บทที่ 189 แม้นญาติมิตรก็เอาชีวิต
ผู้คนต่างพากันประเมินจูนหยูนเสวี่ย คาดคะเนความเป็นมาของนาง สายตาของนางไม่มองใคร จับจ้องอย่างเยียบเย็นอยู่ที่แผ่นหลังของรองเจ้าสำนักโจ่ฉี ที่ทำให้จูนจิ่วประหลาดใจก็คือ ท่าทีของโจ่ฉีเย็นชาเคร่งขรึม ไม่มีท่าทีอื่นใด แต่เมื่อสบสายตากับนาง พลันในนางรู้สึกถึงรอยยิ้ม
เขายิ้มกับนาง?แปลกจริง
โจ่ฉียกมือขึ้น ทั่วทั้งสนามจึงเงียบลง จูนหยูนเสวี่ยยืนอยู่ข้างโจ่ฉี เย่อหยิ่งโอ่อ่าชื่นชมสายตาของผู้คนที่มองมา ตระกูลจูนล่มไปแล้วยังไง?นางในตอนนี้สูงส่งกว่าเดิม แม้รองเจ้าสำนักเจี้ยนจงยังเรียกนางคุณหนู ในใจจูนหยูนเสวี่ยพองโต ยากที่จะสงบนิ่งลง
นางมองไปยังจูนจิ่ว พลันหรี่สายตาลง ในสายตาปรากฏแรงอาฆาตและความเกลียดชัง แต่เพียงพริบตาเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นเย่อหยิ่งดังเดิม ใช้เพียงหางตามองไปยังจูนจิ่ว เห็นหรือยัง?ตอนนี้ข้าสูงส่งขนาดไหน เจ้าจูนจิ่วไม่คู่ควรแม้จะใส่รองเท้าให้ข้า!
เมื่อครั้งที่จูนหยูนเสวี่ยเพิ่งมาถึงอู่จง ถึงกับตื่นตาตื่นใจไม่หยุด คิดไม่ถึงว่ากองทัพเย่สิงจะยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้นางที่เป็นนายหญิง เพียงชั่วข้ามคืนเดียวที่อาศัยในตำหนักใหญ่โตหรูหรา เพชรนิลจินดามากมาย และยังได้รับความใส่ใจจากอาจารย์ผู้สูงศักดิ์ ทั้งหมดนี่ต่างแต่กต่างกับตระกูลจูนเหลือเกิน จูนหยูนเสวี่ยลืมการตายของซั่งกวนอี่หรงอย่างรวดเร็ว ไม่เศร้าโศกอีกต่อไป มีเพียงความสุข!
นางยังถึงกับโกรธซั่งกวนอี่หรง ทำไมจึงไม่บอกนางให้เร็วกว่านี้?หากนางแทนที่จูนจิ่วมายังอู่จงตั้งแต่เด็ก... จูนหยูนเสวี่ยคิดถึงภาพในหัว ถึงกับยินดีไม่หยุด แต่จะตอนนี้ก็ไม่เป็นไร ก้าวเดียวก็เอื้อมถึงฟ้า นางอยากได้อะไรก็ได้
จูนหยูนเสวี่ยยิ้มอำมหิต สายตาจับจ้องไปยังจูนจิ่ว จูนจิ่วเห็นนางแล้ว ต้องเกรงกลัวเป็นแน่?นางแทบจะอดทนรอฉากที่จะเห็นจูนจิ่วคุกเข่าร้องขอชีวิตแทบไม่ไหว
“จูนหยูนเสวี่ย จูนหยูนเสวี่ย?” โจ่ฉีขมวดคิ้ว ก้มลงมองมายังนาง
เมื่อเรียกสติกลับมาได้ นางเก็บอารมณ์เอาไว้ พลันแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มงามดุจบัวบริสุทธิ์ “ข้าอยู่นี่”
“ไปเถอะ นับเป็นลูกศิษย์สำนักเจี้ยนจงของข้า ข้าจะเฝ้าดูฝีมือของเจ้า อย่าทำให้ข้าผิดหวังหล่ะ” โจ่ฉีเห็นจูนหยูนเสวี่ยเหม่อลอยไป ยังไม่โมโห เพียงแต่กำชับจูนหยูนเสวี่ยด้วยเสียงอ่อนโยน ท่าทีเช่นนี้ ต่างทำให้คนโดยรอบประหลาดใจกันทั่ว
ใครจะไม่รู้ถึงความเข้มงวดของรองเจ้าสำนักเจี้ยนจง ใบหน้าราวเหล็กกล้า แต่ตอนนี้กลับอ่อนโยนต่อสตรีนางนี้เหลือเกิน?จูนหยูนเสวี่ย?นางเป็นใคร เหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย
เพราะเป็นคนที่รองเจ้าสำนักเจี้ยนจงพามาด้วยตนเอง แม้จะไม่รู้ความเป็นมาของจูนหยูนเสวี่ย แต่เมื่อจูนหยูนเสวี่ยเดินมา ก็มีคนเดินไปล้อมรอบนาง แสดงไมตรีจิตของพวกเขาให้ดู “เป็นมิตร”
กับเรื่องนี้แล้ว จูนหยูนเสวี่ยมีท่าทีเย่อหยิ่งมากทีเดียว บางเวลานางยังคงใช้หางตาปรายมามองยังจูนจิ่ว ราวกับจะโอ้อวด ให้จูนจิ่วริษยา ทว่าจูนจิ่วนอกจากตอนเริ่มต้นที่ปราดตามองนางแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เมื่อเห็นดังนั้น จูนหยูนเสวี่ยกำหมัดแน่น
โจ่ฉีเอ่ยปาก “เมื่อบรรดาลูกศิษย์จากทั้งสิบประเทศมากันครบแล้ว จากนี้พวกเจ้าก็ออกเดินทางได้ ไปตามเส้นทางนี้ ราวหนึ่งชั่วยาม พวกเจ้าก็จะไปถึงจุดหมาย จะมีลูกศิษย์ห้าสำนักรอเจ้าอยู่ ทั้งยังจะแจ้งกฎเกณฑ์การแข่งขันให้พวกเจ้า ผู้ใดที่หนึ่งชั่วยามยังไม่ถึงเป้าหมาย จะนับเป็นการสละสิทธิ์”
ได้ยินดังนั้น ทุกคนต่างหันกายเตรียมไปเก็บสัมภาระ แล้วออกเดินทาง!พวกเขาไม่อยากจะเสียเวลา ถูกปลดจากการแข่งขัน
จูนจิ่วปรายตาไปยังหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยทั้งสอง “พวกเจ้าเก็บสัมภาระกันแล้วหรือยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...