บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 193

บทที่ 193 นางมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

นางถีบที่ปลายเท้าแล้วพุ่งไปข้างหน้า กระโปรงแดงดุจดั่งไฟที่ลุกโชนร้อนแรง จูนจิ่วไม่รู้หรอกว่าในขณะนี้มีคนจำนวนเท่าไหร่ กำลังมองดูนางผ่านกระจกน้ำ นางมุ่งตรงไปอย่างเดียว จะหยุดชะงักลังเลไม่ได้เด็ดขาด

มิเช่นนั้น สิ่งเหล่านี้ หากไม่ทำให้นางตายก็คงจะอาการสาหัสเอาเรื่อง

นางมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ริมฝีปากแดงยกสูงขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง จูนจิ่วกระตุกยิ้มมุมปาก “ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว”

เสียงยิงผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็ว

ธนูเหล็กเป็นแถวๆยิงออกมา จูนจิ่วเพียงแค่ถีบปลายเท้ากระโดดหลบ ธนูเหล็กปลิวผ่านร่างกายนางอย่างรวดเร็ว เสียงแสบแก้วหูปลิวผ่านอากาศไป จูนจิ่วหมุนรอบตัว เหยียบใส่กำแพงสีเขียวเข้มเต็มฝ่าเท้า แล้วตีลังกาหลัง ผมสีดำสนิทสะบัดพลิ้วกางออก

เสียงยิงผ่านอากาศ

มีดสามเหลี่ยมเกลียวอันแรก หมุนเลยผ่านจูนจิ่วไป ใบมีดอันคมกริบไม่มีสนิมขึ้นหรือเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาเลย ความเย็นเยือกปลิวเฉียดใบหน้าไป หากพลาดเพียงนิดเดียวอาจทำให้หัวขาดสะบั้นได้

เสียงเฉี่ยวผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่จูนจิ่วเพิ่งตีลังกาเสร็จ มีดสามเหลี่ยมเกลียวอันที่สองปะทะเข้าใส่อีก ซึ่งปลายเท้าของนางหยุดอยู่ที่ปลายมีดสามเหลี่ยมเกลียวพอดี คนจำนวนไม่น้อยที่เห็นภาพนี้ต่างพากันตื่นตกใจ หัวใจเต้นแรง เหมือนลมหายใจหยุดไปชั่วขณะ ถ้าหากเหยียบลงไปเต็มฝ่าเท้าล่ะก็ ทั้งตัวอาจจะถูกใบมีดตัดจนขาดได้

เห็นอยู่ตำตาว่าจูนจิ่วกำลังจะเหยียบเข้าใส่แล้ว เพราะไม่มีที่พักเท้าที่อื่นเลย ทุกคนกำมือแน่นจนควบคุมไม่อยู่ ดูแล้วตื่นเต้นยิ่งกว่าจูนจิ่วเสียอีก

จูนจิ่วโยนใบไม้ออกไปหนึ่งใบ ปลายเท้าแตะลงเบาๆ เหมือนผีเสื้อตัวบางเบา กระโดดย่อตัวแล้วบินออกไป ส่วนใบไม้ใต้เท้าหล่นลงไปหยุดอยู่ที่ปลายมีด ทันใดนั้นถูกตัดขาดเป็นสองท่อน และตรงหน้ากำลังเผชิญกับมีดสามเหลี่ยมเกลียวอันที่สาม

จูนจิ่วใช้นิ้วดีดก้อนหินเล็กๆพุ่งไปติดอยู่ในกลไกลับอย่างพอเหมาะ มีดสามเหลี่ยมเกลียวที่หมุนอย่างรวดเร็วหยุดชะงักทันที พวกเขาทำได้เพียงมองดูจูนจิ่วผ่านไปอย่างง่ายดาย หลังจากที่นางผ่านไปได้ ก้อนหินเล็กก็ถูกกลไกลับบดจนแตกสลาย

เจ้าสำนักตันจงอยากจะเอ่ยชื่นชม ทว่ากลับพูดไม่ออก เพราะเขาลงพนันไปแล้ว ทำได้เพียงเอ่ยปากพูดเสียงแห้งๆ “นี่มันแค่ด่านที่สองเอง ทางเข้ากลไกลับยังมีด่านที่สามอีก”

“ใช่ๆ ยิ่งถึงด้านหลังยิ่งอันตราย” ท่านชิงจากสำนักชางไห่จงกำหมัดแน่น เบิกตากว้างจ้องมองไปที่จูนจิ่วอย่างไม่ละสายตา

หลังผ่านด่านมีดสามเหลี่ยมเกลียวไป ยังมีกลไกลับอีกสามอย่าง นี่คือสิ่งที่จูนจิ่วประเมินการณ์ไว้ก่อนแล้ว

ฝีเท้านางไม่ได้หยุดลง เดินตรงไปข้างหน้า

บูม

หลุมไฟอันร้อนแรงทะลักออกจากพื้นดิน หากโดนไฟโหมกระหน่ำใส่ จะต้องถูกไฟกลืนกินแน่นอน จูนจิ่วที่อยู่ท่ามกลางทะเลไฟ สีหน้าไม่เปลี่ยนเลย ยังคงเดินต่อไปข้างหน้า ไม่เห็นว่านางจะทำกระไร ทำเพียงก้าวเท้าเดินออกไป จังหวะการเดินที่แปลกประหลาดนั้น ทำให้นางเดินหลบหลีกหลุมไฟได้อย่างสบายๆ

จนกระทั่งนางเดินออกไป ไฟไม่ได้หรือไม่้โดนชายกระโปรงของนางเลยแม้แต่น้อย ทุกคนที่อยู่นอกกระจกน้ำมองดูตาค้าง ไฟอันนี้เผ่าคนไม่เป็นหรือเปล่า? จูนจิ่วเดินผ่านไปง่ายๆแบบนี้เลยหรือ? โกหกกันหรือเปล่า

ยังไม่ทันได้ดึงสติกลับมาก็มาถึงด่านถัดไปแล้ว

พื้นดินที่ถูกขุดจนว่างเปล่า ข้างล่างเป็นเหวลึก เมื่อก้มหัวมองลงไป เห็นเพียงหมอกเย็นเยือกลอยปกคลุมอยู่ ซึ่งมองไม่เห็นก้นเหวเลย ทว่าสิ่งที่ใช้ข้ามผ่านทั้งสองฝั่ง กลับเป็นเพียงเชือกที่ถูกกัดกร่อนมานานปี แค่ดูก็รู้แล้วว่าสามารถขาดสะบั้นได้อย่างง่ายดาย หากเลือกเดินผ่านลวดเหล็ก ยังไงเสียกว่า เพราะถือว่าเป็นเหล็ก แต่เชือกอันนี้ เกรงว่ายังไม่ทันได้เหยียบก็ขาดเสียแล้ว

เฮือก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ