บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 318

บทที่ 318 ศิษย์น้อง ช่วยด้วย

ดาบเดียวฆ่านักจิตชั้นเก้า แม้จะเป็นนักจิตใหญ่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ นอกจากจะมีพลังสูงส่งเหมือนกับเจ้าสำนักศึกษาอย่างนั้นจึงจะเรียกว่าปกติได้ แต่ว่าจูนจิ่วไม่ได้เป็นนักจิตใหญ่ แต่เป็นแค่นักจิตชั้นสามเท่านั้น หน่วยกล้าตายตกใจจริงๆ กลับถูกจูนจิ่วฆ่าอย่างง่ายดาย

ที่จริงหากพวกเขาร่วมมือกันต่อสู้ละก็ ทุกคนต่างเป็นมากกว่านักจิตชั้นสี่ จูนจิ่วคงฆ่าพวกเขาไม่ได้ง่ายดายเช่นนี้

จัดการนักฆ่าคนสุดท้ายแล้ว จูนจิ่วเลิกคิ้วน้ำเสียงซับซ้อน “เจ้านักฆ่าพวกนี้ไม่ไหวจริงๆ”

“เป็นเจ้านายที่ร้ายกาจเหมียว”เสี่ยวอู่เลียคราบเลือดที่มุมปาก เงยหน้ามองจูนจิ่วด้วยตาแมวที่เป็นประกาย แสดงความนับถืออย่างมากล้น ชื่นชมเจ้านายว่าเก่งที่สุดอยู่ตลอด

จูนจิ่วยิ้มกำลังจะตอบเสี่ยวอู่ นางก็หันไปมองยังนอกลานบ้านอย่างกะทันหัน ผ่านแสงจันทรา นางเห็นเพียงชายเสื้อเท่านั้น แต่เห็นเพียงชายเสื้อ ก็เพียงพอที่จูนจิ่วจะรู้ได้แล้วว่าคนที่มาเป็นใคร ที่แท้ก็ “ศิษย์พี่มู่”

“ข้าเอง”มู่จิ่งหยวนออกมาจากเงามืด

เขาหยุดยืนอยู่หน้าจูนจิ่ว เห็นเสื้อผ้ากระโปรงมีคราบเลือดเปื้อนอยู่ จากนั้นก็มองไปยังเสี่ยวอู่ หนึ่งคนหนึ่งแมวต่างไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แต่ลมหายใจแรงๆยังไม่มี จากนั้นก็มองไปยังศพที่เกลื่อนพื้น สีหน้าของมู่จิ่งหยวนนิ่งอึ้งไป

ฝู้หลินจ้านชื่นชมจูนจิ่วนักหนาว่าร้ายกาจจนน่าตะลึง เขายังมีท่าทีสงสัยอยู่บ้าง หลังจากได้พบก็รู้สึกว่าจูนจิ่วฉลาดไม่ธรรมดา ตอนนี้เห็นแล้วยิ่งร้ายกาจจนน่าตะลึงจริงๆ ร้ายกาจจนไร้คำพูด

ตอนที่เขามาจูนจิ่วได้ฆ่านักจิตชั้นเก้าไปแล้ว ขณะที่กำลังถือดาบไล่ฆ่านักฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวราวกับหั่นผักก็ไม่ปาน เดิมทีมู่จิ่งหยวนยังคิดจะเข้าไปช่วยเหลือจนลืมไปว่าตัวเองมาทำอะไร จากนั้นก็ได้ยินจูนจิ่วเรียกเขา จึงได้สติคืนมา

มู่จิ่งหยวนอ้าปาก น้ำเสียงซับซ้อน “ข้าไม่ได้ไปไกลนัก รู้สึกได้ถึงการมาของนักฆ่าพวกนี้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวเลยรีบมาที่นี่ ไม่คิดว่าเจ้าจะจัดการเองหมดแล้ว”

“อืม”จูนจิ่วตอบเบาๆ เก็บดาบมองไปยังมู่จิ่งหยวน

บรรยากาศแข็งๆอยู่บ้าง มู่จิ่งหยวนหาเรื่องสนทนา “ศิษย์พี่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาเป็นใคร ทำไมต้องมาลอบสังหารเจ้า”

“ศิษย์พี่มู่เดาไม่ออกหรือว่าพวกเขาเป็นใคร มีการเตรียมการก่อนจะมา เปลี่ยนชุดเพื่อปิดบังสถานะมาฆ่าข้า นอกจากเจ้าเมืองไท่ชูแล้วจะมีใคร ”จูนจิ่วพูด

สีหน้าของมู่จิ่งหยวนเปลี่ยนไป น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงด้วยความโมโห “เจ้าเมืองไท่ชูช่างบังอาจเกินไปแล้ว จูนจิ่วเจ้าวางใจได้ เรื่องนี้ข้าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้พวกเจ้าเอง”

จูนจิ่ว “ไม่ต้อง ศิษย์พี่มู่ก็แค่ทำเหมือนว่าวันนี้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น และก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้น นักฆ่าที่เจ้าเมืองไท่ชูส่งมาหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขากลัวลูบหน้าปะจมูกและคงไม่กล้าทำอะไร กลับกันถ้าหากศิษย์พี่มู่ให้คนไปจับตัวเขามาถาม กลับทำให้เจ้าเมืองไท่ชูยิ่งไม่ยอมวางมือง่ายๆ”

มู่จิ่งหยวนฟังแล้วเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

จูนจิ่วพูดไม่ผิด ไปหาเจ้าเมืองไท่ชู เขาสามารถที่จะปฏิเสธหลังจากนั้นก็ส่งคนมาฆ่าพวกจูนจิ่วอีก ไม่สู้ฟังที่จูนจิ่วบอก ไม่สนใจไม่ไถ่ถาม เจ้าเมืองไท่ชูคงอยู่ไม่สุข ในระยะเวลาสั้นๆนี้คงไม่กล้าลงมืออีก อย่างนี้จูนจิ่วกับชิงหยู่คงปลอดภัยขึ้นบ้าง

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีการของจูนจิ่วนั้นสมบูรณ์ไร้ที่ติ ที่สุดมู่จิ่งหยวนก็พยักหน้า “ได้ ทำตาที่เจ้าบอกแล้วกัน เรื่องคืนนี้มีแต่ข้ากับเจ้า กับศิษย์พี่ชิงหยู่ของเจ้าเท่านั้นที่รู้ แต่ว่าเจ้าเมืองไท่ชูรู้ว่าเป็นที่นี่ เพื่อป้องกันการลอบสังหารครั้งหน้า ไม่สู้พวกเจ้าเปลี่ยนสถานที่ใหม่เถอะ”

รู้ความหมายของมู่จิ่งหยวนที่ไม่ได้พูด เหมือนคิดจะช่วยพวกเขาเปลี่ยนสถานที่ จูนจิ่วสายตาเย็นชา

ปฏิเสธอย่างห่างเหินเย็นชา “ไม่จำเป็น”

ถูกคนลอบฆ่ากลัวจนต้องเปลี่ยนสถานที่ นางเป็นหมอเทวดาจูนจิ่วไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น และอีกไม่ช้าเจ้าเมืองไท่ชูก็จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ฉะนั้นก็ไม่จำเป็นไม่ต้องการ

คุ้นชินกับจูนจิ่วที่เห็นด้วยมาตลอด ถูกปฏิเสธกะทันหันมู่จิ่งหยวนรู้สึกไม่สบายใจ เขาคิดแล้วพูดว่า “เช่นนั้นข้าช่วยเจ้าจัดการศพเหล่านี้แล้วกัน ”

“ได้”

มู่จิ่งหยวนเข้าใจทันที บางเรื่องที่สามารถแอบอู้ได้ หรือเรื่องที่จูนจิ่วขี้เกียจจะไปจัดการนางจะเห็นด้วยไม่ปฏิเสธ แต่บางเรื่องที่สำคัญ จูนจิ่วจะปฏิเสธ มู่จิ่งหยวนเข้าใจแล้ว นัยน์ตามีแววยิ้ม จูนจิ่วช่างไม่ธรรมดาจริงๆ

ที่มู่จิ่งหยวนบอกว่าจะช่วยจูนจิ่วจัดการกับศพ คือการเรียกลูกศิษย์ที่เขาเชื่อใจมาเคลื่อนย้ายศพออกไป แต่ว่าคราบเลือดบนพื้นไม่สามารถทำให้หายไปได้ในเวลาสั้นๆ

มู่จิ่งหยวน “ข้าจะสั่งให้ผู้ดูแลหวางไม่ให้มารบกวนพวกเจ้าในช่วงนี้ จะไม่มีใครมาที่นี่ ฉะนั้นจูนจิ่วเจ้ากับศิษย์พี่ของเจ้าพักผ่อนให้สบาย ส่วนเจ้าเมืองไท่ชู ข้าจะให้คนจับตาดูเขาไว้”

พูดจบก็ไม่รอดูท่าทีเย็นชาเหินห่างของจูนจิ่วที่จะไล่เขาไป มู่จิ่งหยวนก็ชิงจากไปก่อน ตอนนี้เริ่มมีแสงสว่างจากท้องฟ้า เช้าแล้ว

ข้างเท้า เสี่ยวอู่ยืดหลังบิดขี้เกียจพูดอย่างไม่มีความสุข “อารมณ์ไม่ดี เหมียว ไม่ได้นอนทั้งคืน โมโห ”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้านอนอยู่ที่นี่เถอะ รอข้ากลับมา”

“เหมียว”เสี่ยวอู่ลุกขึ้น เบิกตากว้าง “เจ้านายจะออกไปหรือ”

“เจ้าเมืองไท่ชูยังรอนักฆ่าของเขากลับไปส่งข่าว แม้ว่าข้าจะพูดไม่ผิด ในเวลาสั้นๆนี้เจ้าเมืองไท่ชูคงไม่กล้าลงมือ แต่อีกไม่นานก็จะเป็นการแข่งขันของลูกศิษย์ หลังจากที่ข้าทุ่มเทในการแข่งขันแล้วก็จะไปตามหาวิชาฝึกร่างกายชั้นที่สี่ หลังจากนั้นคงไม่มีเวลามาจัดการกับเจ้าเมืองไท่ชู และก็ไม่คิดอยากจะทิ้งสาเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้ไม่มั่นคงไว้ที่นั่น ”จูนจิ่วพูด

การคาดเดามีความเป็นไปได้สองทาง

หากเมื่อคืนเจ้าเมืองไท่ชูไม่ส่งคนมาลอบสังหาร เรื่องนี้ก็จบลงแค่นี้ แต่เขาส่งคนมา เช่นนั้นนางคงต้องถอนรากถอนโคนไม่ให้เหลือเป็นภัยในภายหลัง

เสี่ยวอู่ “เช่นนั้นท่านจะไปฆ่าเจ้าเมืองไท่ชูหรือ”

“ ไม่ฆ่าเขา ใช้ยาหุ่นเชิดทำความเข้าใจสักหน่อย”จูนจิ่วพูดจบก็หมุนตัวไป ฟ้าใกล้สาง จูนจิ่วประสานสายตากับโม่อู๋เยว่ไกลๆ

โม่อู๋เยว่ที่เปิดหน้าต่างยืนอยู่ตรงนั้น เป็นภาพที่สวยที่สุดดึงดูดวิญญาณมากที่สุดบนโลกนี้ที่สีสันจะแต่งแต้มลงไปได้ อย่าว่าแต่ธรรมดาเลย ทุกคนต่างมีผมดำตาดำ โม่อู๋เยว่ก็ชนะทุกคนบนโลกนี้ได้ ไม่มีใครเทียบความงามของเขาได้แม้แต่นิดเดียว

“ปีศาจ”จูนจิ่วพึมพำหนึ่งคำ สองมือไขว้หลังเดินไปพูดว่า “อู๋เยว่ จะออกไปข้างนอกกับข้าหรือไม่ พวกเราไปด้วยกัน ท่านเองก็ไม่ต้องคอยตามถ้ำมองข้าอยู่ในเงามืด”

“ถ้ำมอง ข้ามองเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อย่างเปิดเผยนะ”โม่อู๋เยว่ยิ้ม รอยยิ้มปีศาจชัดๆ

เขาขยับตัวแวบเดียวก็ไปยืนอยู่หน้าจูนจิ่ว เขากางแขนออก “ข้าอุ้มเจ้าไป รีบไปรีบกลับ อย่างนี้เจ้าจะได้พักผ่อนเช้าๆ”

“ได้”จูนจิ่วรีบโอบเอวของโม่อู๋เยว่ไว้ทันที เครื่องบินคนไร้ค่าโดยสาร นั่งไม่ต้องจ่ายเงิน โอบเอวเอาไว้ จูนจิ่วยังสามารถสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้ออันสมบูรณ์แบบใต้อาภรณ์นั้น แล้วยังมีกระดูกเชิงกรานที่ยื่นออก ซู๊ด หุ่นดีเหลือเกิน

ตอนที่กระโดดข้ามกำแพงอย่างน้อยใจและโมโห เสี่ยวอู่เข้ามาในห้องมองเห็นชิงหยู่ที่ยังคงถูกสาบให้อยู่กับที่ขยับไม่ได้ ในใจก็เหมือนได้รับการปลอบประโลมแล้ว ชิงหยู่รอยยิ้มหายไป มองเสี่ยวอู่เฉยเมย “เสี่ยวอู่เจ้าช่างเป็นแมวที่ฉลาดนัก เจ้าคลายจุดได้หรือไม่”

“เหมียว”โม่อู๋เยว่ไม่ได้จี้จุดสักหน่อย มันแก้ไม่ได้หรอก เสี่ยวอู่ส่ายหาง

หันหัวปีนขึ้นเตียงมุดไปนอนอยู่ในผ้าห่ม เหลือเพียงชิงหยู่ที่สะอื้นไร้คำพูดอยู่คนเดียว

ศิษย์น้อง ช่วยด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ