บทที่ 266 ผู้กระทำผิดต่อข้า แม้ไกลก็ต้องลงโทษ
แทบจะทันทีที่โม่อู๋เยว่พูดจบ จูนจิ่วเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบแล้วพุ่งออกไป เหลิ่งยวนมองไปที่ด้านหลังของจูนจิ่วด้วยความกังวล อาการบาดเจ็บของแม่นางจูนยังไม่หายเลย!
มองไปที่โม่อู๋เยว่อีกครั้ง เหลิ่งยวนยืนอยู่ในความมืดและถามอย่างระมัดระวัง: “เหตุใดเจ้านายไม่ขัดขวางแม่นางจูน?”
“ขัดขวาง? ขัดขวางไม่อยู่ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใส่ใจในสำนักเทียนอู่จงแล้ว ยิ่งงไปกว่านั้นสำนักเทียนอู่จงเกิดเรื่องเพราะนาง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะต้องสนใจแน่นอน และนางจะแก้วิกฤตของสำนักเทียนอู่จงได้” โม่อู๋เยว่พูด
เขามองต่ำเล็กน้อย ขนตาทั้งดกหนายาวและงอน ลำแสงที่สดใสในดวงตาสีทอง งดงามโดดเด่น พูดถึงจูนจิ่วเท่านั้น ดวงตาสีทองคู่นั้นถึงจะอ่อนโยนและสะดุดตาขนาดนี้ การสนทนาเพียงชั่วพริบตาก็เยือกเย็นเข้ากระดูก หยิ่งผยองและโหดร้าย
โม่อู๋เยว่พูด: “ไปเอาแผนที่ของเจี้ยนจง ตันจง ชางไห่จงมาให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์”
“ขอรับ” เหลิ่งยวนรับคำสั่งออกไป เมื่อได้รับแผนที่ จูนจิ่วถึงจะสะดวกต่อการลงมือกับสามสำนักนี้ เหลิ่งยวนสามารถคาดเดาได้ เวลานี้สามสำนักนี้หาเรื่องสำนักเทียนอู่จง ยังขู่ว่าจะทำลายสำนักเทียนอู่จง เกรงว่าสุดท้ายแล้วคนที่จะถูกทำลาย อาจจะเป็นพวกเขาเสียเอง
เพราะไม่ว่าจะยั่วยุผู้ใด ก็ไม่อาจยั่วยุจูนจิ่วได้ ไม่ควรหาเรื่องผู้เป็นที่รักของเจ้านาย
โม่อู๋เยว่ไม่ได้ไปที่ตำหนักเป่าถังกับจูนจิ่ว หลังจากเหลิ่งยวนออกไป เขาเอื้อมมือไปรินเหล้าให้ตนเอง ทุกท่วงท่า การเคลื่อนไหวมีความสง่างามและสวยงามเหมือนภาพวาด ดวงตาสีทองสดใสด้วยความแวววาวดุจอัญมณี ยกมุมปากยิ้มอย่าเจ้าเล่ห์
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ของเขาเป็นผู้ควบคุมเก่งกาจได้ด้วยตนเองและเลือดเย็น บ้าระห่ำและไร้ความปรานี ความเอาแต่ใจเผ็ดการมีแต่จะทำให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เกลียดเขา ผลักไสเขา หย่อนหน่อยยังจะดีกว่า เวลาที่ควรเอาแต่ใจก็เอาแต่ใจ เวลาที่ควรปล่อยก็ปล่อยแบบไม่สน
เขาต้องการเพียงแค่แทรกซึมเข้าไปในชีวิตของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ว่านางจะทำอะไร ก็มีเงาเขาอยู่ ถ้าพวกเขาไม่ใช่รักแรกพบ งั้นก็คือรักตลอดไป เหมือนๆ กัน!
รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากนั้นเจ้าเล่ห์และเนือยๆ โม่อู๋เยว่พึมพำ: “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าจะจัดการกับสามสำนักนี้อย่างไร?”
ผู้กระทำผิดต่อข้า แม้ไกลก็ต้องลงโทษ!
จูนจิ่วเดินอยู่บนถนนด้วยใบหน้าที่เย็นชา ยังไม่ถึงตำหนักเป่าถัง นางถูกเรียกไว้ก่อน
“อาจารย์อา!” หวางฉี่อ๋างพร้อมกับสาวกกลุ่มหนึ่งเดินไปล้อมรอบจูนจิ่ว ทั่วทุกทิศเปรียบได้กับการฉายแสง X-ray หวางฉี่อ๋างพูดขึ้น: “อาจารย์อาเป็นท่านจริงๆ ด้วย! ในที่สุดท่านก็มา ท่านสามารถออกมาได้แล้ว?”
“ใช่แล้ว! อาจารย์อาท่านควรพักผ่อนให้ดี อาการบาดเจ็บยังไม่หายไม่ควรออกมาตากลม ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
ริมฝีปากจูนจิ่วกระตุก มองไปที่หวางฉี่อ๋างและคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าเศร้าหมองพูดไม่ถูก สามสำนักบีบบังคับสำนักเทียนอู่จง แพร่กระจายไปทั่วสำนักเทียนอู่จงภายในหนึ่งเดือนได้อย่างไร ทุกคนก็รู้
ไม่ส่งตัวนางมา ก็จะทำลายสำนัก!
ปฏิกิริยาแรกของหวางฉี่อ๋างและพวกเขาเมื่อเห็นนางคือการสำรวจดูร่างกายของนาง จากนั้นก็เป็นกังวลแล้วให้นางกลับไปพักผ่อน ไม่มีผู้ใดพูดถึงเรื่องนี้เลย พวกเขายังแน่ใจว่าจูนจิ่วยังไม่รู้ ดังนั้นจึงตั้งใจเร่งให้นางกลับไปพักผ่อน ไม่อยากให้นางรู้
สงบสติอารมณ์ให้นิ่ง ดวงตาของจูนจิ่วเป็นประกายด้วยความอบอุ่น นางพูดขึ้น: “อาการบาดเจ็บของข้าไม่ร้ายแรง ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
“แต่……”
จูนจิ่วรีบขัดจังหวะพูดของหวางฉี่อ๋าง “ข้าไปก่อนแล้ว”
“อาจารย์อาท่านจะไปที่ใด?” ทันทีที่เหล่าสาวกถาม ก็ได้ยินคนคนหนึ่งตื่นตระหนกและกระซิบ: “นั่นคือทางไปตำหนักเป่าถัง”
อะไรนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...