บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 306

บทที่ 306 ไอ้หน้าโง่ผู้เร่าร้อน

“ไม่รู้สำนักไท่ชูจะจัดการพวกเขาเช่นไร แต่ข้าได้ยินมาว่าจูนจิ่วแห่งสำนักเทียนอู่จงนั้น แม้เพิ่งอายุสิบห้า แต่รูปโฉมงดงาม ไร้ผู้เปรียบเทียบ!”

“ไร้ผู้เปรียบเทียบ น่าขันนัก ทาสที่มาจากพื้นที่ในห้าสำนักสิบแคว้นอยู่ที่นี่จะกล้าเรียกว่าไร้ผู้เปรียบเทียบได้เช่นไร เทียนซูหงยิง,จื่อเซียวปี้เยว่ อีกอย่างหยุนหนีแห่งไท่ชูของข้ามิใช่งดงามล่มเมือง หนึ่งในแผ่นดินผู้หนึ่งหรือ จูนจิ่วยามเผชิญหน้ากับพวกนาง อย่างมากเป็นสาวใช้รูปโฉมงดงามเท่านั้น”

เสี่ยวอู่เพียงฟัง คำรามพร้อมโค้งตัวขึ้น เจ้านายของมันคือสาวใช้รูปโฉมงดงาม? นี่คงตาบอดแล้วสินะ!

“เสี่ยวอู่” จูนจิ่วเอ่ยเสียงแผ่วเบา ยื่นมือลูบหลังเสี่ยวอู่เบาๆ ทำให้มันสงบลง ก่อนนั่งลงบนโต๊ะฟังคำนินทาต่อไป

แม้คำนินทาเหล่านี้จะดูไร้ประโยชน์ แต่จูนจิ่วก็ยังเข้าใจ

สาวงามที่มีชื่อเสียงดังดอกฝิ่น ขณะเดียวกันมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน! ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับนางหรือไม่ ล้วนจำต้องเก็บสลักไว้ในใจและจะได้เตรียมพร้อมไว้เผื่อยามจำเป็น

เอ่ยถึงสาวงาม ทุกคนในห้องโถงใหญ่ต่างถกเถียงกันขึ้นมา พวกเขาเอ่ยว่า “ไม่รู้จะมีวาสนาได้เห็นหยุนหนีหรือไม่ ลือกันว่าหยุนหนีคือคนดุจเทพธิดาบนพระจันทร์ นางคือบุตรหลานของผู้อาวุโสแห่งสำนักไท่ชู สถานะสูงส่งไม่ธรรมดา”

“นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย การแข่งขันของศิษย์ประตูนอกในปีนี้ ศิษย์พี่หยุนหนีเป็นผู้ดำเนินการ หากพวกเจ้าการรับเชิญเข้าชมการแข่งขัน ย่อมสามารถเห็นรูปโฉมที่งดงามของศิษย์พี่หยุนหนีได้!” ศิษย์ประตูนอกของสำนักไท่ชูเอ่ยขึ้น

“การรับเชิญให้เข้าร่วมชมการแข่งขัน นี่ยากที่จะจัดการยิ่งนัก” ทุกคนเกรงใจ

แม้พวกเขาจะเกิดในเมืองไท่ชู ที่มีระยะห่างจากสำนักไท่ชูไม่มาก แต่ตรงกลางขั้นด้วยคูน้ำสายหนึ่ง จึงไม่สามารถเข้าไปได้!

ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการชมการแข่งขัน ทุกคนทำได้เพียงถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

มีคนแสดงความคิดเห็นขึ้นว่า “ได้รับเชิญให้เข้าชมการแข่งขันมีเพียงศิษย์ของสำนักไท่ชู และเจ้าเมืองไท่ชูสินะ คนธรรมดาอย่าคิดเข้าไปเลย”

เมืองไท่ชูมีเจ้าเมือง และมีขุนนางจำนวนไม่น้อยที่ลงหลักปักฐานอยู่ในเมืองไท่ชู แต่ขุนนางเหล่านี้ไม่คล้ายกับในสิบแคว้นที่มีทั้งอำนาจลาภยศ ที่นี่พวกเขาเป็นเพียงแหล่งกำเนิดศิษย์ของสำนักไท่ชู มีโอกาสมากกว่าคนธรรมดา

การรับศิษย์ของสำนักไท่ชูเคร่งครัดอย่างมาก จำต้องเป็นนักจิตขั้นสาม จึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่ประตูนอก และการทดสอบพรสวรรค์ ขั้นที่สาม สีเหลืองเท่านั้นจึงจะมีคุณสมบัติเข้าสู่ประตูชั้นใน ขั้นที่หนึ่ง สีแดง และขั้นที่สอง สีส้มเพียงแตกต่างจากนักการประตูนอกและลูกศิษย์เท่านั้น

การแข่งขันของลูกศิษย์ประตูนอก คือการให้โอกาสศิษย์ประตูนอกได้เข้าสู่ประตูชั้นใน แต่พรสวรรค์ของพวกเขาติดอยู่ที่ใดกัน ปีปีหนึ่งคนที่โชคดีผ่านการแข่งขันเข้าสู่ประตูชั้นในมีไม่เกินสามคน! จากเรื่องนี้พบว่า ประตูชั้นในของสำนักไท่ชูดุจบนฟ้าและใต้ดิน สำนักที่เหลืออีกสองแห่ง ต่างต้องมีกฎเกณฑ์เช่นนี้

จูนจิ่วเรียบเรียงข้อมูลจากคำพูดของพวกเขา ขณะกำลังฟัง จู่ๆ ภายในห้องโถงใหญ่แปลกไปคล้ายกดปุ่มหยุดไว้ชั่วขณะ เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังใกล้เข้ามาจากด้านนอก ยิ่งใกล้เข้ามา ห้องโถงใหญ่ยิ่งเงียบงัน

เถ้าแก่ของภัตตาคารรีบร้อนเดินออกมา “ที่แท้คือคุณชายจูเก่อชิวนี่เอง เรียนเชิญขอรับ ขออภัยที่ออกมาต้อนรับช้าขอรับ เชิญคุณชายจูเก่อชิวที่ห้องพิเศษด้านบนขอรับ อย่าให้ความสกปรกที่ห้องโถงแปดเปื้อนรองเท้าของท่านเลยขอรับ”

“ไสหัวไป!” เสียงหยิ่งยโส ยังแฝงด้วยความตึงเครียด

เสี่ยวอู่แตะกรงเล็บลงบนหลังมือของจูนจิ่ว ก่อนเอ่ยเรียกขึ้น “เจ้านาย มีคนโง่ตรงมาที่ท่านแล้ว!”

จูนจิ่วเงยหน้ามองอย่างเย็นชา เมื่อเห็นชายหนุ่มจูนจิ่วชะงักอย่างแปลกใจ เร่าร้อนเสียจริง! ชายหนุ่มสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กว้าง...ประมาณหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร และยังรูปโฉมราวสุกร ดวงตาเล็ก จมูกใหญ่ ปากบวมดุจไส้กรอก

เดินตรงเข้ามาที่จูนจิ่ว ดวงตาคู่เล็กเปล่งประกายสกปรก เดินพลางยกมือเช็ดน้ำลายที่มุมปาก ทุกคนในห้องโถงใหญ่เงียบงัน แต่พวกเขามองมายังทิศเดียวกับชายหนุ่ม เมื่อเห็นจูนจิ่วต่างหยุดหายใจ

งามยิ่งนัก!

เมื่อครู่เพิ่งเอ่ยถึงเทพธิดาบนพระจันทร์ ตอนนี้ถูกจูนจิ่วที่อยู่ตรงหน้าปลิดชีพจนกลายเป็นเศษธุลี!

กุหลาบสวยสดเปล่งประกาย งามอย่างหยิ่งยโสดุร้าย เมื่อสบกับดวงตาเย็นชาดังเกล็ดน้ำแข็งของนาง เลือดทั่วร่างกายต่างแข็งตัว แต่หัวใจเต้นแรงอย่างสับสน ไร้หนทางที่จะละสายตาได้ ‘โดดเด่นเป็นหนึ่งในโลก’ สิ่งนี้ควรคือคำบรรยายของนาง

สาวงามเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เหตุใดพวกเขาจึงไม่เคยได้ยิน และพบพานมาก่อน! นางคือผู้ใด?

ขณะตกตะลึง หลังได้สติกลับมาเห็นชายหนุ่มปรี่ตรงไปที่จูนจิ่ว สายตาของทุกคนอดเปิดเผยความเสียดาย สงสาร เห็นใจออกมาไม่ได้ จูนจิ่วได้ยินพวกเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “หมดกัน ถูกอันธพาลจูเก่อชิวผู้นี้ต้องตาเสียแล้ว เกรงว่าคงมีชีวิตอยู่ไม่เกินคืนนี้!”

“จูเก่อชิวชื่นชอบเล่นสนุกกับสิ่งสวยงามที่สุด ไม่เกี่ยงว่าชายหรือหญิง สาวงามผู้นี้ถูกตาเขา เฮ้อ น่าเสียดาย ผู้ใดให้จูเก่อชิวเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองไท่ชู ผู้ใดต่างไม่กล้ามีเรื่องกับเขา!”

จูเก่อชิว? ลูกบอล? จูนจิ่วยิ้มเย็นชา ชื่อนี้เรียกได้ว่าใกล้เคียงอย่างมาก คือลูกบอลที่ทั้งอัปลักษณ์และอ้วนกลม และไม่รู้ไม่มองรอยยิ้มของนาง จูเก่อชิวหยุดน้ำลายไหลไม่ได้ งดงามยิ่งนัก! ชายหญิงทั้งหมดที่เขาเคยชื่นชมรวมกันต่างงดงามไม่ได้แม้แต่ครึ่งเดียวของนาง

จูเก่อชิวเลียริมฝีปากบวมใหญ่ ก่อนเดินสาวเท้าเข้าไป เมื่อเขายืนอยู่ตรงหน้าจูนจิ่ว แสร้งกล่าวยิ้มๆ เช่นสุภาพชนที่ตนคิด “คนงาม ข้าเห็นเจ้านั่งเหงาอยู่คนเดียวอยู่ที่นี่จากด้านนอก ข้าจึงปวดใจยิ่งนัก จึงคิดสนทนาเป็นเพื่อนเจ้า พร้อมเล่นสนุก เจ้าคิดเช่นไร?”

ดวงตาจูเก่อชิวสอดส่องบนกายจูนจิ่ว เขาคิดนั่งลงข้างกายจูนจิ่ว มือใหญ่ดุจหัวหมูยื่นออกมาหมายลูบไล้มือของจูนจิ่ว เสี่ยวอู่จึงกางกรงเล็บออกมา ข่วนจนจูเก่อชิวตกใจถอยหลังไป

เขาคิดอยากเรียกคนมาสังหารแมวตัวนี้ แต่เมื่อเห็นว่าแมวขาวมีคนงามกอดอยู่ จูเก่อชิวพลันเปลี่ยนท่าที เบะปากยิ้มราวกับหมู “สมกับเป็นแมวของคนงาม มีเอกลักษณ์ยิ่งนัก!”

“ถุย!” เสี่ยวอู่ทำท่าทางราวถ่มน้ำลาย เอกลักษณ์? รอให้ข้าสังหารคนโง่เช่นเจ้า ถือว่ายิ่งจะมีเอกลักษณ์!

จูนจิ่วพาดปลายนิ้วบนแผ่นหลังเสี่ยวอู่ มองคล้ายกำลังลูบไล้เสี่ยวอู่ แต่ความจริงกำลังกดไม่ให้เสี่ยวอู่พุ่งเข้าไปสังหารหมู เมื่อเงยดวงตาเย็นชา จูนจิ่วมองจูเก่อชิวราวธาตุอากาศ ก่อนเอ่ยขึ้น “เจ้าคิดสนทนาเป็นเพื่อนข้าเช่นไร เล่นสนุกสิ่งใด?”

ชิ!

ทุกคนต่างได้ยิน จึงสูดลมหายใจ เบิกตากว้าง สาวงามผู้นี้เสียสติแล้วหรือ? หรือนางไม่ได้ยินพวกเขาถกเถียงกันเมื่อครู่ หรือตักเตือนหรือ?

จูเก่อชิวเบิกบานใจ ไม่คิดว่าสาวงามจะเป็นฝ่ายรุก! ที่แท้ภายนอกเย็นชา แต่ความจริงกลับฮิฮิ จูเก่อชิวเช็ดน้ำลาย นั่งลงตรงข้ามกับจูนจิ่วพร้อมจ้องตานาง “คนงามต้องการเล่นสนุกเช่นไร ข้าล้วนยินดี คนงาม ข้าคือบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าเมืองไท่ชู เพียงเจ้าอยากเล่นสนุก ข้าล้วนสามารถพาเจ้าไปได้!”

“จริงหรือ?”

“ไม่ผิด คนงามเจ้ารีบเอ่ยมาเถิด!” จูเก่อชิวตบที่หน้าอก ด้วยท่าทางมั่นใจ

จูนจิ่วหลุบตาก้มหน้าลง เอ่ยอย่างเย็นชา “ที่นี่คนเยอะเกินไป พวกเราออกไปคุยกันเป็นเช่นไร?” คนโง่เร่าร้อนเสียจริง จูนจิ่วรู้สึกตนต้านทานไม่ไหว มองนานไปล้วนรู้สึกใกล้ตาจะบอด

จูเก่อชิวได้ยินยิ่งดีใจ รีบพยักหน้าไม่หยุด “ดีๆ คนงามพวกเราไป!”

ทุกคนมองสาวงามโดดเด่นนั้น เดินออกไปกับอันธพาลโง่เขลาที่ชื่อเสียงโด่งดังเช่นจูเก่อชิวอย่างตกตะลึง ทันใดนั้นทุกคนรู้สึกราวถูกสายฟ้าฟาดลงมา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ