ทว่าเทียบหินทิพย์ชั้นห้าในมือนางไม่ได้
นี่คือหินทิพย์ชั้นสี่ก้อนหนึ่ง จูนจิ่วได้คำตอบในใจ
หลังจากที่เห็นคนงานตัดหินคนสุดท้ายทดลองไม่สำเร็จ จูนจิ่วตบก้นเสี่ยวอู่เบาๆให้มันลงไป “ตัดหินดั้งเดิมอ ข้าจะทำปลาเผ่าให้เจ้า”
“เหมียว” เสี่ยวอู่ตาเป็นประกายแวววาวทันที มันเหมือนสายฟ้าแลบพุ่งตัวไปถึงหน้าหินดั้งเดิมทันที จนคนงานตัดหินตกใจหมด
รอทุกคนดึงสติกลับมา สังเกตว่าจูนจิ่วจะให้แมวตัวนี้ตัดหิน ท่ามกลางกลุ่มคนเสียงหัวเราะดังสนั่น “ ฮ่าๆๆๆ ต่อให้ไม่มีวิธีการใดก็ไม่น่าจะใช่แมวตัวหนึ่งมาตัดหินหรอก?”
“การตัดหินมีเพียงคนงานตัดหินที่สามารถทำได้ อีกอย่างคนงานตัดหินเป็นผู้สืบทอดด้านศิลปะหัตกรรม ต่อให้คนอื่นเรียนก็เรียนไม่ได้ นับประสาอะไรกับแมวตัวหนึ่ง? เกรงว่าแค่กรงเล็บแมวฟันลงไปก็คงหักแล้ว เด็กสาวคนนี้ตัดไม่ออกโกรธจนเพี้ยนไปแล้วหรือ?”
“เสียงข่มขู่” ในลำคอของเสี่ยวอู่เปล่งเสียงทุ้มต่ำ
มันหรี่ตาเป็นเส้นแนวเดียว สายตาอันตรายจ้องมองไปที่คนที่เพิ่งพูดเมื่อครู่ ทั้งๆที่เป็นแมวตัวหนึ่ง การจ้องมองกลับทำให้วิญญาณรู้สึกหวาดกลัวได้ ราวกับว่าอันที่อยู่ต่อหน้าไม่ใช่แมว แต่เป็นสัตว์ดุร้ายในตำนานโบราณ ณ เวลานั้นทุกคนเงียบสงบ เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...