สรุปตอน บทที่27คุกเข่าขอโทษเสีย – จากเรื่อง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
ตอน บทที่27คุกเข่าขอโทษเสีย ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดยนักเขียน ต้าวเมียวเมียว เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่27คุกเข่าขอโทษเสีย
มีคนคิดอยากจะพนันหิน!
เมื่อได้ยินถึงข่าวนี้ผู้คนต่างก็พากันตื่นเต้นค่อยๆรวมตัวตีวงล้อมกันเข้ามาหากจะพูดถึงงานชมหินแล้วสิ่งที่เร้าใจที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นพนันหิน!
“นั่นมันคุณหนูจูนหวั่นเอ๋อร์ไม่ใช่หรือไงกันน่ะ”
“นางเป็นถึงบุตรีของตระกูลจูนแห่งเมืองเฟิงหลัวได้ข่าวมาว่านางเป็นนักจิตชั้นสองอนาคตไปได้ไกล”
“คนที่จะมาแข่งพนันหินกับนางเป็นใครกัน?หืมมก็แค่สาวน้อยคนหนึ่งเท่านั้นยังมีหน้ากล้ามาลงแข่งพนันหินกับคุณหนูจูนหวั่นเอ๋อร์หาเรื่องอับอายขายขี้หน้าแท้ๆ”
เมื่อมองเห็นผู้คนที่พากันล้อมวงเข้ามาต่างพากันชื่นชมยกย่องตัวเองและพากันหัวเราะอย่างดูถูกต่อจูนจิ่วริมฝีปากที่แต่งแต้มไปด้วยสีแดงชาดของจูนหวั่นเอ๋อร์ก็ค่อยๆเผยอฉีกยิ้มขึ้นนางมองไปที่จูนจิ่วด้วยความเคียดแค้นนัยน์ตาเปล่งประกายแฝงไว้ไปด้วยความร้ายกาจและความตื่นเต้นอย่างคันไม้คันมือ
ตอบรับคำท้าก็ดีแล้วตอบรับคำท้าของนางอย่างนี้สินางถึงจะสามารถสั่งสอนให้นังหญิงชั่วคนนี้ได้ลิ้มรสของความพ่ายแพ้ให้นางได้ชดใช้ในสิ่งที่นางก่อเอาไว้!
ยืดอกตั้งตรงท่าทีของจูนหวั่นเอ๋อร์ดูหยิ่งผยอง“เจ้ากับข้าแต่ละคนต่างก็เลือกหินดิบออกมาใครที่สามารถเป็นผู้เปิดหินทิพย์ออกมาได้คนนั้นคือผู้ชนะหากเจ้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เจ้าจะต้องคุกเข่าลงที่พื้นให้กับข้าเริ่มตั้งแต่ตรงนี้เดินไปตามทางที่จะขึ้นเขาและในตอนที่เจ้ากำลังปีนเจ้าจะต้องเอ่ยปากขอโทษข้าไปด้วย”
“เจ้า!”หยูนเฉียวขมวดคิ้วในทันใด
ข้อตกลงในการพนันครั้งนี้มันช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว!คุณหนูจูนผู้นี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจงใจอยากที่จะดูหมิ่นดูแคลนทำความเดือดร้อนให้แก่แม่นางจูนหยูนเฉียวกำลังอยากจะอ้าปากขึ้นทักท้วงเอาไว้แต่จูนจิ่วกลับยกมือห้ามเขาเอาไว้เสียก่อน
“แม่นางน้อยเจ้าเองคงไม่ได้กำลังกลัวและคิดจะปฏิเสธการแข่งพนันหินอยู่หรอกใช่ไหม”จูนหวั่นเอ๋อร์คิดอยากจะพูดจาดูถูกเสียดสีเพื่อหวังให้จูนจิ่วตกปากรับคำแต่ผลที่ได้ก็คือบทพูดยาวเหยียดที่คิดว่าจะเอาไว้ถากถางดูถูกยังไม่ทันได้หลุดออกมาจากปากสักคำจูนจิ่วกลับตอบขึ้นอย่างราบเรียบเพียงคำเดียวว่า“ได้”ซึ่งหยุดคำพูดของนางที่คิดจะพูดลงทั้งหมด
จูนจิ่วชายหางตามองที่จูนหวั่นเอ๋อร์“ถ้าเช่นนั้นก็เหมือนกันหากเจ้าแพ้เจ้าก็ต้องทำตามที่ว่านี้เหมือนกัน”
“แพ้?ไม่มีวันเสียหรอก!”จูนหวั่นเอ๋อร์แสดงท่าทีออกมาอย่างหยิ่งจองหองนางมองไปที่จูนจิ่วอย่างดูถูก“แม่นางเจ้ารอคุกเข่าขอโทษข้าได้เลย!”
เมื่อพูดเสร็จจูนหวั่นเอ๋อร์หมุนตัวพร้อมกับจูนเหลยพากันออกไปสรรหาคัดเลือกหินดิบ
หินขยะ……หินขยะ…หินขยะ……หินทิพย์!
จูนจิ่วหยุดชะงักลงนางค่อยๆกระพริบตาเพื่อหลุดออกจากภวังค์ที่หลุดลอยไปอยู่ในโลกของตัวเองมองไปที่หินดิบที่มีหินทิพย์ซ่อนไว้ศีรษะผู้คนทั้งน้อยใหญ่ยืนดูที่ด้านข้างราคาหนึ่งพันสองร้อย
“เจ้านายท่านอยากได้หินดิบก้อนนี้ใช่หรือไม่”
“ไม่คุณภาพมันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่อยๆหาดูก่อน”จูนจิ่วก้าวเท้าเดินออกไปมองหาในที่อื่น
นางมีพรสวรรค์ประการหนึ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดทำให้นางสามารถมองเห็นถึงแก่นกลางของหินดิบในชาติก่อนนางเคยเข้าร่วมพนันหินหลายต่อหลายครั้งผลก็คือนางถูกกรมธุรกิจค้ามรกตขึ้นบัญชีดำเพราะว่านางทำให้เจ้ากรมธุรกิจมรกตทั้งโกรธทั้งอยากร้องไห้มาไม่รู้ตั้งกี่สมัยไม่ผิดหรอกตั้งกี่สมัยเพราะว่าพ่ายแพ้จนหมดท่าถึงกับต้องเปลี่ยนตัวเจ้ากรมเป็นที่น่าอดสู
รอหยูนเฉียวคัดสรรหินดิบกลับมาจูนจิ่วก็ไม่อยู่ที่เดิมแล้วเมื่อเขาตามมาพบจูนจิ่วก็มองเห็นจูนจิ่วกำลังเลือกหินดิบก้อนที่เจ็ด
หยูนเฉียวสะดุดกึกลงด้วยความประหลาดใจเข้าให้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...