บทที่ 190 แท้จริงแล้วใครเป็นนายหญิงกันแน่
ฝูงชนต่างจับจ้องไปยังจูนจิ่ว ชั่วเวลาหนึ่งต่างไม่มีใครเอ่ยคำ เงียบจนได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าจูนจิ่ว ชายกระโปรงสีแดงเพลิงพลิ้วไหวระเท้า ทำให้คนยากจะดึงสายตาออก ฝาแฝดทั้งสองอดไม่ได้เอ่ยปาก “พี่ใหญ่ จูนจิ่วนี่...”
“หุบปาก!” มู่หรงหนันจีนเอ่ยสั่งเสียงต่ำ เกรงว่าพวกเขาจะรบกวนความเงียบนี้
จูนหยูนเสวี่ยเองก็เป็นหญิงงาม ทว่าดอกบัวขาวจะเปรียบกับกุหลาบแดงได้กระไร?สายตาฉลาดเฉลียวของจูนจิ่ว ทำให้รู้สึกถูกกดเหยียบลงใต้เท้า เมื่อก้าวเข้าใกล้มากขึ้น กดจนจูนหยูนเสวี่ยแทบหายใจไม่ออก
จูนหยูนเสวี่ยแววตาเคียดแค้นชิงชัง เอ่ยอย่างพึงพอใจ “จูนจิ่ว เจ้ากล้าทำมิกล้ารับหรือ?”
จูนจิ่วมองไปยังนาง “ตระกูลจูนเลี้ยงดูข้าด้วยมีบุญคุณกันหรือ?เรื่องนี้ข้าไม่รับ ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่ได้ฆ่าซั่งกวนอี่หรง ข้าเพียงแต่ตัดหัวนางหลังจากที่นางตายแล้วเท่านั้น ทว่าบิดาเจ้าและตระกูลจูน เป็นข้าเองที่ฆ่าและทำลาย”
แต่ละคำที่เอ่ยเยียบเย็น โอ้อวดดื้อรั้น ไม่มีความรู้สึกผิดเจือปน ยอมรับในการกระทำตัวเองอย่างองอาจ
“ฮ่า” จูนหยูนเสวี่ยยิ้มด้วยความยินดี และจึงหัวเราะออกมา พลันถูกจูนจิ่วบีบลำคออย่างรวดเร็ว จูนหยูนเสวี่ยตกใจตาแทบถลน ไม่อาจเชื่อได้ว่าจูนจิ่วจะกล้าลงมือกับนาง!แรงกดบริเวณลำคอ ทำให้นางไม่อาจเอ่ยคำ หายใจยากลำบาก
นางกล้าดียังไง?!
“ดังนั้น ครอบครัวเจ้าถูกข้าฆ่าหมดแล้ว ใครให้ความกล้ากับเจ้า ให้เจ้ากล้ามาอวดดีกับข้า หือ?” คำพูดสุดท้ายน้ำเสียงลากยาว ดุดันและเย็นชา
จูนจิ่วจ้องมองสายตาจูนหยูนเสวี่ยที่ยังไม่เชื่อสายตาตัวเองอยู่นั้น นางดูคล้ายแทบบ้าแล้ว ทั้งโกรธทั้วตระหนก ราวกับคิดไม่ถึงว่าจูนจิ่วจะกล้าลงมือ ที่นี่ต่อหน้ารองเจ้าสำนัก ต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์ทุกคน เมื่อเห็นสีหน้าของนาง จูนจิ่วจึงแย้มยิ้มขึ้น
เป็นยิ้มที่งดงามมากกว่าดอกไม้ร้อยชนิดบานพร้อมกัน ไม่มีใครตำหนิจูนจิ่ว กลับหลงใหลในความบ้าคลั่งและรอยยิ้มของนาง
จูนจิ่วกระตุกยิ้มขึ้น “จูนหยูนเสวี่ย อย่าคิดเอาว่าเจ้าสำนักอู่จงจะช่วยเจ้า เจ้าก็จะปลอดภัยแล้ว หากข้าจะฆ่าเจ้า จะเมื่อไหร่ก็ยังได้!เช่นตอนนี้” พละกำลังในมือบีบเคล้นขึ้น จูนหยูนเสวี่ยเจ็บปวดจนใบหน้าซีดขาว
ผู้คนโดยรอบตาพร่าไปแล้ว เดือดดาล!เหี้ยมโหด!
จูนจิ่วกล้าฆ่าคนในที่นี้ นางไม่เกรงจะถูกขับออกจากการแข่งขันหรือ?
“พอแล้ว!” โจ่ฉีเอ่ยเสียงต่ำ เขาเองก็ตะลึงงัน ไม่คาดคิดว่าจูนจิ่วจะไม่ปฏิบัติตามกฎ คิดจะลงมือก็ทำ ติดจะฆ่าก็ฆ่าเลย เมื่อเห็นจูนจิ่วลงมือโดยไม่มีความรู้สึกใด หากไม่ยั้งไว้คงได้ลงมือกับจูนหยูนเสวี่ยเป็นแน่ โจ่ฉีสายตาลึกหลบ
จะให้จูนจิ่วฆ่าจูนหยูนเสวี่ยไม่ได้ จูนหยูนเสวี่ยยังเก็บไว้ใช้ประโยชน์ได้
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปาก น้ำเสียงโมโห “เวลาชั่วโมงเดียวจำกัด พวกเจ้ามันยืนตะลึงอะไรที่นี่ ไม่คิดจะรักษาคุณสมบัติตัวเองไว้ใช่ไหม?”
ได้ยินดังนั้น บรรดาผู้ชมก็ไม่กล้าหยุดดูอีกต่อไป แต่พากันเดินจากไปอย่างช้าๆ ทั้งก้าวไปหนึ่งก้าว และหันหลังกลับมาดูอยู่ตลอด สายตาจับจ้องที่จูนจิ่วไม่เปลี่ยนแปร
โจ่ฉีขมวดคิ้วจ้องมองจูนจิ่ว เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “จูนจิ่วเจ้ายังไม่ปล่อยมือ!”
กระตุกคิ้วเล็กน้อย จูนจิ่วสะบัดมือทิ้งจูนหยูนเสวี่ยออกไป แล้วจึงปัดมือ ราวกับเพิ่งทิ้งขยะออกไปกระไรอย่างนั้น ในเมื่อเป็นขยะ ก็ไม่ต้องเสียเวลาอีกแล้ว จูนจิ่วสะบัดตัว แย้มยิ้มอย่างอวดดี “จูนเสี่ยวเหล่ย หยูนเฉียวพวกเราไปกัน”
“ดี!”
ในสถานการณ์ที่เกือบจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น จูนจิ่วกลับสะบัดกายจากไปอย่างไม่แลมอง สิ้นสุดเท่านี้หรือ!ทุกคนจ้องมองโจ่ฉีอย่างไม่อาจเชื่อสายตา รองเจ้าสำนักเจี้ยนจงถึงกับไม่ลงโทษจูนจิ่วเลยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...