บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 28

สรุปบท บทที่28ขยะเสียจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าขยะอย่างไร: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ

อ่านสรุป บทที่28ขยะเสียจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าขยะอย่างไร จาก บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว

บทที่ บทที่28ขยะเสียจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าขยะอย่างไร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่28ขยะเสียจนไม่รู้ว่าจะเรียกว่าขยะอย่างไร

“เจ้าหาก้อนที่ดีได้หรือยัง”

“มีสิ!”หยูนเฉียวรีบเสนอก้อนที่เขาเป็นคนเลือกมากับมือจูนจิ่วมองแค่ปราดเดียวก็มองเห็นว่ามีหินทิพย์อยู่จริงคุณภาพไม่เลวมองดูก็รู้ว่าหยูนเฉียวตั้งอกตั้งใจคัดเลือกมาอย่างดีแค่ไหน

จูนจิ่วพยักหน้ารับนำก้อนที่หยูนเฉียวเป็นคนเลือกให้เอาไปชำระเงินชั่วพริบตาจูนจิ่วแทบจะไม่ได้กระพริบตาลงเลยด้วยซ้ำเงินสองแสนกว่าก็หลุดลอยออกไปเห็นผู้ดูแลที่กระเดาะลิ้นดังกริ๊กนี่มันเงินก้อนโตชัดๆ!

“แม่นางจูนพวกนี้ก็จะเอาทั้งหมดเลยหรือ”หยูนเฉียวตกตะลึง

“อืมเอาทั้งหมดนั่นละพนันหินเลือกออกมาสักก้อนก็ได้แล้วไปกันเถอะจูนหวั่นเอ๋อร์เองก็เลือกเสร็จแล้วเหมือนกัน”

จูนจิ่วสุ่มหยิบหินดิบก้อนหนึ่งออกมาเดินตรงเข้าไปฝั่งที่กำลังประจันหน้าจูนหวั่นเอ๋อร์เองก็ก้าวเท้าย่างเข้ามาด้วยความอวดดีจูนเหลยที่อยู่ด้านหลังยิ้มให้หยูนเฉียวอย่างเป็นมิตรเมื่อมองไปที่นางสายตากลับแปรเปลี่ยนเป็นความดูถูก

จูนหวั่นเอ๋อร์ทั้งสีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ“แม่นางเจ้าเลือกเสร็จแล้วใช่หรือไม่”

“แกะหินออกเถิด”

งานชมหินตอนสำคัญก็คือวินาทีของการแกะหินออกนี่ล่ะ!

ไม่ว่าเจ้าจะทุ่มเงินลงไปมากน้อยเท่าไหนเมื่อแกะหินออกถึงจะรู้ว่าจะเป็นตาได้หรือเป็นตาเสียดังนั้นที่ด้านข้างของช่างแกะหินมีคนไม่น้อยที่กำลังรวมตัวล้อมวงกันอยู่พวกเขาต่างก็รู้ว่าจูนจิ่วกับจูนหวั่นเอ๋อร์กำลังพนันหินกันมองเห็นพวกเขาที่พากันเดินเข้ามาก็ทำให้บรรยากาศดูครึกครื้นตื่นเต้นยิ่งขึ้น

จูนหวั่นเอ๋อร์ก้าวเท้ายาวๆเดินอยู่ด้านหน้าจูนจิ่วอย่างไว้ท่วงที“แกะหินของคุณหนูผู้นี้ก่อนเถิด”

นางชำเลืองหางตามองผ่านไปที่จูนจิ่วมุมปากฉีกยิ้มอย่างเย็นชาหึ!แม่นางคนนี้เจ้าต้องตายแน่เตรียมตัวคุกเข่าและปีนเขาไปได้เลย

ท่ามกลางสายตาที่จดจ้องมองดูด้วยความสนใจช่างแกะหินค่อยๆแกะหินดิบออกทีละชั้น

จูนจิ่วจ้องมองเขม็งขั้นตอนการแกะหินก็เหมือนกับมรกตแบบเดียวกันนางได้ยินคนรอบข้างกำลังพูดคุยซุบซิบ“พวกเจ้ามาดูเร็วนี่คือปรมาจารย์เหวินจะต้องสามารถนำหินทิพย์ออกมาได้แน่”

“ยังมีมรกตสีเขียวหินทิพย์ก้อนนี้จะต้องคุณภาพดีมากแน่ๆ!ดูท่าพนันหินครั้งนี้คุณหนูหวั่นเอ๋อร์คือผู้ชนะแล้ว”

“คุณหนูหวั่นเอ๋อร์ยังไงก็ชนะแน่นอนเจ้าเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนั้นเกรงว่าจะให้มาพนันหินแบบนี้ความสามารถคงไม่ถึงหรอก”

ได้ฟังผู้คนที่ต่างพากันยกยอชื่นชมจูนหวั่นเอ๋อร์ก็เชิดอกยืดตัวตรงท่าทีดูมั่นใจเป็นมั่นเป็นเหมาะ

“แม่นางคนธรรมดาอย่างเจ้าจะดีใจตื่นเต้นอะไรกัน!”จูนหวั่นเอ๋อร์มองจูนจิ่วอย่างอยากจะกินเลือดกินเนื้อใบหน้าบูดเบี้ยว“เจ้ายังไม่ทันได้แกะหินคุณหนูผู้นี้ไม่มีวันเชื่อว่าคนอย่างเจ้าจะสามารถหาหินทิพย์ออกมาได้คิดใหญ่ใฝ่สูงอยากจะชนะข้า!เจ้าฝันไปเถอะ!”

“หืม?งั้นก็ลองเปิดหินดูเอาแล้วกัน”

จูนจิ่วนำหินดิบของนางส่งมอบให้กับช่างแกะหิน

แค่มองเห็นหินดิบของนางจูนหวั่นเอ๋อร์ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดจาเสียดสี“แม่นางเจ้าคิดว่าหินดิบยิ่งก้อนใหญ่ถึงจะมีหินทิพย์อย่างนั้นใช่ไหม”

จูนจิ่วนำออกมาคือหินดิบที่มีขนาดรูปร่างสูงพอๆกับผู้ใหญ่คนหนึ่งผู้คนจดจ้องกันตาเขม็งและก็พากันหัวเราะชอบอกชอบใจอย่างครื้นเครง

ใครๆก็รู้ว่าการคัดเลือกหินไม่ได้วัดกันที่เรื่องของขนาดแต่ทว่าเป็นเรื่องคุณภาพของหินดิบความสวยงามหรือไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะที่มีความเฉพาะตัวต่างหากเป็นตัวบ่งบอกว่าภายในอาจจะมีหินทิพย์ซ่อนตัวอยู่ก้อนใหญ่เสียขนาดนี้แถมพื้นผิวก็เต็มไปด้วยรูแตกกระเทาะจะมีหินทิพย์อยู่ได้อย่างไรกัน?

ในชั่ววินาทีนั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดูถูกก็ลอยมากระทบหูของจูนจิ่ว

แม่นางคนนี้แพ้อย่างเห็นๆ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ