บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ นิยาย บท 339

บทที่ 339 ใช้ให้เจ้ารังแกแมว

ไม่รู้ว่าวิชาฝึกตนชั้นสี่อยู่ในมือของผู้อาวุโสใหญ่ และไม่รู้ความทะเยอทะยานที่อยู่ในใจของหยุนหนี จุนจิ่วและชิงหยู่ไปถึงที่พักที่มู่จิ่งหยวนจัดเตรียมเอาไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว พิถีพิถันอย่างมากเหมือนกับที่พักชั้นนอกสำนัก เงียบสงบและสะอาดสะอ้าน มีการออกแบบก่อสร้างที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป

มู่จิ่งหยวนยิ้มอย่างสง่างาม : “ยึดตามฐานะของพวกเจ้าในตอนนี้ที่อยู่ในสาขาที่สิบสาม ที่พักเช่นนี้กถือว่าดีที่สุดแล้ว จุนจิ่ว ชิงหยู่ ถ้าหากพวกเจ้าอยากจะเปลี่ยนที่พักที่ดีกว่านี้ จะต้องพยายามต่อสู้เพื่อไปอยู่ในชั้นที่สูงขึ้น ! อย่าถอดใจโดยเด็ดขาด”

มู่จิ่งหยวนแสดงท่าทีห่วงใยแต่ก็ยังคงไม่ละทิ้งความเข้มงวด เหมือนกับจุนจิ่วมอบบัตรคนดีให้แก่เขาอย่างไรอย่างนั้น มู่จิ่งหยวนเป็นคนดีที่หาที่ติไม่ได้จริงๆ

จุนจิ่วยิ้มอ่อนๆ แล้วพยักหน้าจากนั้นจึงพูดว่า : “ขอบคุณศิษย์พี่มู่ที่ช่วยเหลือ พวกเราเข้าใจดี”

“แฮ่ม ! ศิษย์พี่มู่วางใจ ข้ากับศิษย์น้องไม่มีทางหยุดอยู่แค่สาขาที่สิบสามอย่างแน่นอน แต่อยากจะถามศิษย์พี่มู่หน่อยว่า เมื่อไหร่ที่จะมีการทดสอบพรสวรรค์กัน ?”

“พรุ่งนี้ จะมีผู้อาวุโสสามท่านมาเป็นพยานรับรองด้วยตนเอง เมื่อถึงเวลานั้นข้าเองก็จะไปด้วย พวกเจ้าไม่ต้องตื่นเต้น พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อรักษาสภาพร่างกายของพวกเจ้าให้ดีที่สุด” มู่จิ่งหยวนกล่าว

ชิงหยู่ถามมู่จิ่งหยวนอีกว่า แล้วเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะสามารถไปยังห้องหนังสือได้ ในห้องหนังสือมีทุกสิ่ง ในนั้นมีวิทยายุทธระดับตำนานที่ดึงดูดให้นักจิตเข้าไปอ่านเป็นอย่างมาก ดังนั้นท่าทีที่ชิงหยู่แสดงออกมาถือเป็นเรื่องปกติ มู่จิ่งหยวนยิ้มเล็กน้อยและบอกพวกเขาว่า รอให้การทดสอบพรสวรรค์ว่าพวกเขาจะได้อยู่ในสาขาใดสิ้นสุดลงเสียก่อนก็จะสามารถไปยังห้องหนังสือได้

อีกทั้งมู่จิ่งหยวนยังถือโอกาสเตือนพวกเขาด้วยว่า “พวกเจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียวที่จะเข้าไปในห้องหนังสือ จะต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุดอย่าให้สูญเปล่า”

“แน่นอน”

“ข้ายังมีธุระที่จะต้องขอตัวไปจัดการก่อน พรุ่งนี้ค่อยพบกันใหม่” เมื่อบอกลามู่จิ่งหยวนเสร็จ จุนจิ่วและชิงหยู่ก็เข้าไปนั่งในห้องก่อน นั่งลงปุ๊บ ชิงหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา : “พรุ่งนี้จะต้องทดสอบพรสวรรค์ ศิษย์น้องมีความเห็นว่าอย่างไร ?”

จุนจิ่วเงยหน้าขึ้นมองชิงหยู่ นางรู้ดีว่าชิงหยู่เป็นห่วงเรื่องใด เป็นห่วงว่าพรสวรรค์ของนางจะถูกเปิดเผยจนนำมาซึงความเดือดร้อน

บนโลกใบนี้คนดีล้วนตายเร็ว ไม่ว่าจะเกิดจากตนเองหรือโลกภายนอก ก็เป็นไปได้ทั้งหมด ! ที่สำนักเทียนอู่จง ชิงหยู่แน่ใจว่าเขาจะสามารถปกป้องจุนจิ่วได้ ดังนั้นจึงไม่เคยขัดขวางแผนการของจุนจิ่ว แต่ที่นี่คือสำนักศึกสามทั้งสาม ความสามารถของพวกเขาไม่อาจเทียบกับที่นี่ได้เลย

เมื่อดูจากเจ้าเมืองไท่จู ก็พอจะดูออกแล้วว่า พวกเขาเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่รออยู่ที่ตีนเขาเพื่อที่จะปีนขึ้นไปบนภูเขาเท่านั้น ไม่อาจต่อกรกับผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่บนยอดเขาได้เลย

ชิงหยู่ : “ศิษย์น้อง ?”

“ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นห่วง พรุ่งนี้เมื่อข้ากินยาทิพย์เม็ดนี้เข้าไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงชั้นที่เจ็ดสีม่วงของข้าได้ ข้ารู้ว่าชั้นที่เจ็ดสีม่วงหาได้ยากยิ่ง หลายพันปีไม่เคยปรากฏขึ้นสักครั้ง แต่ชั้นที่หกสีน้ำเงินนั้นไม่ใช่ ในสำนักศึกสามทั้งสามไม่เคยขาดแคลนปีศาจชั้นที่หกสีน้ำเงิน” จุนจิ่วหรี่ตา “มู่จิ่งหยวนเป็นหนึ่งในนั้น”

นางเคยเห็นบันทึกของมู่จิ่งหยวนในห้องหนังสือที่ชั้นนอกสำนัก นายน้อยแห่งสำนักไท่ชู เป็นเด็กกำพร้าที่ครูใหญ่สำนักไท่ชูเก็บมาเลี้ยงตอนที่ออกไปข้างนอกครั้งหนึ่ง เมื่อพากลับมาก็ตรวจพบพรสวรรค์ชั้นที่หกสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ! จึงได้กลายมาเป็นศิษย์สายตรงของครูใหญ่สำนักไท่ชู

ไม่เพียงแค่มู่จิ่งหยวนเท่านั้น ที่สำนักเทียนซูและสำนักจื่อเซียวก็มีปีศาจที่มีพรสวรรค์ชั้นที่หกสีน้ำเงินอยู่ด้วย ตอนนี้มีนางเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็คงไม่แปลก กำลังดี

แต่ชิงหยู่ขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยเสียงที่ทุ้ม : “ชั้นที่หกสีน้ำเงิน ? ยาทิพย์เม็ดนี้สามารถทำให้พรสวรรค์ของศิษย์น้องปรากฏเป็นชั้นที่หกสีน้ำเงินได้อย่างนั้นหรือ ?”

“ใช่แล้ว” จุนจิ่วเขย่ายาทิพย์ที่กลิ้งอยู่ในมือไปมา นางเก็บตัวสองวันเพื่อจัดการกับสมุนไพร ไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ตั้งแต่ได้รู้สรรพคุณของยาทิพย์นี้จากปากของโม่อู๋เยว่ นางก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลั่นยาทิพย์นี้ออกมาได้สำเร็จในสองครั้ง เพื่อที่จะใช้ในการทดลองพรสวรรค์หลังจากเข้ามาชั้นในสำนักแล้ว

ชั้นที่เจ็ดสีม่วงนั่นโดดเด่นเกินไป แต่สำหรับชั้นที่หกสีน้ำเงินนั้น จุนจิ่วมีแผนการของตนเองอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ