บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 230

บทที่230 พวกเจ้ามีตาหามีแววไม่

พื้นที่ส่วนหนึ่งในตำหนักเป่าถังของสำนักเทียนอู่จง ชิงหยู่กำลังสะสางกิจการภายในสำนักที่เกือบจะกองเท่าภูเขาลูกเล็กๆบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าอย่างเศร้าใจ ทันใดนั้นชิงหยู่ก็วางพู่กันเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสโจวเตี๋ย กะพริบตาปริบๆเอ่ยขึ้นยิ้มๆ “ท่านโจว วันนี้ก็พอแค่นี้เถอะ ให้ข้าไปดูศิษย์น้องสักหน่อย”

โจวเตี๋ยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าสำนัก กลุ่มผู้แข่งขันของทั้งสี่สำนักกำลังจะเดินทางมาถึงสำนักเทียนอู่จงแล้ว นี่เป็นช่วงที่ยุ่งที่สุด ท่านเป็นถึงเจ้าสำนักของสำนักเทียนอู่จง ควรเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ใช่แอบอู้ นอกจากนี้จูนจิ่วก็ลงจากเขาไปแล้ว ไม่ได้อยู่ในสำนัก”

“ศิษย์น้องลงจากเขา นางคนเดียวหรือ”

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ยังมีท่านโม่ลงเขาตามไปด้วย”โจวเตี๋ยพูด ได้ยินดังนั้น ชิงหยู่ก็ถึงกับอ้อ เขาหลุบตาต่ำลง ไม่มีใครเห็นแววหม่นหมองที่วาบผ่านไปในตาเขา

เวลาครึ่งปีมานี้ เขาค้นพบแต่แรกแล้วว่ากองทัพเย่สิงคืออะไร สถานะของจูนจิ่วคืออะไร เมื่อรู้แล้วชิงหยู่ก็ไม่คิดจะเปิดโปง พูดตรงๆก็คือ เขาไม่สนว่าจูนจิ่วจะทำอะไร เขารับรู้เพียงแค่ว่าจูนจิ่วคือศิษย์น้องที่เขาชิงหยู่รับเข้าสำนัก

แต่สิ่งเดียวที่ไม่รู้ชัดเจนคือเบื้องลึกเบื้องหลังของโม่อู๋เยว่ บุรุษผู้มีรูปโฉมดึงดูดราวกับปีศาจจำแลงคนนั้น กับศิษย์น้องความสัมพันธ์ของทั้งสองเหมือนจะใกล้ชิดสนิทสนมเกินไปแล้ว ชิงหยู่กัดริมฝีปาก รู้สึกในปากมีรสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย

ชิงหยู่ยิ่งครุ่นคิดยิ่งอยู่ไม่ติดที่ เขาวางงานกิจการภายในสำนักลุกขึ้นกล่าวว่า “ท่านโจว ข้ามีเรื่องต้องลงเขา กิจการภายในสำนักรอข้ากลับมาค่อยสะสาง”

“โธ่ ท่านเจ้าสำนักรอก่อน เจ้าสำนัก”ตอนที่โจวเตี๋ยลุกขึ้น ชิงหยู่ก็อันตรธานหายไปไม่เห็นแม่แต่เงาอย่างรวดเร็ว นางอยากตามก็ตามไม่ทันทำได้เพียงปล่อยชิงหยู่ไป

……

ข้างล่างเขาสำนักเทียนอู่จง

เมืองเทียนอู่เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับสำนักเทียนอู่จงมากที่สุดเมืองหนึ่ง สิ่งก่อสร้างทางเหนือยิ่งใหญ่สูงตระหง่าน ให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม การแข่งขันทั้งห้าสำนักกำลังจะมาถึง เมืองเทียนอู่คับคั่ง บนถนนผู้คนมากมายคึกคักกว่าปกติ

จูนจิ่วอุ้มเสี่ยวอู่เดินอยู่ข้างโม่อู๋เยว่ ที่ที่มีโม่อู๋เยว่ ต่อให้ผู้คนจะเบียดเสียดกันขนาดไหนพวกเขาก็หลีกถอยให้เป็นทาง

ทุกที่ๆผ่าน ทุกคนต่างจ้องมองจูนจิ่วและโม่อู๋เยว่ด้วยสายตาโง่ๆ คนหลังนี่ท่าทางน่ากลัวมาก ฉะนั้นจึงแอบเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วก็หันสายตาไปมองที่จูนจิ่วอย่างพร้อมเพรียงกัน สาวงามล่มเมือง ชุดกระโปรงสีแดงสวยสด เรียกได้ว่าโดดเด่นที่สุด

นางไม่ใช่หญิงอ่อนโยนน่าทะนุถนอมของเจียงหนาน และก็ไม่ใช่คุณหนูผู้สูงส่งจากตระกูลไหน แต่ดูร้อนแรงเหมือนไฟ สดใสเหมือนกุหลาบ แค่มองไปก็ถูกดึงดูดความสนใจในทันทีทันใด มองอย่างโง่ๆ เกือบจะลืมหายใจไปชั่วขณะ

สายตาของผู้คนไม่ได้มีผลกระทบกับจูนจิ่ว มีเพียงสายตาอำมหิตคู่หนึ่งเท่านั้น ที่ดึงดูดความสนใจของจูนจิ่ว หางตานางกวาดมองขึ้นไปยังโรงเตี๊ยมข้างถนน ม่านไม้ไผ่ที่ห้อยลงมาบดบังวิสัยทัศน์ด้านหลัง แต่ใต้ม่านไม้ไผ่มีชายเสื้อสีขาวโผล่พ้นออกมา ก็สามารถเดาได้แล้วว่าเป็นใคร

จูนหยูนเสวี่ย เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาง

มุมปากยิ้มเย็น จูนจิ่วยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ทิ้งจูนหยูนเสวี่ยไว้เบื้องหลัง จูนจิ่วเก็บสายตาเดินหน้าต่อไป จูนหยูนเสวี่ยจดจ้องอยู่ที่ตัวนางตลอดจนเลี้ยวผ่านมุมถนน มองไม่เห็นคนแล้วจึงจะเก็บสายตาอย่างไม่เต็มใจนัก มือของนางกำหมัดแน่น หมุนศีรษะ จูนหยูนเสวี่ยเห็นเหล่าลูกศิษย์ต่างก็อ้าปากตาค้าง ทันใดนั้นใบหน้าก็บิดเบี้ยว นางกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “ดูอะไรกัน ไม่เคยเห็นผู้หญิงหรือไง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ