บทที่ 226 ชิงหยู่ได้ยินหมดแล้ว
เหอซ่านบีบจดหมายในแขนเสื้อ ถูกเขาบีบอยู่หลายทีจนมีรอยยับบ้าง ทางสำนักเจี้ยนจงยังรอเขาตอบกลับไป แต่เหอซ่านก็รู้สึกปวดหัวไม่รู้จะทำอย่างไร หากไม่ใช่แผนการของแม่นาย เปลี่ยนเป็นเขาคงบีบจูนหยูนเสวี่ยจอมเจ้าเล่ห์ที่คอยแต่สร้างเรื่องให้ตายไปแล้ว
ข้างหนึ่ง เหอซ่านก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โชคดีที่จูนหยูนเสวี่ยไปสำนักฝึกกระบี่ คนที่ต้องปวดหัวก็คงเป็นโจ่ฉี ฮึฮึ นี่เขาไม่ได้จะรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่นเลย
“ท่านเหอ”ด้านหลังมีเสียงของจูนจิ่วส่งมา เหอซ่านรีบหันศีรษะ
จูนจิ่วเพิ่งเดินออกมาจากทางน้ำตกหิน นางใช้พลังทิพย์ทำให้เสื้อผ้าแห้ง จากนั้นก็ล้วงลงไปในพื้นที่วงแหวนหยิบเอาปลามาให้เสี่ยวอู่กิน มีเจ้าเหมียวบางตัวท้องหิวมาทั้งวัน กำลังจะหาเรื่องแล้ว
จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่ขึ้นมาลูบตัว เงยหน้าขึ้นมองประเมินเหอซ่านอย่างเฉยเมย ดูแล้วเหอซ่านเหมือนมีเรื่องอะไรต้องการจะบอกนาง มองกวาดไปรอบตัว จูนจิ่วเอ่ยขึ้นว่า “มีเรื่องอันใด กลับไปก่อนค่อยว่ากัน”
“ดี ข้าจะสั่งให้ลูกศิษย์เตรียมอาหารไว้ก่อน”เหอซ่านเก็บสีหน้าอาการ หมุนตัวเดินไปก่อนจูนจิ่ว แล้วก็กลับสู่ความสุขุมเยือกเย็นเช่นวันวาน ทำเอาเหล่าลูกศิษย์ที่พบเห็นตามทางต่างต้องหลบเลี่ยงไป
เมื่อจูนจิ่วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่ข้างโต๊ะ เหอซ่านถึงจะนำเอาจดหมายออกมาจากแขนเสื้อมอบให้จูนจิ่ว จูนจิ่ว “จดหมายจากสำนักเจี้ยนจง”
“ใช่ ในจดหมายได้เขียนไว้อย่างละเอียดชัดเจนแล้ว โจ่ฉีกำลังรอจดหมายตอบกลับจากท่านแม่นาย”เหอซ่านตอบ
จดหมายมีทั้งหมดสามหน้า จูนจิ่วกวาดตาอ่านอย่างรวดเร็ว นางวางจดหมายลง ยิ้มและกล่าวว่า “จูนหยูนเสวี่ยทำได้ไม่เลว เกินกว่าที่ข้าได้คาดการณ์ไว้ ”
เหอซ่าน “……”
นี่ยังเรียกว่าทำได้ไม่เลว จูนหยูนเสวี่ยเกือบจะทำให้สำนักฝึกกระบี่วุ่นวายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว เจ้าสำนักเจี้ยนจงเองก็เกือบจะอดไม่ได้ที่จะฆ่าจูนหยูนเสวี่ยแล้ว หากไม่มีบุญคุณค้ำคอ โจ่ฉีเองก็ขวางไว้ เกรงว่าร่างไร้วิญญาณของจูนหยูนเสวี่ยตอนนี้คงแข็งทื่อไปแล้ว
เสี่ยวอู่เห็นอาการแปลกใจของเหอซ่าน อดไม่ได้ที่จะร้องเหมียวๆถามจูนจิ่ว จูนหยูนเสวี่ยได้ก่อเรื่องอะไรที่ทำให้สวรรค์และคนต่างพากันเคียดแค้นกัน จูนจิ่วยกมือขึ้นลูบหัวเสี่ยวอู่ ในใจบอกกับเสี่ยวอู่
พอเหอซ่านมองเห็นแมวสีขาวดุจหิมะในอ้อมกอดของจูนจิ่วตัวนั้น ทันใดนั้นก็ทำเสียง“ฟู่ ”เหมือนมนุษย์ จากนั้นก็ยกหัวสี่เท้าชี้ฟ้าล้มลงกับพื้น กลิ้งไปมาสุดแรง ร้องเหมียวๆเหมือนกำลังหัวเราะฮ่าฮ่า
เหอซ่านมองอย่างมึนงง แมวนี่บ้าไปแล้ว
จูนจิ่ว “ที่จูนหยูนเสวี่ยทำมันไม่ดีหรือ ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อีกสามสำนักก็คงได้รับข่าวคราวแล้ว จูนหยูนเสวี่ยได้กระจายชื่อเสียงของตนออกไปทั้งห้าสำนักอย่างแท้จริงแล้ว ทุกคนต่างรู้จักนาง จากแผนการของเรา ก็เข้าใกล้ขึ้นอีกก้าวแล้วกระมัง ”
“แต่ว่าแม่นาย นางทำเกินไปแล้ว ตอนนี้ในใจของเจ้าสำนักเจี้ยนจงมีแต่อยากจะฆ่านางให้ตาย จะเก็บนางไว้ได้อย่างไร”เหอซ่านขมวดคิ้วแน่น ปวดหัวยิ่งนัก
มองไปทางเขาแวบหนึ่ง จูนจิ่วยกมือขึ้นวางยาขวดหนึ่งไว้บนโต๊ะ เหอซ่านเงยหน้าขึ้นมองมา สงสัยไม่หาย “แม่นาย นี่คือ”
“นี่คือยาคืนชีพ ยาหนึ่งเม็ดสามารถรักษาได้หนึ่งชีวิต ข้างในมีทั้งหมดสามเม็ด เจ้าส่งมันไปยังเจี้ยนจง เรื่องวุ่นวายครั้งนี้จะได้รับการแก้ไขไปเอง”จูนจิ่วอธิบายสั้นๆ แต่เหอซ่านกลับแยกแยะความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของนั้นได้
ตาเป็นประกายมองไปทางขวดยา เอ่ยเสียงเบา “แม่นาย เกรงว่านี่จะไม่ใช่แค่สามารถรักษาชีวิตได้กระมัง”
“การช่วยคนให้พ้นจากความตายเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะเหลือแค่กระดูกท่อนเดียว ก็สามารถเกิดเลือดเนื้อขึ้นมาใหม่ได้ เพียงครึ่งเดือนก็สามารถกลับคืนครบทั้งหมด เพียงเม็ดเดียวเท่านั้น ก็สามารถแย่งเอาคนจากยมบาลได้ ยาเช่นนี้ เจ้าสำนักเจี้ยนจงจะหวั่นไหวหรือไม่”
จูนจิ่วยกเท้าตวัดเอาเสี่ยวอู่ขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมกอด ทำเสียงดูถูกกล่าวต่อว่า “ขอเพียงเขาหวั่นไหว จูนหยูนเสวี่ยนี่ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...