บทที่ 186 ไอ้สารเลวด่าใครหรือ
การขัดจังหวะนี้ อู๋ซานไม่ใส่ใจนัก เขายังคงก้มลงมองจูนจิ่วอยู่ รอคอยคำตอบของนาง “เจ้าเห็นว่ากระไร? อาจารย์ข้าเป็นถึงเจ้าสำนักตัวจงเลยทีเดียว ในบรรดาลูกศิษย์แต่ละรุ่น มีลูกศิษย์ไม่กี่คนที่จะได้เป็นศิษย์ของเจ้าสำนัก”
น่าดึงดูดพอไหม?
เมื่ออู๋ซานอยู่ในประเทศเทียนโจ้ง ได้ซื้อยาของจูนจิ่วมาหลายกล่อง ท่าทางเหนื่อยอ่อนของเขาในตอนนี้มาจากการใช้เวลาแรมเดือนศึกษาวิจัย แต่ไม่ว่าจะทำกระไรก็ไม่อาจเข้าใจได้ วิธีปรุงยาแบบเดียวกัน แต่ทำไมคุณภาพยาของจูนจิ่วจึงดีกว่ามาก ประสิทธิภาพชั้นเยี่ยม!ถึงกับกดเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักตัวจงเลยทีเดียว
จูนจิ่วยังเยาว์วัยนัก ยังไม่ถึงสิบห้าปี!ความเก่งกาจนี้ สำนักตันจงของพวกเขาต้องได้ตัวไว้! เมื่อได้จูนจิ่ว การแข่งขันอู๋จงในปีนี้ สำนักตันจงของพวกเขาจะต้องคว้าชัยชนะที่หนึ่งได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นอู๋ซานจึงมองไปยังนัยน์ตาของจูนจิ่ว เอ่ยอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวจูนจิ่วเจ้าคิดได้หรือยัง?เจ้ามีพรสวรรค์ในการปรุงยาขนาดนี้ หากไม่มาตันจงนับว่าน่าเสียดายมากเหลือเกิน หากไปยังสำนักอื่น จะเสียดายพรสวรรค์ของเจ้ายิ่งนัก!”
จูนเสี่ยวเหล่ยและหยูนเฉียวมองสบตากัน ไม่เอ่ยอะไร พวกเขาคิดเงียบๆ เหมือนจูนจิ่วจะเคยบอกว่าจะไม่ไปตันจง
“อู๋จงมีห้าสำนัก จะไปที่ไหนข้ายังไม่ได้คิด เดี๋ยวค่อยว่ากัน” จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่ไป เดินเลี่ยงอู๋ซานไปทางเวทีอู๋จงด้านหลัง อู๋ซานตะลึงค้างไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอีกหรือ?
เขาไม่สบอารมณ์นัก ยิ่งเมื่อมองไปยังจูนเสี่ยวเหล่ยและหยูนเฉียวแล้ว อู๋ซานเอ่ยเสียงเย็น “พวกเจ้าเองก็ได้ยินแล้วใช่ไหม?พยายามโน้มน้าวเสี่ยวจูนจิ่ว หากนางมายังตันจงอนาคตต้องรุ่งโรจน์แน่ๆ!”
จูนเสี่ยวเหล่ย หยูนเฉียว ...
ส่งสายตาส่งอู๋ซานที่สะบัดกายหายไป ทั้งสองรีบเร่งเดินตามจูนจิ่วไป ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากเวทีอู่จงแล้ว ไม่กี่ก้าวก็ไปถึง เมื่อเงยหน้าไปมอง มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ตีนเขา สร้างขึ้นจากไม้ไผ่ทั้งหลัง มองไปทำให้คนสงบใจได้ดีทีเดียว
จากนั้นโดยรอบบริเวณนี้ต่างมีหนุ่มสาวมากมายทั้งชายหญิงโดยรอบ พวกเขาต่างใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองจับจ้องมายังพวกจูนจิ่ว หลังจากพินิจพิเคราะห์กันแล้ว ต่างมาล้อมรอบจูนจิ่วเอาไว้ ต่างมีความอิจฉาและไม่พอใจอย่าไม่ปิดบัง
จูนจิ่วไม่ได้มองพวกเขา ถือบัตรประจำตัวเดินไปยังบ้านหลังนั้น ตลอดเส้นทางได้ยินเสียงผู้คนถกเถียงกัน “นางก็คือนาง?อาจารย์สำนักตันจงอยากให้นางเข้าร่วมสำนักตันจง?”
“ถึงกับได้รับคำเชิญจากเจ้าสำนักตันจง ไม่รู้ว่าได้โชคดีอะไรเช่นนั้น?จูนจิ่ว?ดังเหรอ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินชื่อนางมาก่อน ไม่แน่อาจจะใช้วิธีอื่นๆ เพื่อให้เจ้าสำนักเชิญนาง”
หยูนเฉียวเดินเข้าข้างๆ หยูนเฉียว ขมวดคิ้วพลางเอ่ยเสียงต่ำ “แม่นางจูน ดูไปแล้วน่าจะเป็นสตรีนางเมื่อครู่แพร่ข่าวออกไป”
เพราะงั้นคนเหล่านี้ถึงรู้ แทบไม่ต้องคิด แต่ละคนต่างกำลังอิจฉาอยู่
สำนักตันจงและเจี้ยนจงนับเป็นสองสำนักที่เข้ายากที่สุด รับเพียงนักปรุงยาและนักฝึกดาบ สำนักตันจงเป็นที่นับถือของผู้คน จำนวนนักปรุงยาที่น้อย ไม่ว่าจะไปที่ไหนต่างได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีนักจิตไม่รู้กี่คนที่ใฝ่ฝัน สำนักหลังมีชื่อในเรื่องฝีมือดาบ และผู้คนต่างชื่นชมเลื่อมใส
จูนจิ่วเพิ่งมาถึงอู่จง ก็ได้รับคำเชิญจากตันจง และยังเสนอให้นางเป็นศิษย์ของเจ้าสำนักอีกด้วย แถมยังเป็นศิษย์น้องของอู๋ซาน จะไม่ให้อิจฉาได้กระไร?หากสายตาเป็นดังมีดสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าตอนนี้จูนจิ่วคงพรุนไปทั้งตัวแล้ว
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา ถึงห้องแล้ว จูนเสี่ยวเหล่ย หยูนเฉียวพวกเจ้าอยู่ห้องด้านขวาสองห้อง” จูนจิ่วชี้ไปยังห้อง
เมื่อพวกเขากำลังเข้าไปนั่นเอง ด้านหน้าพลันมีสองคนพุ่งมาบังทางไว้ นั่นคือแฝดสองคน สายตาไม่เป็นมิตรจับจ้องไปยังจูนจิ่ว หนึ่งในคนนั้นเอามือคาดเอว อารมณ์ปะทุรุนแรง “เจ้าก็คือจูนจิ่วใช่ไหม?ข้าชอบห้องของเจ้าแล้ว ข้าจะแลกกับเจ้า!”
“ยังมีพวกเจ้าอีก ห้องทั้งสามนี้พวกเราจะเอาแล้ว เห็นห้องตรงนั้นไหม?จากนี้เป็นต้นไป ตรงนี้เป็นของพวกเรา ตรงนั้นเป็นห้องของพวกเจ้า!”
เมื่อมองไปทางที่ฝาแฝดชี้ ตรงนั้นเป็นห้องมุม ทำจากไม้ไผ่ผุพังเก่า ไม่ได้ซ่อมแซมมาหลายปี ไม่รู้ว่าพังมากี่ปีแล้ว
จูนเสี่ยวเหล่ยเดือดดาลขึ้น เอ่ยเจือโทสะ “เรื่องอะไรจะให้พวกเจ้าเปลี่ยน?ห้องนั่นดูก็รู้ว่าพังมาหลายปีแล้ว จะเข้าพักได้กระไร?พวกเจ้าตั้งใจมาหาเรื่องใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...