บทที่ 272 พบพานบนทางแคบ เจ้าสำนักเจี้ยนจง
จูนจิ่วเพิ่งพูดจบ เสี่ยวอู่ก็พุ่งปราดเข้ามาว่องไวปานสายฟ้าเงื้อกรงเล็บอันแหลมคมข่วนครูดเข้าไป เอียดอาด! ชั้นล่างของกล่องแหวกเป็นรอยกรงเล็บสามแถว จูนจิ่วดึงรอยขีดข่วนสามแถวนี้ออก ช่องกั้นถูกแยกออกมาอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นชั้นล่างสุด
และพบว่าข้างใต้มีหลุมแตกอยู่ช่องหนึ่งจริงๆ ด้วย ซึ่งก็คือจุดที่ลูกบอกสีทองขนาดเล็กร่วงออกมา หลังจากลูกบอลสีทองหล่นลงมา ด้านในยังเหลือจดหมายที่พับซ้อนกันอยู่หนึ่งฉบับ
โจ๋วชิวดีใจยิ่งยวด รีบร้อนเอ่ยปาก “นี่จักต้องเป็นจดหมายที่ท่านแม่ทัพกับฮูหยินเขียนทิ้งไว้ให้กับนายน้อยด้วยตัวเองแน่นอน”
จดหมายที่พวกจูนหมิงเย่ทิ้งไว้? เมื่อเทียบกับอาการตื่นเต้นของโจ๋วชิว จูนจิ่วมีท่าทางสงบเยือกเย็น นางหยิบจดหมายขึ้นมาคลี่อ่าน เรียวคิ้วเลิกขึ้นน้อยๆ เนเพียงอักษรสองแถวสั้นในจดหมาย ความว่า “นี่คือทรัพย์สมบัติที่แม่เหลือทิ้งไว้ให้เจ้า เก็บรักษามันไว้อย่างดี อย่าให้ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นเป็นอันขาด”
“เหมียว?” เสี่ยวอู่ปีนป่ายขึ้นมาบนชั้นวางของและได้เห็นข้อความสองแถวนี้เช่นกัน สีหน้าวิฬารของมันตะลึงอึ้งค้าง หมดแค่นี้เองหรือ?
แม้แต่ลูกบอกสีมองลูกนี่คืออะไร มีสรรพคุณอะไรก็ไม่ได้บอกไว้ด้วยซ้ำ! อย่างน้อยก็น่าจะบอกชื่อเรียกพวกเขาหน่อยนี่นา นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่ท่านแม่ของจูนจิ่วทิ้งไว้ให้นาง คงไม่ใช่บทพิเรนทร์ที่เล่นตลกคะนองหรอกกระมัง?
เสี่ยวอู่อดพูดพ่นออกมาไม่ได้ “เจ้านาย หรือนี่หมายความว่าท่านต้องหลอมละลายลูกบอลสีทองลูกนั้นให้กลายเป็นทองคำแล้วใช้แทนเงินกระนั้นเชียวหรือ เหมียว~ไม่ค่อยเข้าใจท่านแม่ของเจ้าของเดิมเลยว่าคิดอย่างไร”
จูนจิ่วไม่ได้ตอบคำถาม นางยกมือขึ้นเขย่าลูกบอลสีทอง ด้านในได้ยินเสียงกรุ้งกริ้งดังอยู่ ด้านในนี้มีของบางอย่าง!
โจ๋วชิวมองเห็นการกระทำของจูนจิ่ว สีหน้าก็ยิ่งซับซ้อนเป็นที่สุด “นี่ก็คือสมบัติที่แม่ทัพกับฮูหยินเหลือทิ้งไว้ให้นายน้อยท่านเชียวหรือ สิ่งที่เทียนฉิวต้องการก็คือของสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน?”
“ตอนนี้ยังไม่ใคร่สะดวกพูด แต่แน่นอนว่าความเป็นไปได้ข้อนี้ค่อนข้างมากทีเดียว สิ่งที่เทียนฉิวต้องการน่าจะไม่ใช่ลูกบอลสีทองลูกนี้ แต่เป็นของด้านในต่างหาก” จูนจิ่วมองลูกบอลสีทองขนาดเล็กอย่างลงรายละเอียด
ลูกบอลสีทองมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นทารก มีความเงามันปลาบแวววาวทั่วตัว วงกลมตรงกลางมีรูเล็กๆ โบ๋กลวง ไม่รู้ว่าสลักอะไรไว้ มองผ่านแสงสลัวๆ สามารถมองเห็นเงาดำจุดหนึ่งที่อยู่ด้านใน จูนจิ่วก็บอกไม่ถูกว่าด้านในคืออะไร
นางคิดจะงัดแงะลูกบอลสีทองใบนี้ แต่กลับพบว่ามันไม่ง่ายดายเลย!
ลูกบอกสีทองขนาดเล็กดูผิวเผินด้านนอกดูเหมือนทองคำ แต่เมื่อสัมผัสจริงๆ แล้วกลับแข็งทนทานเสียส่วนใหญ่ จูนจิ่วฝึกปราณจนถึงวิชาฝึกตนชั้นที่สาม ฝ่ามือประกบกันงัดพลังทั้งหมดมาใช้ก็ไม่สามารถทิ้งรอยประทับบนตัวลูกบอลสีทองได้เลย เมื่อพลิกซ้ายตะแคงขวาดูคร่าวๆ ก็ไม่ค้นพบจุดที่พอแง้มเปิดได้แต่อย่างใดเลย
น่าแปลก แม่ของเจ้าของเดิมเหลือทิ้งลูกบอลสีทองขนาดเล็กไว้ทั้งอย่างนี้ มีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ไม่ได้มีคำแนะนำใดๆ แล้วจะต้องทำอย่างไรจึงจะเปิดมันได้กันเล่า
ขณะที่ครุ่นคิด จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงร้องตะโกนของพวกหวางฉี่อ๋างลอยเข้ามา สีหน้าโจ๋วชิวเครึ่งขรึมทันที “มีเรื่องแล้ว! นายน้อยข้าจะออกไปดูก่อนนะขอรับ” กล่าวจบโจ๋วชิวก็รีบหมุนกายพุ่งออกจากห้องลับทันใด เหลือเพียงจูนจิ่วและเสี่ยวอู่ที่ยืนอยู่ที่เดิม
จูนจิ่วก็ไม่ได้ชะงักงัน ในห้องลับก็ไม่มีใครอื่น นางถกแขนอาภรณ์กวาดข้าวของทั้งหมดเข้าไปในพื้นที่วงแหวนที่โม่อู๋เยว่มอบให้ จากนั้นก็หมุนกาย “เสี่ยวอู่ไปเร็ว”
“เหมียว”
ยามที่พวกจูนจิ่วออกไป หวางฉี่อ๋างก็ได้บอกเล่าสถานการณ์ให้โจ๋วชิวฟังแล้ว เห็นเพียงแต่สีหน้าของโจ๋วชิวเหยเกเป็นที่สุด เขาหมุนกายมองไปทางจูนจิ่ว “นายน้อย ท่านโปรดออกไปจากสำนักเจี้ยนจงโดยด่วนด้วยเถิด!”
เหยียนไห่ได้ยินโจ๋วชิวตะโกนเรียกนายน้อยจูนจิ่ว บัดนั้นพลันตะลึงงันทันใด นายน้อย? นายน้อยจะเป็นจูนจิ่วได้อย่างไรกัน? ไม่ใช่จูนหยูนเสวี่ยหรอกหรือ?
จูนจิ่วว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ทั้งบนล่างสำนักเจี้ยนจงกำลังเสาะหารองเจ้าสำนักกันอยู่ ไม่รู้ว่าพวกเราถูกเปิดโปงแล้วหรือไม่ แต่เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ข้าจักไปส่งท่านลงเขาบัดเดี๋ยวนี้!” เหยียนไห่คืนสติกลับมากลบซ่อนความตื่นตระหนกเอาไว้ เขารีบร้อนปริปากเอ่ยคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...