สรุปเนื้อหา บทที่281 แผนสูง ยั่วยวนเก่ง – บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ โดย ต้าวเมียวเมียว
บท บทที่281 แผนสูง ยั่วยวนเก่ง ของ บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ต้าวเมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่281 แผนสูง ยั่วยวนเก่ง
ซื้อมาจากถนนขายวัตถุโบราณ ขณะที่ปลดล็อกสร้อยข้อมือโดยไม่ได้ตั้งใจ จูนจิ่วพบกับเสี่ยวอู่ อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด สองชาติรวมกันสิบกว่าปี นางกลับไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้ววิญญาณทิพย์ของเสี่ยวอู่ขาดไปครึ่งหนึ่ง!
วิญญาณทิพย์สำคัญมากขนาดไหน จูนจิ่วเข้าใจดี นางก้มหน้าลูบขนของเสี่ยวอู่เบาๆ จูนจิ่วพูดขึ้น: “ตอนที่ข้าเจอมัน มันก็เป็นเหมือนสัตว์แรกเกิด ไม่รู้อะไรเลย สิ่งนี้เกิดจากการสูญเสียวิญญาณทิพย์ครึ่งหนึ่งของมัน ใช่ไหม?”
“ใช่” โม่อู๋เยว่พยักหน้า
ดวงตาสีทองของเขามองไปที่จูนจิ่วอย่างลึกซึ้ง ความสดใสในดวงตาและมีเสน่ห์ ไม่มีใครรู้ความคิดของโม่อู๋เยว่ เพียงแค่พูดกับจูนจิ่ว: “วิญญาณทิพย์ มีเพียงมันเท่านั้นที่จะสามารถหากลับมาเองได้ แต่การหาร่างกายนั้นเป็นเรื่องง่าย จับลูกเสือขาวแรกเกิดมาตัวหนึ่งก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว”
จูนจิ่ว: “……”
หว่าเท่อ?จับลูกเสือขาวแรกเกิดเป็นเรื่องง่าย? เสือขาว คือเสือขาวสี่สัตว์แห่งเทพในตำนานที่นางเข้าใจสินะ นี่มันดูง่ายตรงไหน!
“แต่สี่สัตว์แห่งเทพในตำนานที่มีเลือดบริสุทธิ์นั้นสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว สามารถหาลูกหลานของเสือขาว เช่นนี้ก็สามารถหล่อเลี้ยงวิญญาณทิพย์ครึ่งหนึ่งของมันได้ จะไม่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก” สายตาของโม่อู๋เยว่เหลือบมองไปที่เสี่ยวอู่ที่อยู่ในอ้อมแขนของจูนจิ่วอย่างเย็นชา
ลูกหลานของเสือขาวนั้นหาได้ไม่ง่ายนัก แต่ในวังของเขามีผ้าห่มหนังเสือขาวมากมาย อย่างไรก็ตามเสี่ยวอู่มีความสำคัญต่อเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาก เขายินดีที่จะใช้เวลาตามหามัน
จูนจิ่วเงียบอยู่ครู่หนึ่ง นางกำลังคิดถึงบางสิ่งที่ถูกนางละเลยมาตลอด เสี่ยวอู่ไม่ใช่แมวหรือ? ทำไมต้องหาเสือขาวแรกเกิดหรือลูกหลาน? ย้อนนึกไปถึงตอนที่เสี่ยวอู่กลายร่างเป็นตัวใหญ่ ลักษณะที่สง่าผ่าเผย จูนจิ่วก้มมองเสี่ยวอู่ นางเอื้อมมือไปบีบอุ้งเท้าของเสี่ยวหวู่
พอพินิจพิเคราะห์ดู จูนจิ่วเข้าใจแล้ว จริงๆ แล้วแมวของนางซ่อนความลับเล็กๆ น้อยๆ มาโดยตลอด ความลับนี้โม่อู๋เยว่ก็รู้ แต่นางไม่รู้เลย
อยากจับเสี่ยวอู่มาปู้ยี่ปู้ยำสักที แต่มองไปที่เสี่ยวอู่ที่นุ่มนิ่มและหดตัวกลม จูนจิ่วถอนหายใจและยกมือแล้วลดมือลง สุดท้ายก็ทำได้เพียงกอดรัดแมวอย่างนุ่มนวล ความลับเล็กๆ น้อยๆ ก็คือความลับเล็กๆ น้อยๆ นางจะคอยดูเมื่อไหร่เสี่ยวอู่จะเก็บซ่อนไม่อยู่ หางโผล่ออกมา?
ส่วนวิญญาณทิพย์ของเสี่ยวอู่ที่หายไปครึ่งหนึ่งและการค้นหาร่างกายนั้น จูนจิ่วได้ให้ความสนใจไว้ในใจแล้ว
โม่อู๋เยว่: “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์?”
จูนจิ่วเงยหน้า สบตากับดวงตาสีทองของโม่อู๋เยว่ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสีทองที่งดงามดูดผู้คนราวกับอยู่ในวังวน ขนตากระพือเบาๆ จูนจิ่วไม่ได้สับสน เต็มไปด้วยสติ “มีเรื่องอะไร?”
“เหลิ่งยวนพูดผิดไปคำหนึ่ง ข้าไม่ใช่คนที่แบ่งแยกชายหญิง แต่กำลังรอคนคนหนึ่งมาโดยตลอด รอใครสักคนที่ทำให้ข้าริเริ่มเข้าใกล้ก่อน ใกล้ชิดกับนาง ก่อนที่จะพบกับนาง คนที่ไม่สำคัญไม่มีสิทธิ์ทำให้ข้าเสียเวลา”
ยิ้มงดงามดั่งปีศาจนำภัยพิบัติมาสู่ประเทศชาติและพลเมือง ทุกรอยยิ้มล้วนเป็นการกระทำที่ยั่วยวนในระดับของหายนะ
โม่อู๋เยว่พูดต่อ: “ตอนนี้ข้าได้พบแล้ว มีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถทำให้ข้าเสียเวลา ฟุ่มเฟือยได้อย่างเต็มที่”
จูนจิ่ว: ……อ่อนระทวย ขาอ่อนแรงแล้ว!
เหลิ่งยวน: ……แม่เจ้า เจ้านายแผนสูง หยอกเย้าเก่ง! ทั้งๆ ที่ตอนแรกถูกกำหนดให้เดียวดาย ยังอยากจะกินวิญญาณทิพย์ของแม่นางจูน ตอนนี้ หยอกเย้าเก่งมากขึ้นทุกวัน เรื่องของความรู้สึกสามารถเข้าใจได้ด้วยตนเองโดยไม่มีครูจริงๆ งั้นหรือ?
จูนจิ่วกอดรัดแมวอยู่หลายที ทำให้หัวใจที่เต้นแรงตุ๊บๆ ผ่อนคลายลง นางพูดขึ้นเสียงเบา: “รอคอยอยู่ตลอด? ไม่กลัวพลาดไปหรือ”
“ไม่มีทางพลาด”
“ใช่! ชางไห่จงเล็กๆ วิธีนี้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาไม่อยากที่อยากจัดการกับสำนักเทียนอู่จง ถ้านางฉลาดและรู้สถานการณ์ จะต้องรู้อยู่แล้วว่าควรหัวหดเหมือนเต่าซ่อนตัวเอาไว้ให้ทันเวลา หากยังไม่รู้ว่าตายหรืออยู่ งั้นก็ให้เจริญรอยตามเจี้ยนจง” ทันทีที่เปลี่ยนเรื่องคุย จูนจิ่วพูดต่อ: “จากนั้นวางกับดักให้กับชางไห่จง ขุดหลุมให้กับตันจง”
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะทำอย่างไร?” โม่อู๋เยว่นั่งอยู่ข้างกายจูนจิ่ว ดวงตาสีทองแสดงออกถึงความสนใจ
จูนจิ่ว: “เจ้าบอกว่ามีข่าวจากเจี้ยนจงและชางไห่จง พวกเขาร่วมมือกันก็ไม่สามารถจับข้า หรือฆ่าข้าได้ ในทางตรงกันข้ามถูกข้าฆ่าเจ้าสำนักตายไปสำนักหนึ่ง แล้วถูกข้าทำให้ติดอยู่ในสำนักไม่สามารถขยับได้ ตันจงจะทำอย่างไร?”
“ตันจงไม่มีทางหยุด” ขณะที่จูนจิ่วกำลังจะไปที่อู๋จง ข้อมูลทั้งหมดของอู๋จงก็อยู่ตรงหน้าโม่อู๋เยว่แล้ว ขณะนี้ค้นหาข้อมูลข่าวสารของตันจงในหัว การดูถูกอันสูงส่งและหยิ่งผยองฉายขึ้นภายใต้สายตาของโม่อู๋เยว่ ดันเป็นมดปลวก ชอบแสวงหาความตายเป็นที่สุด
จูนจิ่วผงกศีรษะ
แม้ว่าตันจงจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทั้งห้าสำนัก แต่ตันจงในฐานะฐานพักนักกลั่นยา นักกลั่นยามีค่ามาก ตำแหน่งไม่ธรรมดา หลายปีมานี้ตั้งแต่เจ้าสำนักสู่ศิษย์ธรรมดา แม้กระทั่งชาวเมืองที่อยู่ตีนเขา ก็ยังหยิ่งผยอง ยโสโอหังอย่างยิ่ง
กล่าวได้ว่าทั่วทั้งตันจงต่างได้รับการประจบสอพลอ เลียแข้งเลียขาและได้รับปกป้องจากนักจิต เป็นผลทำให้พวกเขาไม่ไว้หน้าใครเลย จริงๆ แล้วพวกเขาหยิ่งผยองกว่าเจี้ยนจง
บทเรียนก่อนหน้านี้จากเจี้ยนจงและชางไห่จง ไม่เพียงพอที่จะทำให้ตันจงกลัวจนหยุด กลับจะทำให้ตันจง หยิ่งผยองมากขึ้น เพราะหากพวกเขาจับจูนจิ่วได้ ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้ล้ำหน้าเจี้ยนจงที่แข็งแกร่งที่สุดในอู๋จงนี้ ชื่อเสียงและความปรารถนาจะทำให้ตันจงพยายามทำให้ดีที่สุด และต้องจับจูนจิ่ว
จูนจิ่วหรี่ตาเล็กน้อย รอยยิ้มทะนงเกรี้ยวกราด ที่มุมปาก นางพูด: “เจี้ยนจงและชางไห่จง ข้าไม่สนใจ แต่ตันจง ข้าจะคอยดูฐานพักของนักกลั่นยาที่ว่า จะเก่งขนาดไหน? ทั่วทั้งตันจง จะสามารถแข่งกับข้าจูนจิ่วหมอเทวดาได้หรือไม่?”
“แข่งกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ พวกเขาไม่คู่ควรพอ” โม่อู๋เยว่ตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...