บทที่ 374 ผู้แพ้ต้องถูกฆ่า
เลี้ยงแมวแบบนี้สักตัว ช่างดีจริง ดูอย่างจูนจิ่ว ไม่แม้แต่จะต้องขยับนิ้วมือของตัวเอง เสี่ยวอู่ก็กำจัดศัตรูให้เรียบร้อยแล้ว อีกอย่างจะเลวแค่ไหนก็นักจิตชั้นห้า ทุกคนต่างพูดได้ว่าช่างน่าอิจฉาจริง
ฝู้หลินจ้านเตะคู่ต่อสู้ปลิวไปล้มลงบนเวทีประลองหมากรุก เขาลูบคางพลาดคิดว่า ไม่สู้ประเดี๋ยวลองไปถามจูนจิ่ว แมวนี้ไปเอามาจากไหน ซื้อหรือเก็บได้ เขาก็อยากได้สักตัว
บนเวทีประลองหมากรุก ไม่ช้าก็เห็นผลแพ้ชนะชัดเจนขึ้น ราวกับไม่ได้มีความยากมากนัก จูนจิ่วเพียงแต่มองไปมอบๆแวบหนึ่ง สายตาแหลมคมของนางจู่ๆก็จ้องไปด้านหลังของทางขวามือ นั่นเป็นแพงขรุขระ เป็นธรรมชาติไม่ผ่านการแกะสลักใดๆ หินขรุขระรูปร่างประหลาด
ไม่มีอะไรเลย แต่จูนจิ่วกลับเห็นสายตาที่คอยสอดแนมอยู่ หรือจะเป็นญาณสุสาน
“เหมียว ”เสี่ยวอู่ตบเบาๆที่แขนจูนจิ่ว เก็บสายตากลับมา จูนจิ่วเห็นช่องใต้เท้าของตัวเองขยับ ได้ผู้ชนะทั้งหมดแล้ว ช่องทั้งหมดกลับไปยังจุดเดิมเป็นกระดานหมากรุกอันใหญ่
ตอนนี้คนที่ยืนอยู่ข้างบน ล้วนเป็นผู้ชนะจากเวทีประลองหมากรุกเมื่อครู่ คนแพ้ต่างก็ตกลงไปด้านล่าง ไม่เห็นศพ ยี่สิบห้าคน ตอนนี้เหลือสิบสามคน เพื่อเข้าสู่รอบสุดท้ายในการแย่งชิงมรดกของอ๋องเซ่หยิ่ง
บุรุษชุดแดงยกมือขึ้น ปลายสุดของเวทีประลองหมากรุกก็ปรากฏเส้นทางบนหน้าผาให้พวกเขาได้เห็น พอเดินไปดู มีก้อนหินที่รูปร่างไม่เหมือนกันอีกทั้งพอเหยียบขึ้นไปแล้วยังล่องลอยไม่นิ่ง ยากจะควบคุมร่างกายให้นิ่งได้ และด้านล่างของก้อนหินก็คือหุบเหวที่ลึกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่ระวังตัวตกลงไปก็คงต้องร่างแหลกสลาย
หงยิงสีหน้าเปลี่ยนไป จ้องมองพวกจูนจิ่วอย่างชั่วร้าย นางพูดว่า “พวกเจ้าไปก่อน”
“ฮึ กลัวข้าลอบทำร้ายเจ้าหรือ”จูนจิ่วเงยหน้ามองนาง ยิ้มเย็นอย่างล้อเลียน
หงยิงสีหน้าไม่น่าดูขึ้นมาทันที นางกำลังเรียบเรียงคำพูดจะตะคอกกลับไป
แต่นางยังไม่ทันได้หาโอกาสนั้น ชิงหยู่ก็เปิดปากพูดต่อว่า “หงยิง พวกเราไม่ได้ไร้ยางอายเช่นเจ้า เจ้ายังไม่ยอมรับอีกว่าเจ้ามันขี้ขลาด ไม่กล้าไปก่อน”
ฝู้หลินจ้าน “ฮ่าฮ่าฮ่า คำพูดของชิงหยู่คงเป็นสิ่งที่เจ้าคิดในใจสินะหงยิง พวกเราไม่สนใจที่จะลอบกัดเจ้าหรอกนะ”
หงยิงโกรธจนดึงเส้ออกมาเดินไปข้างหน้าครึ่งก้าว ตรงหน้าเป็นจูนจิ่วด้านหลังคือชิงหยู่ มู่จิ่งหยวน ฝู้หลินจ้านกับฝู้หลินซวงที่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าพร้อมกันหนึ่งก้าว หงยิงก้าวได้ครึ่งก้าวก็ต้องหยุด ได้แต่จ้องพวกเขาอย่างดุร้าย กำหมัดแน่นเสียงดังกรอด
เขาเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของเทียงฉิว เป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักศึกษาเทียนซู ไม่เคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อน ตั้งแต่วินาทีที่นางแตะต้องจูนจิ่ว ความอับอายก็ก่อเกิดอย่างไม่หยุดหย่อน ล้วนเพราะจูนจิ่วนำพามาให้ ฆ่านางก็จะสามารถแก้ไขทุกสิ่งได้
สายตามีแววเข่นฆ่า หงยิงกัดฟันกรอด นางไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถปกป้องจูนจิ่วได้ตลอด
จับเส้ไว้แน่น หงยิงหันหน้ากลับไปพลางฟาดเส้ลงไปข้างเท้าคนคนหนึ่ง “ยังจะยืนบื้อทำไม เจ้าไปก่อน”
ภายใต้การบีบบังคับของหงยิง ลูกศิษย์ชายคนนั้นได้แต่ตัวสั่นแล้วก็ก้าวเท้าไปเหยียบบนก้อนหินที่ไม่มั่นคง แม้ว่าก้อนหินนั้นจะไม่มั่นคงแค่ไหน แค่ขอเพียงแค่ยืนให้มั่นคงและค่อยๆก้าวไปก็จะยืนอยู่บนนั้นได้เอง เห็นลูกศิษย์ชายคนนั้นเดินไปไกลแล้ว หงยิงจึงก้าวเท้าออกไป
แต่ว่านางยังคงหันกลับมามองพวกจูนจิ่วเป็นระยะ เห็นได้ชัดว่ากลัวพวกเขาลอบทำร้าย
ชิงหยู่สีหน้าเย็นชา เผยแววสังหาร “หากเตะให้นางตกลงไปได้ คงสะใจน่าดู”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ
หนังสือยังไม่จบ ไม่อัปต่อแล้วเรอค่ะ...