บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 192

บทที่ 192 ข้าขอพนันจูนจิ่ว

ให้ความรู้สึกเหมือนกับการถูกชุบด้วยน้ำเย็นเฉียบหนึ่งชั้น โอบล้อมไปทั่วทั้งตัวด้วยความอ่อนโยน ขณะเดียวกันได้ยินเสียงถูฉีพูดว่า “ผู้ที่ได้ที่หนึ่งในสิบประเทศ จะได้รับเบาะแสเกี่ยวกับดอกตงเตียหนึ่งอย่าง ”

บนมือรู้สึกร้อนๆ จูนจิ่วจึงก้มหน้าไปดูที่ข้อมือ มีเส้นด้ายสีทองมาพันรอบๆ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ทันใดนั้น ทุกสายตาจับจ้องมาที่นาง เมื่อเงยหน้ามองดูซ้ายขวา นางเห็นบนข้อมือของมู่หรงหนันจีน เหยียนไห่และกูซูหยิงก็มีเช่นกัน สายตาของจูนจิ่วแดูอึมครึม

มองดูผิวเผินก็เหมือนเป็นการให้รางวัลแก่ผู้ที่ได้ที่หนึ่งจากสิบประเทศ แต่ในความเป็นจริงกลับทำให้พวกเขาต้องตกเป็นเป้าสายตา “เบาะแสเกี่ยวกับดอกตงเตีย” ยังไม่ทันได้เริ่มเลย พวกเขาก็กลายเป็นเป้าโจมตีเสียอย่างนั้น

ตอนที่เส้นด้ายสีทองพันวนขึ้นมา มีคำพูดหนึ่งปรากฏในหัวของจูนจิ่ว จูนจิ่วพูดพึมพำเบาๆ ดอกตงเตียไม่อยู่บนดิน ไม่ได้ขึ้นอยู่บนดินงั้นหรือ? แล้วจะขึ้นอยู่ที่ใด การคาดการณ์ยังไม่ทันได้บทสรุป แสงวูบวับหายไปพวกเขาแต่ละคนหายตัวไปกระไร้ร่องรอย

ถูฉีพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เริ่มได้”

“ท่านปู่ถูฉี ดอกตงเตียหาง่ายหรือไม่?” เมื่อกู่ซงมองไม่เห็นจูนจิ่วพวกเขาแล้ว จึงมองไปทางถูฉีแล้วเอ่ยปากถามอย่างอดใจไม่ได้

ถูฉี หันหน้ามองกลับไปทางกู่ซง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางๆ “ดอกตงเตียก็ย่อมหาไม่ง่ายอยู่แล้ว นี่มันการแข่งขัน มีเพียงผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์เป็นศิษย์สำนักอู๋อจง ทำไมหรือ? กู่ซงเจ้าชื่นชอบใครหรือ?”

“ท่านปู่ถูฉี ก็ข้าเคยพูดแล้วว่ามีสามคนที่เป็นเพื่อนข้าไม่ใช่หรือ? ทำไมกลายเป็นว่าข้าชื่นชอบใครไปล่ะ” กู่ซงทำตัวไม่ถูก

เขาเห็นถูฉีทำท่าประสานมือเจว๋ ภายในค่ายเขาวงกตแบ่งออกเป็นแสงแวววาวสามสาย มีหนึ่งสายที่หยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเขา อีกสองสายบินไปยังยอดภูเขา ถูฉีคว้าแสงแวววาวไว้แล้วร่ายคาถา ทันใดนั้น แสงแวววาวแยกตัวออกจากกันแล้วกลายเป็นกระจกน้ำหนึ่งสาย

ท่ามกลางกระจกน้ำ เงาร่างของผู้คนที่เข้าร่วมการแข่งขันปรากฏขึ้นมาทีละคน……

กู่ซงอดใจรอไม่ไว้จนพูดออกมาว่า “มองดูจูนจิ่ว”

ดูท่าทางถูฉีจะตามใจกู่ซงมาก ยอมฟังเขาโดยที่ไม่ปฏิเสธ เขาสะบัดแขนเสื้อโดยตรงทำให้ภาพบนกระจกน้ำปรากฏภาพของจูนจิ่ว อู๋ซานที่อยู่ด้านข้างรู้สึกอิจฉากู่ซงอยู่บ้าง ทว่าก็หันหน้าไปดูภาพในกระจกน้ำอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน

เห็นเพียงว่าจูนจิ่วเดินเข้าไปในค่ายเขาวงกต กำแพงเขาวงกตสีเขียวเข้มสูงใหญ่ เมื่อเทียบกันแล้วทำให้นางดูตัวเล็กมาก

มองสังเกตการณ์ไปรอบๆ จูนจิ่วหรี่ตาลงต่ำ นางเอ่ยปากพูดด้วยความสงสัย ประหลาดใจ และนึกสนุก “ที่นี่น่ะหรือคือค่ายเขาวงกต? เป็นค่ายลวงตา นี่คือค่ายเขาวงกตจริงๆหรือ? หรือว่าเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ค่ายกลนำส่ง และนำส่งพวกข้ามายังอีกสถานที่หนึ่ง?”

ขณะที่กำลังคาดเดา จูนจิ่วยื่นมือไปลูบตรงกำแพง สัมผัสที่มือรู้สึกเหมือนจริงมาก นางสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นและลื่นมือของตะไคร่น้ำ ทั้งยังได้กลิ่นดินที่เท้า จูนจิ่วยกมุมปากขึ้นสูง

นางเดินไปข้างหน้าต่อ มีเสียงทะลุผ่านอากาศมาอย่างรวดเร็ว

เป็นกลไกอาวุธลับ

บนกำแพงสีเขียวเข้มปรากฏหลุมขนาดใหญ่ ธนูเหล็กขึ้นสนิมที่ไม่ลดแรงกำลังจู่โจม ทะลุผ่านอากาศทีละแถวพุ่งเข้าหาจูนจิ่ว จูนจิ่วรีบพลิกตัวกระโดดไปด้านหลัง ธนูเหล็กเสียบเข้าที่พื้นดินด้านหลังของนางอย่างลึก แรงที่พุ่งมาทำให้ปลายธนูยังคงสั่นไม่หยุด ความรุนแรงระดับนี้หากโดนยิงใส่คงทะลุหลังไปเลย

จูนจิ่วถอยกลับไปในระยะที่พอดี นางมองไปข้างหน้า ธนูเหล็กเรียงตัวเป็นแถว ปิดกั้นทางข้างหน้าไว้ทั้งหมด

ด้านนอกกระจกน้ำ ถูฉีลูบหนวดเครา “ผ่านด่านนี้ไป ถึงจะเริ่มเข้าสู่ภายในค่ายเขาวงกต ถ้าหากผ่านไปไม่ได้ ถือว่าแพ้”

“จูนจิ่ว จะต้องผ่านไปได้แน่นอน” กู่ซงเชื่อมั่นเช่นนั้น

ถูฉีเหลือบมองเขาทีหนึ่ง แล้วพูดว่า “กู่ซง ด่านทางเข้านี้เป็นด่านที่ยากที่สุด”

“ท่านปู่ถูฉีดูไว้ให้ดีก็พอ จูนจิ่วจะต้องผ่านไปได้แน่นอน คนอื่นอาจผ่านไม่ได้ แต่นางต้องผ่านไปได้แน่นอน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ